บางครั้ง.. ความรักของเรามันก็เหมือนมีคมดาบจ่ออยู่ที่กลางอก
และมันพร้อมจะแทงทะลุได้ทุกครั้งเมื่อคนเราไม่ต้องการสิ่งนั้น
" กลับดีๆนะ " ผมโบกมือลาเพื่อนร่วมงานที่อยู่ทำงานด้วยกันจนดึก โชคดีที่เขามีรถและทางกลับคอนโดของเราก็ทางเดียวกัน เขาเลยอาสาแวะมาส่งผม มันก็ดีกว่าขึ้นรถไฟใต้ดินในเวลาสี่ทุ่มแบบนี้ล่ะนะ
ด้วยความที่ผมเหนื่อยจากการลุยงานทั้งวัน ผมจึงค่อนข้างเหนื่อย ไม่รอช้า ผมรีบขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่มีห้องตัวเอง ตอนนี้ในหัวของผมมีแต่ความรู้สึกเหนื่อยและอยากจะนอนเต็มที
" จริงสิ ป่านนี้จะนอนหรือยังนะ " ผมยืนอยู่หน้าห้องก่อนเพราะนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้โทรบอกคนรักของผม จะเป็นห่วงเราอยู่ไหมนะ.. ผมคิด ไม่รอช้าผมก็หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อกดโทรหาเขา
ถ้าเกิดเขานอนไปแล้วล่ะ ส่งข้อความไปบอกก็ได้มั้ง
" ( หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้.. ) "
สงสัยแบตจะหมดแน่ๆ ผมถอนหายใจก่อนจะไขกุญแจเข้าห้องและไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกเขาว่าตอนนี้ผมกลับมาจากที่ทำงานแล้ว
และทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป..
ผมเจอกับซองๆหนึ่งที่วางอยู่ตรงทางเข้า สงสัยมีคนส่งมาให้โดยสอดเข้าใต้ประตูแน่ๆ ผมหยิบมันขึ้นมาดู ไม่มีการจ่าหน้าซองถึงผู้ส่งใดๆทั้งสิ้นแต่ผู้รับกลับเป็นชื่อของผม จะเป็นโรคจิตหรือเปล่า
ผมถือมันเดินเข้ามาในห้องหอน วางของทุกอย่างลงบนโต๊ะทำงานแล้วแกะซองนั่นออก
สิ่งที่ผมเห็นนั้นทำเอาน่าตกใจเลยล่ะ
มันคือรูปถ่ายของเขากับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ในสภาพที่เปลื่อยกายมีเพียงผ้าห่มเท่านั้นที่คลุมร่างเอาไว้ ผมไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ผู้ชายในรูปคือคนรักของผม
อย่าบอกนะว่าตอนนี้ผมกำลังถูกเขานอกใจ
นอกจากรูปแล้วผมก็เหลือบไปเห็นการ์ดใบเล็กๆ หยิบมันขึ้นมาอ่าน และเนื้อความนั่นก็ทำเอาผมถึงกับน้ำตาคลอเหมือนถูกแทงด้วยคมดาบ
' เราเลิกกันเถอะนะ '
เชื่อไหมว่าผมแทบจะร้องไห้ ผมยอมรับว่าตัวเองทำแต่งานไม่มีเวลาให้กับเขา เขาคงจะเบื่อผมแน่ๆ
ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากภาวนาให้เขาเจอคนที่ดีกว่าผม
ถึงแม้ว่าผมจะตายไปจากหัวใจของเขาก็ตาม
.
.
FIN
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in