เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ตอนแรกก็กะว่าแค่จัดบ้าน แต่ได้จัดการชีวิตและความคิดตัวเองไปด้วยซะงั้น!piccarioman
เก็บไว้ก็ไม่น่าจะได้ใช้แล้วนะ(?)
  • อีกสิ่งที่กินพื้นไปหนึ่งตู้เต็มๆ คือชีทเรียน ...... มีตังแต่มัธยมยันป.โท เยอะมากกกกกกกก

    ขนาดทิ้งไปบางส่วนแล้วนะ ก็ยังเยอะอยู่ดี

    มานั่งรื้อดูอีกทีคือ เก็บไว้ทำไมวะะ? 55555555555

    ชีทของป.ตรีนี่เข้าใจว่าเก็บเผื่อเรียนป.โท ซึ่งก็ได้ใช้จริง แต่ป.โทก็มีชีทใหม่อีก แล้วส่วนตัวเป็นคนมีสมุดเลกเชอร์ short note สรุปเรื่องที่เรียนไว้อยู่แล้ว ก็ได้ใช้อันนั้นกับ text แหละ ไม่ได้ใช้ชีทเลย 5555555555

    แล้วยิ่งตอนนี้อะไรๆ ก็หาได้ในกูเกิล มีองค์ความรู้มากมายให้เลือกเรียน มีมีเดียการสอนหลากหลาย ทั้งตื้นลึกหนาบาง ทั้ง beginner และ expert

    เลยมานั่งคิดอีกทีว่าชีทพวกนี้คงไม่ได้ใช้จริงๆ แล้ว ความรู้มันอัพเดตทุกวัน ขนาด text ที่ซื้อไว้ตอนเรียนเป็น 1st edition แต่ตอนนี้เป็น 4th edition แล้ว

    ของพวกนี้มันคงเก่าเกินกว่าจะต้องเก็บไว้ ทั้งตัวกระดาษและข้อความบนนั้น ..... ก็คงถึงเวลาต้องส่งมันไปทำหน้าที่อื่นสักที 
  • แต่เรายังตัดใจทิ้งพวกเลกเชอร์ รายงาน โปรเจกต์ไม่ลงนะ ก็ทำมาเองกับมือ ทิ้งไม่ลงจริงๆ ขอเก็บไว้ชื่นชมหน่อย ..... แต่ก่อนไม่มีใครชม เพราะทำได้ตามมาตรฐาน แต่พอมองย้อนกลับไป เห็นงานตัวเองแล้วแบบ ตัวชั้นเมื่อก่อนเก่งจังเลยยยยย ทำไมตอนนี้เป็นแบบนี้วะะะ 555555555555555555

    กับยังมีชีทบางส่วนที่รู้สึกว่าต้องเก็บไว้จริงๆ คือตัวเราเราก็จะรู้อ่ะนะะ มันจะมีเรื่องบางเรื่องที่ต่อติดยากๆ ไม่ค่อยเหลือความรู้ในหัว ก็ต้องเก็บตัวสปาร์กไว้ก่อน ไม่งั้นถ้าต้องใช้ขึ้นมาคือต่อไม่ติดแน่ๆ 55555555555555

    อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เดี๋ยวได้เรียนป.โท เดี๋ยวได้ข้ามสายงาน คือชีวิตไม่เคยแน่นอน ไม่เคยได้ทำอะไรตามแพลน เลยไม่วางแพลนมันแล้ว!

    แต่ถ้าจะซุยให้รอด ก็ต้องเตรียมของใส่กระเป๋าดีๆ อ่ะเนอะ เหลือดีกว่าขาด แต่ถ้าไม่ได้คาดไว้ก็ลุยมันโลดดดดดดดด 555555555

  • แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เรารู้ว่าต้องเตรียมตัวเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ได้วางแผนไว้ยังไงนะ

    เมื่อก่อนเรากลัวการเริ่มต้นจากศูนย์มาก ไม่เคยคิดจะข้ามสายงานเลย กลัวว่าจะกลายเป็นคนไม่เก่ง กลัวจะได้รู้ความจริงว่าตัวเองโง่ เลยไม่ยอมเริ่มนับหนึ่งใหม่ ทั้งที่ซัฟเฟอร์กับการแช่อยู่ที่กิโลเมตรที่เจ็ดสิบ และไม่สามารถเดินต่อไปได้ไกลกว่านั้น

    แต่พอถูกบังคับกลายๆ ให้ต้องข้ามสายงาน แล้วต้องมาเริ่มต้นใหม่แบบกล้าๆ กลัวๆ เราก็พบว่า เราเก่งกว่าที่ตัวเองคิด

    เก่งในที่นี้คือ เราก็เก่งพอที่จะหาวิธีทำงานได้นี่นา เราก็เรียนรู้ได้นี่นา เราก็มีไหวพริบนี่นา แกไม่ได้แย่นะเว้ย ตัวชั้น!!

    มันทำให้เรามั่นใจขึ้นมานิดนึงว่าต่อให้เราไม่เหลือหลักประกันใดใด ว่าเราจะไม่ล้มลงไป แต่เราก็น่าจะยังลุกขึ้นมาได้ ต่อให้เราล้มก็ตาม

    เราเริ่มยอมรับตัวเราที่ไม่เก่งได้ แค่ยังมีแรงที่จะเรียนรู้ก็เก่งมากแล้ว!

    เรายอมรับว่าเรามีเรื่องที่ไม่เข้าใจ และมีเรื่องที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ และเราจะพยายามดู ..... ก็อยากเก่งขึ้นอีกนิดนึงอ่ะ ตอนที่ทำได้ มันรู้สึกดีจริงๆ นะ!!

    เราเริ่มเข้าใจว่า สิ่งที่มันสะสมอยู่ในตัวเรา ทั้งการเรียน การทำงานที่ผ่านมา มันได้งอกเงยออกมาเป็นตัวเราในตอนนี้

    เราไม่ต้องการหลักประกันเป็นชีทเรียน ที่เผื่อว่าจะได้ใช้ แต่คือเทคนิคการเรียน การหาความรู้ใส่ตัว การพัฒนาทักษะต่างๆ ที่เราสะสมมาต่างหาก ที่เป็นหลักประกันว่า แม้เราจะแพ็กอุปกรณ์ใส่กระเป๋ามาไม่เยอะ แต่เราน่าจะพอเดินทางต่อไปได้ โดยใช้สกิลที่เรามี

    ไปต่อไหวแหละะ ...... เนอะะ
  • อนึ่ง เดี๋ยวนี้การเรียนก็แจกเป็นซอฟต์มีเดียมากขึ้น ไม่ค่อยมี hard copy แล้ว ซึ่งมันก็ดีในแง่ที่ไม่เปลืองกระดาษ แต่เราก็ยังชอบจด short note หรือเลกเชอร์อยู่นะ

    สำหรับเรา hard copy ที่ทำเองแบบนี้ค่อนข้างมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจมาก เพราะมันผ่านกระบวนการรับรู้มากกว่าแค่มองหรือฟัง

    สังเกตจากวิชาไหนที่เราจดเก่งๆ เราจะจำได้ แบบจำแก่นของวิชานั้นๆ ได้ เข้าใจ ต่อติด เหมือนฝังเข้าไปในหัว ต่อให้ลืมดีเทล แต่ไม่ลืมแก่นวิชา ทวนนิดหน่อยก็จำได้แล้ว

    เทคนิคการเรียนของแต่ละคนไม่เหมือนกันก็จริง แต่ถ้าใครแค่ฟังอาจารย์สอนแล้วไม่รู้เรื่อง สติหลุด ก็ลองจดดู เผื่อจะได้ผลนะ :)

    อสอง บางคนอาจจะชอบจดในแอพ แต่ถ้าเกิดว่ายังรู้สึกไม่ได้ผล ลองจดบนกระดาษดู

    เราก็ไม่แน่ใจว่าเพราะเราเป็นสายอนาล็อกรึเปล่า ถึงชอบกระดาษ แต่กระดาษมีเวทมนตร์กับเราจริงๆ การได้สัมผัสกับกระดาษโดยตรง พลิกไปพลิกมา มันทำให้เราอ่านรู้เรื่องขึ้น เข้าหัวมากขึ้น

    เหมือนตอนเขียนไดอารี่ หรือทำ scrap book ก็ด้วย เหมือนความรู้สึกมันไหลออกมา หยุดไม่ได้เลย

    ถ้าหาที่ระบาย หรือจัดการความคิดไม่ได้ อยากให้ลองเขียนดู แค่ลากเส้นเฉยๆ ก็ได้ ลากไปตามใจ ไม่ต้องคิดอะไร แค่ปล่อยให้มันระบายออกมา ..... สำหรับเรามันช่วยได้นะ และหวังว่าจะช่วยใครสักคนได้ด้วยเหมือนกัน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in