
ทุกคนมีความฝัน และคิดว่าทุกคนสามารถไปถึงความฝันนั้นได้ แต่ในระหว่างทางจะมีสิ่งที่ทำให้เราเดินไปไม่ถึงความฝันซักที ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันอยู่ที่เราจะเดินผ่านตรงนั้นมาอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุดได้ยังไง พยายามเซฟตัวเองให้มีแรงเดินต่อไปข้างหน้าไหวนะ
บางครั้งเราก็คิดว่าเฮ้ย เราอ่อนแอเกินไปรึเปล่า อะไรที่ทำให้เราเดินไปได้ไม่ไกล อะไรที่ทำให้เราต้องพักบ่อยๆ ทั้งที่แรงใจมันเดินต่อไหว แต่สิ่งรอบข้างมันบังคับให้ต้องหยุด
พอได้อ่านหนังสือของคิมรันโดรอบที่สอง ก็หายใจได้ทั่วท้องขึ้น มั่นใจว่าเราจะเดินไปถึงความฝันแน่นอน เพียงแต่มันอาจจะต้องใช้เวลา ขอให้ตัวเองอดทน
ยกตัวอย่างที่คิดมากๆแบบกังวลมากๆมาสองข้อ
1.เราตั้งใจทำอาหารคลีนขายกับเพื่อน ตอนแรกก็มีอยู่ด้วยกันสามคน ขายในมหาวิทยาลัย แต่ขายได้เพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ก็มีบางวันที่ต้องไปเรียนเช้า บางวันที่ไม่มีเรียนก็ดีไป ตื่นตีสี่ไปซื้อไก่ซื้อผัก หุงข้าว ตักข้าวใส่กล่อง หั่นผักหั่นไก่ หอเราเป็นหอหญิง ผู้ชายขึ้นไม่ได้ หอเพื่อนเป็นหอรวมแต่ห้องเล็ก เวลาทำต้องทำที่ระเบียงที่มีขนาด 1 ตารางเมตร ที่ล้างผักล้างไก่ ต้มผัก ผัดกับข้าว จัดใส่กล่อง อยู่ตรงนั้นหมดเลย ทำได้สองวันก็ย้ายมาทำที่สระว่ายน้ำมหาวิทยาลัย แต่พอทำไปวันเดียว ลุงก็บอกว่ามาทำไม่ได้แล้วนะ เราก็ขนของออกไปด้วยใจที่สิ้นหวัง วันต่อมาเราทำที่หอเราคนเดียวเลย ตั้งแต่ล้างไก่ หั่นผัก หุงข้าว ตักใส่กล่อง ล้างจาน มีเมทช่วย แต่ก็เกรงใจเมท เพราะต้องตื่นตีสี่ มันก็ต้องไปทำโปรเจค แค่นี้มันก็เหนื่อยจะแย่แล้ว จนถึงเย็นวันนั้น เพื่อนมาคุยกันว่าทำต่อไม่ไหวแล้ว เราก็เสียใจนะ ตั้งใจว่าจะทำด้วยกัน ขายได้ก็วันละ 20 กล่อง ซึ่งสำหรับเราถือว่ามากพอสมควรเลยนะ แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เวลา เงินทุน ไม่มีที่ทำ เลยต้องหยุดไป ป๊าก็บอกว่าเราก็ต้องเข้าใจ ว่าลูกค้าเราก็ห่วง แต่ถ้าสมมติว่าเราเจ็บแขน เจ็บขา เราจะฝืนทำต่อไปให้ตัวเองเจ็บมากขึ้นหรอ เราก็เลยเข้าใจ โอเค ตรงนี้ก็ต้องพักไว้ก่อน
2.เราตั้งใจจะคุมอาหารเล่นเวทเพื่อให้แพคมันชัดขึ้น มีอยู่วันหนึ่ง เราไปเล่นอกแล้วมันบาดเจ็บ วันต่อมาเราหายใจเข้าลึกๆแล้วเจ็บมาก ไปหาหมอ หมอบอกว่ากล้ามเนื้อหน้าอกอักเสบ ให้พักเวทก่อน โหย ตอนนั้นจะลงแดงให้ได้ การเล่นเวทและการออกกำลังกาย แทบจะเรียกว่าเป็นชีวิตของเราเลย ให้หยุดเลยหรอ แต่ถ้าอยากหายก็ต้องทำตาม ก็มีบางครั้งที่อยากไปออกกำลังกาย แต่ก็ไม่กล้าทำหนักมาก ก็มีเดินเร็วบ้าง สควอตจัมพ์บ้าง หนึ่งเดือนต่อมาไม่หาย ก็ไปหาหมออีก ได้ยาล็อตที่สองมา กินไปก็ไม่หายอีก รวมเวลาคือสามเดือนกว่าแล้ว ก็เลยไปหาหมอกายภาพบำบัด หมอบอกว่ากระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ กินยาล็อตที่สาม จนทุกวันนี้ยังไม่หายเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะหายได้ขนาดไหน จะกลับมายกเวทแบบเดิมได้มั้ย ภาวนาว่าให้มันเป็นปกติ ขออีกครั้งแล้วจะเซฟตัวเองอย่างดีเลย ตอนนี้ก็เลยบวมขึ้นพอสมควร นี่ก็เป็นอีกอย่างนึงที่ทำให้ไดเอทไม่สำเร็จซักที
สิ่งที่กังวลใจที่อยากจะทำให้สำเร็จก็มีอยู่เท่านี้ แต่ก็จะอดทนรักษาตัวเอง ทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆก่อน หาทาง วางแผนให้รอบคอบ ถ้าถึงเวลาที่เราพร้อมจะเดินตามความฝันอีกครั้ง เราจะเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพื่อที่ระหว่างทางจะได้มีความสุขกับเส้นทางที่เราเดิน อย่าหวังว่าจะรวยไว ขอแค่เลี้ยงดูพ่อแม่และคนในครอบครัวไปได้ตลอดก็พอ เกิดมาแล้ว ก็ต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม อยากทำอะไรก็ขอให้ลองทำก่อน ผิดพลาดหกล้มก็ถือเป็นบทเรียน ลุกแล้วสู้ต่อ : )
เลยมีคำพูดใหม่ที่จะคอยบอกตัวเองเวลาท้อ เวลาเหนื่อย...
ถ้าเชื่อว่าตัวเองจะทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะทำไม่ได้ ปัญหาทุกอย่างมันเข้ามาเพื่อให้เราแข็งแกร่งขึ้นอยู่แล้ว ให้โฟกัสสิ่งที่ทำให้ตัวเองพัฒนาขึ้นบ่อยๆ จะได้มีกำลังใจ อย่าเอาแต่คิดถึงแต่สิ่งแย่ๆ สิ่งที่จะไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น เลิกคิดมากเกินไป จะพูดจะทำอะไร ขอให้คิดในแง่ดี แล้วสิ่งดีๆจะปรากฏให้เราเห็นเอง.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in