เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เขียนไปเรื่อยนอวอรอรอตอพอลอ
ประวัติย่อของความลับ และเราจะกำจัดมันอย่างไร

  • ใครไม่มีความลับบ้าง?

    ความลับเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษยชาติ

    เด็กน้อย​ กำขนมไว้้มิดชิดในมือ​ไม่บอกน้องของตัวเอง
    นักเรียนที่ทำการบ้านไม่เสร็จ
    พนักงานที่ส่งงานไม่ทัน
    พ่อที่ไม่บอกใครว่าตัวเองกำลังป่วยหนัก
    ผู้ปกครองที่คิดการใหญ่อันมิอาจเปิดเผย
    พระเจ้าที่ปลูกผลไม้ไว้แล้วห้ามอดัมกับอีฟไปกิน
    ฯลฯ

    เอาง่ายๆ​ ผู้เขียนไม่เชื่อว่าเจ็ดแปดพันล้านคนในโลกใบนี้​ ตัดทารกทิ้งไป​ จะไม่มีใครไม่มีบางสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่​ ผู้เขียนเองก็มีไม่น้อย​ (พร้อมจะเจือจานไปถัวเฉลี่ยให้ใครที่ยังอาจไม่มีความลับ)

    ถ้าคนเรามีความลับกันแค่เดือนละหนึ่งเรื่อง​ตลอดชั่วอายุขัย​ มนุษย์หนึ่งคนจากตัวเลขของวันนี้จะมีความลับโดยเฉลี่ย​ 72​x12 =864 เรื่อง​ คิดกันกลมๆก็คือ​มากกว่า​ 6.5 ล้านล้านความลับ​ (หรือน้อยกว่าถ้าผู้เขียนอ่านเลขศูนย์​ในเครื่องคิดเลขผิด)​

    จำนวนอาจชวนงง​ ภาษาง่ายๆ​ ฮาร์ดดิสก์​ 1  terabyte เก็บข้อมูลได้  1ล้านล้านไบท์ และข้อมูลหนึ่งไบท์เก็บตัวอักษรได้หนึ่งตัว​ ถ้าความลับของมนุษย์เราเขียนย่อได้ด้วยตัวอักษรเดียว​ ก็ต้องใช้ฮาร์ดไดรฟ์เจ็ดเครื่อง​ (ประชากรเพิ่มขึ้นทุกวินาที)​

    สมมติว่าความลับของผู้เขียนคือ ฉันกำลังมีความรัก นั่นก็ใช้พื้นที่เก็บไปแล้ว 17 ไบท์ ถ้าทุกคนมีความลับเดียวกันนี้ ก็ต้องใช้ฮาร์ดไดรฟ์เก็บ 7 x 17 ตัว โดยประมาณ

    แต่ความลับหนึ่งๆ​ ไม่อาจเขียนได้ด้วยอักษรเดียว​ และมนุษย์ไม่ได้มีเรื่องที่จะซุกงำไว้เพียงหนึ่งเรื่องต่อเดือน​ แล้วโลกมนุษย์เราเอาความลับมากมายนี้ไปเก็บไว้ที่ไหน​ มันมักจะมีอะไรหลุดรอดออกมา​ได้​ มันอาจแสดงตัวออกในรูปแบบของสายตาที่ดูอ่อนล้าเพราะถูกน้ำหนักของความลับถ่วงหน่วงไว้​ ข่าวลือ​ เสียงซุบซิบนินทา​ ปริศนา​ บทกวี​ ข้อห้าม​ การทะเลาะเบาะแว้ง​ จนไปถึงสงคราม​

    ไปจนถึงการโกหกหลอลวงลำดับสอง​ สาม​ สี่​ ไปเรื่อยๆ​ เพื่อรักษาความลับเดียวเอาไว้

    คงไม่มีใครในโลกใบนี้​ ต่อให้อัจฉริยะอย่างมาร์ก​ ซักเคอร์เบิร์ก​ ผู้ถือข้อมูลทั้งลับและแจ้งของประชากรอย่างน้อย 2 พันล้านคนบนโลก ยังไม่อาจบอกได้ว่าโลกของเราใบนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยความลับมากมายขนาดไหนจนกลายเป็นโลกที่เราเห็นและอาศัยอยู่ในทุกวันนี้

    ปัญหา ปัญหา ปัญหา เยอะแยะท่วมเต็มโลก หลักการบริหารจัดการบอกว่า การจัดการปัญหาต้องไปแก้ที่ต้นเหตุ แต่ประโยชน์อะไรที่จะได้จากการชี้นิ้วหาผู้ผิดที่สร้างความลับครั้งแรกของโลก เราคงไม่ต้องย้อนไปไกลถึงสมัยพระคัมภีร์เก่าหรือพระเจ้าเหา หรือสมัยที่โฮโมเซเปี้ยนส์ตัวแรกของโลกไปจับกระต่ายได้สักตัวแล้วแอบกินตัวเดียวโดยไม่เอากลับมาแบ่งเพื่อนในฝูง

    เอาแค่จะหาสาเหตุของทุกๆ ความลับก็ยากจะสรุปแล้ว แต่เท่าที่ปัญญาของผู้เขียนจะมองได้ ทุกความลับมีความผูกพันกับความกลัว กลัวความสูญเสีย หวาดระแวงในอำนาจที่มีอยู่อย่างเปราะบาง กลัวจะเกิดอันตรายกับคนที่เราห่วงใย กลัวคู่แข่งทางธุรกิจจะลอกเลียนแบบหรือทำได้ดีกว่า เกรงกลัวโทษทัณฑ์ กลัวพ่อดุ กลัวผู้นำทำร้าย 

    เมื่อความลับที่หนึ่งลืมตาถือกำเนิดขึ้นแล้ว มันก็จะยักย้ายตัวเองเข้าไปเกาะกุมหัวใจและสมองของเจ้าของความลับนั้น ในหลายๆ ครั้ง มันผลักดันให้เขาหรือเธอกระทำการต่างๆ นานาเพื่อถนอมรักษามันไว้ มันสั่งให้เราเพาะปลูกความดำมืดในจิตใจ เพราะความดำมืดนั้นเหมาะแก่การเจริญเติบโตและงอกงามของคำลับ เหมือนป่ารกชัฏที่สัตว์ร้ายชอบอยู่อาศัย แถมยังเป็นสัตว์ร้ายที่เดินเข้ามาในทำเนียบขาวเพื่อสั่งให้ประธานาธิบดีทนุถนอมและประกาศให้สงวนรักษาไว้ทั้งตัวมันเองและแหล่งที่อาศัยเพาะพันธ์ุของมัน ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร

    แต่ความลับก็มีอายุขัย หลายๆ ความลับเป็นเรื่องเล็กที่ไม่สลักสำคัญใดๆ เช่นชายที่ซื้อน้ำส้มอร่อยๆ ไปเซอร์ไพรส์ผู้หญิงที่ตนเองชอบถึงบ้าน ความลับก็จบลงเมื่อน้ำส้มแสนอร่อยถึงมือ 

    หลายๆ แฟ้มลับของ CIA มีอายุ 50 ปีหลังจากผู้เกี่ยวข้องคนสุดท้ายในแฟ้มเสียอายุไปชั่วเวลาหนึ่ง 
    พ่อและแม่ที่ไม่ยอมบอกลูกว่าซานต้าคลอสเป็นเพียงจินตนาการ (บางรายอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นเพียงผลผลิตทางการตลาด) แต่วันหนึ่งเมื่อเด็กโตขึ้นก็ค้นพบเองว่าชายเคราขาวในชุดแดงที่เห็นตามห้างเป็นเพียงคนธรรมดาในชุดแฟนซี ความลับนั้นก็หมดความสำคัญไป

    เด็กหญิงที่เก็บเงินมาได้ยี่สิบบาท เธอยื่นเงินก้อนนั้นไปซื้อขนมถุงในร้านสะดวกซื้อ ความลับเล็กๆ นั้นก็หมดอายุลงและถูกแทนที่ด้วยความเสียดายเมื่อเธอหยิบขนมชิ้นสุดท้ายไปสัมผัสลิ้นของเธอ 
    เมื่อถึงเวลานั้น สัตว์ร้ายก็หมดอายุลง แต่ป่ามืดดำที่เป็นบ้านของมันยังอยู่ พร้อมจะบ่มเพาะความลับใหม่จะถือเกิดขึ้น

    ถ้าความลับเป็นปลาทอง มันคงไม่มีพิษสงอะไร ถูกเลี้ยงในโถแก้วใสเล็กๆ ออกมาทำร้ายข่มขู่ใครตามใจชอบไม่ได้

    การจะคาดหวังให้คนเรามีความประเสริฐบริสุทธ์ผุดผ่องนั้นคงยาก พระสงฆ์ผ้าเหลืองยังอวดอ้างอภินิหาร นักบวชคาทอลิกกระทำมิดีมิร้ายต่อเด็กหนุ่มในวงประสานเสียง ผู้นำบางคนอ้างคำสอนศาสดามาสั่งให้ผู้คนห้ำหั่นกัน บริบทของสังคมและโลกมีการเปล่ียนแปลงตลอดเวลา คำสั่ง ศีลธรรมที่ค่อยๆ ก่อเกิดมาหลายร้อยปีก่อน หรือบางทีแม้แต่เมื่อวันวาน อาจไม่เข้ากับปัจจุบันขณะ

    ครั้นจะเปลือยเปิดทุกซอกมุมของความคิดหรือประสบการณ์ให้ทุกผู้คนที่เห็น มันก็จะผิดกาละเทศะไปบ้าง ในวันที่รถเมล์ติดแหงกเหมือนมีคนเอากาวตราช้างมาชโลมถนนไว้ ถ้าใครสักคนหันมาคุยกับคุณและบอกความลับดำมืดทั้งหลายของตนให้คุณฟัง ถ้าคุณไม่โทรเรียกโรงพยาบาลบ้านั่นนับว่าคุณเป็นผู้มีกาละเทศะแล้ว  (แม้ว่าความกลัวของคุณจะสร้างความลับใหม่ขึ้นในใจก็ตาม) บางครั้งแม้กับคนที่สนิทยังมีชั้นความสนิทที่คนเราเลือกแบ่งปันบางเรื่อง เหมือนมีลำดับชั้นการเข้าถึงความลับส่วนตัว กระทั่งสามีและภรรยาที่เปิดเผยกันถึงเนื้อหนังมังสาแล้ว ส่วนใหญ่ก็ยังคงซุกงำบางเรื่องราวไว้กับตัว อาจจะเพราะเห็นไม่สำคัญหรือเล็กน้อยเกินกว่าจะรบกวนคู่ชีวิตของตนเอง

    แต่ก็นั่นแหละ ป่าแห่งความลับมันก่อเกิดขึ้นแล้ว เป็นบ้านพร้อมอยู่ให้ความลับลำดับถัดไปถือกระเป๋าใบเดียวเข้ามาพักอาศัยได้ โดยมีความลับก่อนหน้าวางเงินดาวน์ไว้ให้

    และเราในความหมายของสังคมจะทำอย่างไรได้ ที่จะไม่ทำให้เกิดวงจรความลับดำมืดนั้น?

    เป็นไปได้ไหมที่เราจะสร้างสังคมที่เกื้อหนุนเสริมกำลังใจกัน ให้คนที่เคยทำผิดพลาดหรือกำลังจะก้าวพลาดสามารถเปิดปากบอกใครต่อใครได้ ก่อนที่การกระทำหรือความรู้สึกกำลังจะแปลงร่างเป็นความลับ แน่นอนว่ามันต้องมีกติการ่วมกันในหลายๆ ประเด็น เช่นการให้อภัยและการยกโทษ การวางเฉย นั่นเป็นโลกในอุดมคติ การไม่ตัดสิน ฯลฯ โดยเส้นทางที่จะไปถึงต้องได้ทุกคนตกลงพร้อมใจกันที่จะก้าวไปสุ่จุดนั้น ต้องมีการตั้งกติกาบางอย่างหรือหลายๆ อย่าง

    แต่ก็นั่นแหละ ตามธรรมดาของกติกาสากล ประชากร 7.4 พันล้าน ต้องมีบ้างแหละที่แหกคอก บางคนอาจไม่พร้อมจะยอมรับและให้อภัยผู้อื่น คนเราถูกสร้างมาให้ตัดสินคนอื่นตลอดเวลา

    และเมื่อเขาหรือเธอรู้สึกผิด เขาและเธอก็จะกลัว

    ถ้าจะให้ Radical หรือเฉียบขาดมากหน่อยตามสไตล์ผู้นำสยองประเทศ เราอาจต้องลงโทษใครก็ตามที่ริอ่านมีความลับ ความลับเล็กๆ ก็จับไปตอกเล็บ หรือความลับใหญ่หน่อยก็ตัดหัวประจานเสีย และเมื่อคนเกรงกลัวต่อโทษทัณฑ์ คนเราจะไม่เก็บอะไรเป็นความลับ ... แต่ก็ไม่แน่ บางคนอาจเก็บความลับที่ตัวเองกำลังเก็บความลับบางอย่างไว้

    และความลับก็จะเกิดขึ้นมาอีกครั้ง

    อีกครั้ง

    และอีกหลายต่อหลายครั้ง

    ความลับเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษยชาติ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in