"ไปล้างเท้าก่อนขึ้นเตียงเลยเตนล์"
คิมโดยองที่นั่งจัดเสื้อผ้าอยู่หันไปว่าแฟนตัวดีที่กำลังจะก้าวขึ้นเตียงโดยปราศจากการชำระล้างเท้าใดๆ
"ก็อาบน้ำมาแล้วโดยอง อย่าบ่นน่า"
“ใส่รองเท้ามาจากหอนู้นมันก็เปื้อนปะ”
โดยองยังคงบ่นต่อไปแล้วหันไปมองหน้ามู่ทู่ที่เดินตึงตังออกไปล้างเท้าที่ห้องน้ำด้านนอก
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดก่อนที่ nct127 จะเริ่มเอเชียร์ทัวร์ และก่อนที่ wayv จะบินไปจีนเพื่อโปรโมทอัลบั้มใหม่อีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือนที่โดยองและเตนล์ไม่ได้เจอกันเลย เพราะคนนึงก็ไปอเมริกา คนนึงก็บินไปๆ กลับๆ จีน โดยองไม่ได้ตั้งตารอคอยวันที่จะเจออะไรขนาดนั้นเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวก็ต้องมีวันที่ได้หยุดตรงกัน
มันเป็น long distance relation มาสักพักแล้วแหละ
เกินคำว่าคิดถึงไปมากแล้ว
ทุกวันที่ได้หยุดตรงกันเตนล์จะมาหาเขาที่หอ 127 โดยปกติถ้ามานอนโดยองก็จะต้องรบกวนมาร์คลีที่เป็นรูมเมทให้ไปนอนห้องแฮชาน แต่ถ้าวันไหนโชคดีที่มาร์คกลับบ้าน โดยองก็จะสบายใจขึ้นหน่อย
“ไหนของฝากอะ” เตนล์นั่งขัดสมาธิแล้วเอาหมอนมากอดไว้ก่อนจะพิงหัวเตียง
“ใครบอกว่ามี”
“คิมดงยอง! เตนล์รู้นะ”
“บอกรอบที่ร้อยแล้วว่าให้ล้างเท้าก่อนทำไมชอบให้บ่นเนี่ย”
โดยองหยิบถุงพลาสติกใหญ่จากในตู้เสื้อผ้าแล้วเดินขึ้นไปนั่งข้างๆ เตนล์บนเตียง ร่างสูงพิงหัวเตียงแล้วยื่นถุงนั้นให้คนที่ยิ้มหน้าบานรอไว้ก่อนแล้ว
“อะ” เตนล์รีบเปิดถุงออกอย่างไวแล้วหยิบของในนั้นออกมา
มันเป็นเสื้อเบสบอลสีน้ำเงินขาวสองตัวที่ไซส์พอๆ กัน ตรงแขนมีสกรีนคำว่า California
“เสื้อคู่?”
“ซื้อที่แคลิฟอเนียร์อะ ตอนไป pier 39”
“ที่ไปดูสิงโตทะเลปะๆๆ เอ้ย อยากไปมากๆ”
“ชอบหรอ”
“โดยองก็รู้ว่าเตนล์ชอบสัตว์ พวกน้องๆ” เตนล์กอดเสื้อแจ็คเก็ตไว้แล้วเอาหน้าถูๆเหมือนกับว่าจะได้กลิ่นสิงโตทะเลออกมาจากเสื้ออย่างนั้น
“ไว้ไปกันโอเคมั้ย”
“จะได้ไปเมื่อไรล่ะ พูดไปเรื่อย”
“ถ้าอยากไปก็จะพาไป เมื่อไรก็จะพาไป”
“ก็ได้ๆ แล้วตกลงนี่เสื้อคู่หรอ ยังไม่ตอบเลย” โดยองพยักหน้าเบาๆ แล้วหยิบเสื้ออีกตัวมาไว้กับตัวเอง
“ชอบปะ มันไม่มีสีม่วงอะ”
“ชอบอยู่แล้ว แต่ว่าโดยองก็ซื้อเสื้อคู่กับจองอูปะ ที่แอตแลนต้า”
“อันนั้นไม่คู่หรอก ซื้อมาฝากพวกเด็กๆ ดรีมด้วย เป็นเสื้อกลุ่มไปแล้ว”
“โอเค้ๆ ”
เตนล์ลองสวมเสื้อแล้วเดินไปส่องกระจกที่ตู้เสื้อผ้าข้างเตียง เขาหันซ้ายหันขวาดูอยู่สองสามทีแล้วหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปเอาไว้หลายรูปจนเพลิน
ตอนนั้นเองที่โดยองเดินลงมาจากเตียงแล้วสวมกอดคนที่ยืนอยู่หน้ากระจกพร้อมเอาคางวางที่ไหล่
“ถ่ายรูปกันมั้ย”เตนล์กดชัตเตอร์รัวๆ ไม่รอคำอนุญาตจากอีกฝ่ายโดยองทำได้แค่ฝังจมูกลงบนไหล่แคบนั่น ปล่อยให้คนตัวเล็กบิดซ้ายบิดขวาถ่ายรูปต่อไป
“คิดถึง”
“หืม”
เตนล์หยุดถ่ายรูปแล้วมองหน้าอีกคนผ่านกระจกเงา รู้สึกเหมือนได้ยินคำที่ไม่ได้ยินมานานแสนนาน
“คิดถึงเตนล์”
โดยองพูดมันซ้ำอีกครั้งก่อนจะเดินถอยหลังไปสี่ห้าก้าวแล้วนั่งลงกับเตียงโดยยังกอดเตนล์เอาไว้แน่น โพสิชั่นตอนนี้เลยเป็นว่าเตนล์นั่งอยู่ตรงหว่างขาของเขาในขณะที่เขากอดเอวเตนล์เอาไว้ เบื้องหน้ายังคงเป็นกระจกเหมือนเดิม โดยองเอียงหัวซบกับหัวอีกคนแล้วหลับตาลง
“เตนล์ก็เหมือนกัน คิดถึงโดยองมากเลย”
มือเล็กลูบฝ่ามือเรียวที่กอดเอวเขาไว้แน่น เตนล์โยกตัวไปมาแล้วหันหลังไปหาอีกคนเพื่อมองตากระต่ายที่คุ้นเคยก่อนจะจุ้บลงบนปลายจมูกโด่ง
“เป็นอะไรทำไมเหมือนงอแงจังอะโดยอง”
คนที่นั่งซ้อนหลังไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะก้มลงมาฉกฉวยความหวานจากริมฝีปากบาง โดยองค่อยๆ จูบริมฝีปากเตนล์ไล่งับปากล่างปากบนสลับกัน ก่อนที่จะรับเอาเรียวลิ้นเล็กที่สอดเข้ามาก่อน คนตัวสูงดูดลิ้นซุกซนที่พยามแทรกเข้ามาทั่วปากของเขาเอาไว้ ส่วนมือข้างนึงก็ลูบเข้าไปใต้เสื้อนอนตัวบาง
เตนล์ขยับหัวตามองศาที่อีกคนนำทางก่อนจะถอนจูบออกมา ไล่จูบไปที่ปลายคางและกระเดือกของคนตัวสูง
“ล็อคห้องยังเตนล์” เป็นโดยองที่เอ่ยถามออกมาตอนที่เตนล์พยามจะหันตัวมานั่งคร่อมตักเขา
“เรียบร้อยแล้ว”
คนตัวเล็กนั่งลงบนหน้าขาแล้วเริ่มต้นจูบคนข้างล่างอีกครั้ง
สองร่างที่นั่งกอดก่ายกันต่างผลัดกันมอบจูบร่วมหลายนาที โดยองเริ่มถอดแจ็คเก็ตที่เตนล์สวมอยู่ออกแล้วตามด้วยเสื้อยืดตัวข้างใน กลายเป็นว่าตอนนี้ภาพที่เขาเห็นคือแผ่นหลังขาวเนียนและเอวเอสของแฟนหนุ่มสะท้อนอยู่ในกระจก
เขาเริ่มไล่จูบมาที่ไหล่แล้วไล่ลงไปบนเนินอก ระหว่างนั้นเขาก็ลงมือถอดเสื้อของตัวเองจนหมด
เนื้อแนบเนื้อ อกของทั้งสองคนแนบชิดกันก่อนที่โดยองจะจับตัวอีกคนให้ยืนเข่าคร่อมตัวเขาไว้ เตนล์รู้งานเป็นอย่างดีกับท่าทางแบบนี้ คนตัวเล็กจับไหล่กว้างเอาไว้แล้วป้อนส่วนที่หวานที่สุดในร่างกายให้อีกคนดูดดึง
โดยองทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกทั้งสองข้างจนแข็งเป็นไตและมันเลื่อม ตอนนั้นเองที่มือหนาก็ดึงกางเกงวอมที่อีกคนใส่ลงพร้อมชั้นในตัวบาง โดยองแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะเห็นภาพที่สะท้อนจากกระจกในเวลานี้เขาจินตการเอาไว้ว่ามันคงจะลามกมาก แผ่นหลังขาวๆ กับก้นเนียนๆของเตนล์ที่กำลังขยับร่างกายไปตามจังหวะที่ลิ้นของเขากำหนด
แต่เตนล์ก็คือเตนล์ คนที่ทำเรื่องที่โดยองคาดไม่ถึงเสมอ
คนตัวเล็กดันตัวออกมาจากการดูดดุนหน้าอกของคนที่นั่งอยู่ เกิดเสียงดังจ้วบลั่นห้องพร้อมกับหัวนมที่ยืดจนแทบจะหลุดคาปากโดยองไป
ขาเล็กทั้งสองข้างก้าวลงจากเตียงแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าแฟนหนุ่ม
“ยกตัวขึ้นหน่อยสิ” เตนล์โน้มตัวไปกระซิบแล้วค่อยๆ ดึงชิ้นล่างของโดยองออกทั้งหมด
ตอนนี้เขาทั้งสองคนเปลือยเปล่าเหมือนกันแล้ว
เข่ามนที่เคยได้รับบาดเจ็บของเมนเต้นสีไปกับพื้นกระเบื้องหินอ่อนตอนที่คนตัวเล็กพยายามจะยัดสิ่งที่ใหญ่มากๆ เข้าปาก เตนล์นั่งคุกเข้าอยู่ตรงหน้าพร้อมกับกำลังมอบความสุขให้โดยองผ่านลิ้นแดงๆ ที่อีกคนชอบนักหนา
เขาดูดมันที่ส่วนปลายแรงๆ และใช้มือรูดในส่วนที่ปากไปไม่ถึง เสียงอื้ออึงของโดยองทำให้เตนล์รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
“พอก่อนเตนล์ อื้อออ”
ตาหวานเงยขึ้นมาสบตาอีกคนแล้วลุกขึ้นยืน
“เถิบถอยหลังไปหน่อย” โดยองทำตามอย่างว่าง่ายก่อนที่เตนล์จะนั่งลงตรงหว่างขาของเขาและหันหน้าไปหากระจก
เราจะทำกันท่านี้จริงๆหรอ?
เป็นสิ่งที่โดยองคิดในใจ
การที่เห็นแผ่นหลังขาวเนียนผ่านกระจกว่าลามกแล้วแต่ตอนนี้เตนล์หันหน้าเข้าหากระจก มีตัวเขานั่งซ้อนอยู่เบื้องหลังและขาเรียวกำลังอ้าออก
“คิดถึงเตนล์มากมั้ย” คนตัวเล็กถามก่อนที่จะนั่งพิงลงมาบนอกเขา พยามซุกหัวลงบนซอกคอ
“อื้อ อเมริกามันไกลนะ จีนก็ไกล”
“ตอนนี้เตนล์อยู่ข้างหน้าโดยองแค่นี้เองนะ”
หลังจากพูดจบเตนล์ก็ทำสิ่งที่เค้าคิดไม่ถึงอีกสิ่ง มือเล็กจับเข้าที่แก่นกายของตัวเองแล้วรูดขึ้นลงเร็วๆ ขาค่อยๆ อ้าออก แต่บางจังหวะก็หุบเข้าเพราะความเสียว มือข้างซ้ายที่ว่างของเตนล์จิกลงบนหน้าขาของโดยอง
เขาไม่รู้จะทำยังไงเลย นี่เตนล์กำลังช่วยตัวเองให้เขาดูผ่านภาพสะท้อนกระจกด้วยท่าทางที่มันเกินคำว่าเสียวไปมาก
โดยองจูบลงที่ข้างหูเตนล์ใช้จมูกสูดดมกลิ่มหอมอ่อนๆ จากแชมพู โดยที่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากกระจกนิ้วมือด้านๆ ของโดยองที่ผ่านการทำอาหารมาเอื้อมขึ้นมาบดขยี้ยอดอกที่ชูชันอยู่ก่อนแล้ว
เราอยู่ในท่านั้นนานหลายนาทีจนเตนล์ปลดปล่อยออกมาน้ำขาวขุ่นเลอะมือเจ้าของมัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เตนล์ต้องการ
ตอนนี้โดยองแทบจะไม่อยากคาดการณ์อะไรไว้ล่วงหน้าแล้ว เตนล์เป็นคนที่เหนือความคาดหมายของเขาเสมอเลยจริงๆ
นิ้วเรียวที่เปื้อนน้ำของตัวเองสอดเข้าไปในช่องทางที่ปิดสนิท เตนล์ยกตัวขึ้นนิดเดียวเพื่อให้นิ้วเข้าออกได้สะดวก คนตัวเล็กนอนพิงลงมาอีกเพื่อให้ได้ท่าทางที่ถนัดก่อนจะชักนิ้วชี้เข้าออกช่องทางไม่หยุด
โดยองแทบจะทนไม่ได้กับภาพที่เห็น และเขาคิดว่าไม่มีเหตุผลให้ทนอีกแล้ว นิ้วพอร์นๆของโดยองจึงถูกส่งเข้าไปในปากเตนล์ให้ลิ้นชื้นแฉะนั้นโลมเลียให้พอเปียก ก่อนที่มันจะถูกส่งไปอยู่ในช่องทางกับอีกนิ้วนึงที่เปิดทางอยู่ก่อนแล้ว
“อื้ออออ”
ร่างบางตรงหน้าบิดเร่าๆ ตอนที่นิ้วของโดยองสอดตามเข้าไปกลายเป็นว่าตอนนี้เตนล์กำลังช่วยตัวเอง โดยที่มีนิ้วของโดยองช่วยเตนล์อีกทีไปด้วย คนตัวเล็กขยับตัวอยู่อีกไม่กี่ทีก็ต้องถอนนิ้วออกมาก่อนเพราะกลัวว่าตัวเองจะเสร็จนำอีกคนไปหลายรอบ
เตนล์หันหน้ามาเผชิญกับอีกคนที่ยังคงเอานิ้วแช่ไว้ในตัวเขา ขาเล็กกางคร่อมแก่นกายของอีกคนก่อนจะขยับตัวลงให้ช่องทางที่เต้นตุบๆ นั้นตรงกับเอ็นร้อนของโดยอง
นิ้วที่อยู่ข้างในค่อยๆ ควานและหมุนวนให้ช่องทางนั้นเปิดออกจนพอดีกับสิ่งที่จะเข้าไปทดแทน เมื่อได้ที่แล้วเตนล์ก็นั่งลงบนแก่นกายของเขาจนมันมิดลำเข้าไป
“ขยับเลยได้มั้ยเตนล์ ไม่ไหวแล้ว”
“อื้อออ”
เตนล์โอบคออีกคนไว้แล้วเริ่มขย่มลงบนตัวด้วยจังหวะที่ไม่ค่อยคงที่
ความเสียวที่ตีขึ้นมาที่หน้าท้องบอกกับเขาว่ารอบสองมันจะต้องสุดกว่ารอบแรกที่ปลดปล่อยไปแล้วแน่ๆ
โดยองทำได้เพียงแค่บีบแก้มก้นอีกคนให้ช่องทางมันยืดหยุ่นพอที่จะให้แฟนเขาไม่ต้องเจ็บมาก เขาเอียงตัวไปมองเงาสะท้อนจากกระจก
ตอนนี้มันลามกที่สุดเท่าที่จะจินตนาการออกเลยช่องทางสีสดของเตนล์ที่มีท่อนกายของเขาเข้าๆ ออกๆ
ปากทางที่ตอดรัวจากภาพนั้นเป็นความรู้สึกที่ตรงกันกับความรู้สึกจากกลางลำตัวของเขาในตอนนี้
“เตนล์เสียวอะโดยอง”
คนข้างบนกัดปากตัวเองแน่นจนจะทนไม่ไหวแต่ก็ยังไม่คลายความถี่ของจังหวะที่ตัวเองควบคุมอยู่
“เสียวเหมือนกัน”
โดยองตอบไปแล้วเด้งเอวสวนกลับจนส่วนปลายคงจะโดนจุดที่สำคัญของเตนล์ร่างบางครางหนักๆ อยู่สามสี่ทีก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
โดยองจับตัวอีกคนให้นอนลงดีๆ ก่อนจะจับขาข้างหนึ่งพาดขึ้นมาบนไหล่เขา เขาจับเท้าของเตนล์มาจูบลงไปที่ฝ่าเท้า ไล่จูบมาจนถึงข้อเท้าและปลีน่องที่มีกล้ามเนื้ออยู่
เตนล์อยู่ในอาการพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ตอนนี้เขาแทบจะไม่มีสติแล้ว หลังจากเพิ่งเสร็จไปสองรอบแต่แฟนหนุ่มของเขาก็อึดเหลือเกิน
โดยองจับหัวเข่าให้อ้าออกอีกครั้งแล้วกระแทกเอวลงไปตามความต้องการ
“จูบบ จูบหน่อย”
คำสั่งมีผลทันที โดยองก้มลงไปจูบแรงๆ ที่ปากเตนล์ในขณะที่เอวก็ยังคงทำงานไม่หยุด
“จะเสร็จแล้ว อึกก”
โดยองพูดชิดริมฝีปากในขณะที่จูบกันอยู่ เตนล์ดูดดึงริมฝีปากล่างของเขาไว้แน่นก่อนที่จะรับเอาลูกๆของโดยองที่ถูกปล่อยเข้ามาในช่องทางในจังหวะเดียวกัน
โดยองล้มตัวลงทับคนด้านล่างขณะที่ของเขายังค้างอยู่ข้างใน สองร่างหอบหายใส่กันแล้วมองตากันอยู่นานเป็นเตนล์เองที่ยิ้มออกมาก่อน
“ชอบมั้ย”
“....”
“ชอบมั้ยที่เตนล์ทำแบบเมื่อกี้”
โดยองไม่ตอบแต่ยื่นหน้าไปจุ้บลงบนปากแฟนตัวดีเบาๆ เขาลุกขึ้นเพื่อจะถอนแกนกายออก แต่ขาที่เกี่ยวเอวอยู่ก็รั้งเข้าเอาไว้
“เตนล์ปล่อยก่อน”
“อยู่แบบนี้ไม่ได้หรอ ขออยู่แบบนี้ก่อนนะ”
“ไม่เหนียวตัวหรือไง ลุกก่อน จะได้เช็ดให้”
“อือออ โดยองอะ ก็ไม่ยอมใส่ถุงยางเอง”
“มันหมดตั้งสองเดือนแล้วนะ ไม่ได้ซื้อเผื่อไว้หรอก”
“แล้วอันที่ลิ้นชักหัวเตียงของใคร”
“มาร์ค”
“หะ”
“...”
“มาร์คใช้กับใคร”
“เออช่างมันเถอะ” โดยองทำหน้าเหลอหลาเมื่อตอนที่ความลับที่เขาช่วยมาร์คลีปิดมาร่วมสองเดือนกำลังจะถูกเปิดเผย
“โดยองบอกมา” คนตัวเล็กบีบไหล่เขาเพื่อเค้นความจริงโดยองรู้เลยว่าหนีไม่พ้นแน่ๆ เตนล์เป็นคนที่ถ้าอยากรู้อะไรก็ต้องได้รู้
“โอเคๆ บอกแล้ว”
“ว่า”
“แ..ฮ แฮชาน”
“...”
เตนล์นิ่งไปเลยตอนได้ยินคำตอบมัน เป็นเรื่องจริงที่แต่ก่อนเตนล์กับมาร์คค่อนข้างสนิทกันมาก แต่ปีสองปีที่ไม่ได้ทำงานด้วยกันเลยนั้นทำให้ทั้งสองคนไม่ค่อยได้คุยกัน ไม่แปลกใจเลยที่เตนล์จะตกใจ เพราะมาร์คก็เป็นน้องรักของเตนล์เหมือนกัน
“ตกใจหรอ ทำไมอะ เตนล์”
“อื้อ ไม่รู้อะ” เตนล์เอาขาที่เกี่ยวเอวเขาไว้ออกแล้วนอนนิ่ง โดยองเลยได้จังหวะลุกออกไปแล้วหยิบทิชชู่เปียกมาทำความสะอาดให้เตนล์แล้วแต่งตัวจนเรียบร้อย
“ไปเอาออกในห้องน้ำก่อนนอนนะ ลุกไหวมั้ย”
“ไหวๆ เดี๋ยวเตนล์ทำเองก็ได้”
“แน่นะ”
“อื้อ”
เตนล์ลุกเดินออกไปพร้อมกับผ้าเช็ดตัวและชุดนอนใหม่เพื่อใช้ห้องน้ำด้านนอก โดยองจึงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเพราะตอนนี้มันเต็มไปด้วยน้ำอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด
กลับมาคิดอีกทีก็คงไม่แปลกที่เตนล์จะตกใจ เพราะมาร์คกับแฮชานที่เถียงกันตีกันอยู่ทุกวันดูไม่มีท่าทีจะสปาร์คกันได้เลยกลับลงเอยกันเฉย
จริงๆ มันเป็นเพราะช่วงก่อนสิ้นปีที่แฮชานจะขาเจ็บ ตอนนั้นมาร์คกำลังจะออกจากดรีมเลยอารมณ์อ่อนไหวนิดหน่อย บวกกับตอนที่แฮชานต้องพักรักษาตัวอยู่บ้านเกือบๆ 3 เดือน
คงเป็นตอนนั้นเอง ที่มาร์คเริ่มรู้ตัวเองว่าการขาดอีกคนไม่ได้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย
โดยองวกกลับมาคิดถึงเรื่องตัวเองกับเตนล์ มันแทบจะไม่ต่างกันเลยด้วยซ้ำ เขาทั้งคู่เทรนด์มาแทบจะพร้อมๆ กันอยู่ด้วยกันมาสองสามปีก่อนจะเดบิลต์จริง
ช่วงแรกที่ทำงานด้วยกันเขาก็จับสังเกตได้ว่าเตนล์มักจะชอบแกล้งเขาเป็นพิเศษ ถึงแม้จริงๆ แล้วเตนล์จะแกล้งทุกคนก็เถอะ แต่กับเขามันมักจะมีอะไรพิเศษที่เขาก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน
เราอยู่กันแบบนั้นแค่ไม่กี่เดือนก็ต้องแยกกัน โดยองมาเริ่มโปรเมท127 และมันก็แทบจะไม่ได้หยุดพักเลยบวกกับตอนที่เตนล์ขาเจ็บ กว่าจะรู้ใจตัวเองก็ตอนที่ไม่มีอีกคนอยู่ข้างๆ แล้ว
ตอนปลายปี 2017 ที่เริ่มทำอัลบั้มรวม 18 คนเป็นช่วงที่โดยองทะเลาะกับตัวเองบ่อยที่สุด การกลับมาเจอหน้ากันเพื่อซ้อม เพื่อทำงานกันอีกครั้ง จึงเป็นโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ความรู้สึกของตัวเอง โดยองรู้ว่ามันไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายกับการที่จะให้เตนล์พูดความรู้สึกของในใจออกมา และเขาก็ทำมันสำเร็จ วันนั้นเองหลังถ่ายเอ็มวี black on black เตนล์ก็ยอมพูดออกมา เป็นประโยคที่เขาจำมาจนถึงทุกวันนี้
“ไม่อยากเป็นเพื่อนโดยองแล้วได้มั้ย”
“....”
“คิดถึงมากเลยอะ”
ตอนนั้นเราไม่ได้พูดว่าจะเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ
จบประโยคคิดถึงของเตนล์โดยองก็ไม่ได้อนุญาตให้อีกฝ่ายพูดอะไรต่อ
เขาจัดการปิดปากมุบมิบนั่นด้วยปากของเขา และพาอีกคนมานอนที่หอ 127
เป็นคืนที่โดยองจะไม่มีวันลืมเลย
“มาแล้ว”
เตนล์เดินเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับสวมชุดนอนใหม่
“เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนะ อย่าเพิ่งนอนล่ะ”
“อื้อ” เตนล์ว่าไว้แค่นั้นก็โดดขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียง
ใช้เวลาไม่ถึง15นาทีโดยองก็เข้ามาในห้อง คนตัวเล็กหัวเริ่มจะไถลงไปกับหมอนแล้วแต่ตาก็ยังคงจ้องจอไอแพด มือก็วาดอะไรไปเรื่อย
“เขยิบหน่อย นอนด้วย”
ขายาวปีนขึ้นไปบนเตียงแล้วเขยิบให้แฟนหนุ่มที่เพิ่งละจากไอแพดวางหัวทุยลงบนอก
“คิดเรื่องมาร์คอยู่หรอ” โดยองพูดทำลายความเงียบหลังจากที่เห็นเตนล์ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที
“อือ คือเตนล์ไม่ได้อะไรที่น้องคบกัน เตนล์แค่คิดถึงเรื่องของตัวเองบ้างเฉยๆ”
“ยังไง”
“มาร์คกับแฮชานถึงจะตีกันเถียงกันเป็นประจำ แต่ก็อยู่ด้วยกันมานานมากเลยนะ ตั้งแต่เทรนด์จนมาเริ่มทำ127 เริ่มทำดรีม จนตอนนี้อยู่ด้วยกันแบบอยู่ด้วยกันมากจริงๆ เลยอะ”
“อ่าฮะ แล้ว”
“เตนล์ไม่แปลกใจหรอก มาร์คอะเป็นเด็กที่พื้นฐานจิตใจดี แฮชานก็แคร์มาร์คมากๆ มาแต่ไหนแต่ไร จะสปาร์คกันเข้าสักวันก็ไม่ได้เซอไพรส์เลย มันเป็นส่วนนึงของความผูกพันนะ”
“เตนล์กำลังคิดว่าการไม่ได้อยู่ด้วยกันของเราจะเป็นปัญหาหรอ”
“ตอนที่เราอยู่เกาหลีด้วยกัน เพราะตารางงานเลยทำให้เราเจอกันยากใช่มั้ย แต่เตนล์ก็ยังสบายใจว่า เออคืนไหนที่ว่างแล้ววันต่อไปไม่มีงานเช้า เตนล์ก็ยังพอมาหาโดยองได้”
“แต่ตอนที่อยู่จีนแล้วโดยองอยู่เมกา..”
คนตัวเล็กหยุดพูดไปกระทันหันเสียงสูดน้ำมูกเข้ามาแทนที่
“เตนล์”
โดยองก้มไปมองคนที่นอนอยู่บนอกเตนล์ซบหน้าลงกับเสื้อยืดของเขา น้ำตาน่าจะกำลังไหลออกมาจากสัมผัสเปียกชื้นที่โดยองได้รับ
“เตนล์คิดถึงโดยองแค่ไหนก็บินไปหาไม่ได้ เตนล์ทรมาน เตนล์พยายามไม่โฟกัส พยายามคิดถึงแต่เรื่องงานแต่โดยองก็รู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน”
“รู้ รู้สิ”
“เตนล์ขอโทษที่งอแงนะ”
ตาหวานๆ เงยขึ้นมาสบตาโตที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“ไม่เป็นไรเลยเตนล์ ฟังนะ คู่มาร์คแฮชานก็คือคู่มาร์คแฮชาน คู่เราก็คือคู่เรา ทุกคู่ก็มีเรื่องราวมีปัญหาที่ต่างกันไป”
“ใครว่านี่ไม่คิดถึงเตนล์อะ คิดถึงมาก แต่ในเมื่องานมันเป็นแบบนี้ นี่ก็ไม่ยอมคบคนอื่นที่อยู่ใกล้เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหาแบบนี้หรอก แล้วก็ไม่ยอมให้ความรู้สึกของเรื่องนี้มารบกวนความฝันของเตนล์กับของนี่ที่ตั้งใจทำกันมา”
“โดยอง”
“อยู่ไกลๆ กันจะได้คิดถึงกัน ตอนเจอจะได้มีความหมายไง อย่างวันนี้เตนล์ทำให้นี่มีความสุขมากเลยนะ”
“โดยองชอบที่เตนล์ทำวันนี้หรอ”
“อือฮึ ชอบสิ”
เตนล์ยิ้มจนหน้าบานแล้วขยับตัวขึ้นไปหอมแก้มโดยองจนจมูกบี้ติดหน้า
“วันหลังเตนล์ทำให้อีก เอาแบบยิ่งกว่านี้เลยนะ”
“มียิ่งกว่านี้อีกหรอ”
“อื้อ แต่วันนี้เตนล์ก็เขินมากแล้วอะ เกิดมายังไม่เคยช่วยตัวเองให้ใครดูเลย”
“ดีแล้ว ทำให้นี่ดูคนเดียวก็พอ เข้าใจมั้ย”
“แน่นอนอยู่แล้วโดยอง เตนล์ขอพูดอีกนิดนึง”
“อื้อ”
“เตนล์รักโดยองนะ”
“อือฮึ รักเตนล์เหมือนกัน”
“....”
“เป็นอะไรเตี้ย”
“นี่คือคำว่ารักครั้งที่เท่าไรนะที่โดยองบอกเตนล์ ขอจดไว้ก่อนเลย”
“เวอร์ ถึงไม่พูดก็ไม่ได้แปลว่าไม่รักปะ”
“แต่พูดมันก็ได้ยินไง คนฟังชื่นใจน่ะเข้าใจปะ”
“หรอ แล้วการที่นี่โทรหาทุกคืน มีอะไรก็คาคาโอไปบอก มาหาก็ทำข้าวให้กินทุกมื้อ ปวดขาก็นวดให้ แบบนี้เรียกว่ารักหรือยัง”
“แบบนี้วินวินก็ทำให้เตนล์ได้ เจโน่ก็ทำได้”
“แล้วคนอื่นใช้ปากให้เตนล์ได้เหมือนกันมั้ยล่ะ คนอื่นช่วยเตนล์ตอนที่เตนล์...”
“พอเลย! หยุดพูด!”
“เห็นมั้ยถ้านี่ไม่บอกเตนล์ก็จะคิดว่านี่ไม่รักหรอ”
“ก็ป่าว”
“เลิกคิดมากได้แล้วเตี้ย แค่นี้ก็รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว”
“อื้อ”
“นอนกันเถอะ มาโป๊ะๆ เหม่งทีก่อนดิ้”
ก๊อกๆๆ
ตอนที่สองร่างกำลังจะเข้านอนก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เตนล์ที่ลุกง่ายกว่าเลยเดินไปประตู
แสงไฟจากข้างนอกสาดเข้ามาในห้องเป็นมาร์คลีที่ใส่แค่กางเกงวอร์มตัวเดียวยืนเปลือยอกพิงขอบประตูอยู่
“ว่าไงมาร์ค เอาของหรอ”
มาร์คลีทำท่าจะเดินเข้ามาในห้องแต่เตนล์กันไว้ก่อน
“หลบไอหน่อย จะเข้าไปหยิบของหน่อยเดียว ตรงหัวเตียงเนี่ย”
“ยืนอยู่นี่แหละ”
เตนล์เดินเข้าไปหยิบถุงยางในลิ้นชักยัดใส่มือมาร์คที่ทำหน้าเลิ่กลั่กรีบเก็บถุงยางใส่กระเป๋ากางเกง
“พี่เตนล์”
“ในกล่องมีสามอัน ถ้าใช้หมดคืนนี้แฮชานคงไม่มีเสียงร้องเพลงแล้วมั้ง”
เตนล์ว่าไว้แค่นั้นก็ปิดประตูแล้วล็อคเหมือนเดิม
“55555555555 สะใจว่ะ”
ขาสั้นๆ พาตัวเองเดินไปขึ้นเตียงแล้วนอนลงท่าเดิม
“ไปแกล้งมาร์คอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็โดนตีหรอก”
“ก็มาร์คตลกอะเวลาเด๋อด๋า ไม่คิดเลยว่าเด็กๆ จะโตกันขนาดนี้แล้วอะโดยอง”
“เตนล์ก็โตมากแล้วนะ”
“23 เอง อายุเท่ากันเนี่ย”
“แต่อย่างอื่นเตนล์ไม่ 23 เลยนะ หื้ม” โดยองก้มลงมองหน้าหวานๆ ที่เงยมองเขาก่อนจะขยับตัวไปคร่อมอีกคนไว้
“ขอพิสูจน์อีกทีได้มั้ยว่าความคิดถึงของเตนล์มันเยอะแค่ไหน”
โดยองถอดเสื้อของอีกคนออกแล้วโยนไปข้างเตียง
“อยากเอาก็บอกว่าอยากเอาน่า ทำเป็นพูด”
“แล้วให้เอาป่าว”
เตนล์ยิ้มมุมปากแล้วกดคออีกคนลงมามอบจูบที่หวานที่สุดของค่ำคืนนี้ให้
มันก็แค่นี้เองนะความสัมพันธ์ของเรา ปีกว่าที่ผ่านมาก็ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้ง แต่โดยองกับเตนล์ก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง
และต่อให้ต้องอยู่ไกลกันอีกกี่พันไมล์ จะจีนญี่ปุ่นเมกาแคนาดา โดยองก็จะเป็นคนเดียวที่เตนล์ยอมทนกับความคิดถึงเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันวันใดวันหนึ่งตลอดไปเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in