เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
DIARY FOR MY SONNatchanon Mahaittidon
day 3-
  • - เมื่อวานเมย์บอกว่าเจ็บท้อง คือยังไม่ได้เจ็บจนเหมือนจะคลอด แต่มันเป็นอาการใหม่ที่เพิ่งเคยเป็น เหมือนลูกลงมาอยู่ต่ำมากกว่าทุกที ขยับทีก็เจ็บที ไอ้เราก็เหวอแดกไปสิ มาบอกว่าเจ็บท้องเจ็บหลัง ก็หลอนว่าเจ็บคลอดหรือเจ็บแบบกรวยไตอักเสบ แต่ก็ยังดีที่ไม่เป็นอะไร

    - ช่วงนี้มีคนทักเยอะว่า ระวังเมย์จะเหวี่ยง เพราะหลังจากที่คลอดเนี่ย ฮอร์โมนจะดรอปลงแบบว่า 10 เท่า ถามต่อไปว่ายิ่งกว่าตอนเป็นเมนส์ไหม ก็บอกว่าประมาณนั้น นี่ก็เลยสบายใจว่าเออ ปกติเมย์เป็นเมนส์ก็ไม่ได้เหวี่ยงอะไรอยู่แล้ว ถ้าเหวี่ยงหน่อยก็คงไม่เป็นไรมั้ง

    - ซึ่งเอาเข้าจริงมันก็คงไม่ใช่แค่ฮอร์โมนเปลี่ยนหรอกมั้ง ความเครียดก็คงมีผล เราเองก็เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าชิลๆ เวลาใครมาทักมาถามก็คิดว่าจะอะไรกันนักหนา เลี้ยงลูกก็ต้องเลี้ยงได้อยู่แล้วสิ แค่ลูกร้องงอแง อดหลับอดนอนมันจะแค่ไหนกันเชียว จัดการระบบในบ้านให้ดีก็น่าจะพอปะ แต่ช่วงนี้พอมันใกล้เข้าก็เริ่มรู้สึกว่า เออ หรือจะหนักจริงวะเนี่ย คิดแล้วก็หวั่น ยิ่งเลี้ยงกันแค่สองคนด้วย

    - เรื่องลูกงอแงนี่แบ่งการเตรียมตัวเป็นสองแบบ คือหนึ่ง อดนอน และสอง อดมีเวลาส่วนตัว (แหม ทำเป็นพูดดี อดเล่มเกมนั่นแหละสัส)

    - อดนอน: บ้านเราเป็นทาวน์โฮม ไม่ใหญ่ แต่ก็ยังพอมีห้องเล็กๆ ที่จัดเอาไว้หลบภัยได้ เพราะเลี้ยงลูกในห้องนอนใหญ่ ตอนไหนใครต้องเลี้ยงก็สลับกันนั่นแหละ แต่คิดไปก็เหมือนจะง่ายซะที่ไหน นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าลูกจะติดแม่ขนาดไหน จะยอมนอนกับเปลหรือเตียงรึเปล่า หรือจะติดมือต้องอุ้มตลอดเวลา ห้องเล็กที่ตอนนี้เป็นกึ่งห้องทำงาน,เล่นเกม ก็ติดแอร์ เอาโซฟามาตั้ง พอจะเป็นที่นอนได้ และเอาลูกมาเลี้ยงในห้องนี้ได้บ้างเวลาสลับกับเมย์ที่น่าจะอยู่ในห้องนอนใหญ่มากกว่า

    - อดเล่นเกม: อันนี้เพื่อนในกลุ่มเกมเตือนมาว่ามึงจะกล้าไปเล่นได้ยังไงเวลาเมียเลี้ยงลูก แต่ส่วนตัวคิดว่าเรื่องแบบนี้อยู่ที่การดีล,เข้าใจกันมากกว่า เพราะถ้าจัดเวลา พื้นที่ เอาให้มันเหมาะสมก็น่าจะเวิร์ก +อย่าบ้าใส่กันก็พอ (บ้านเราไม่มีประวัติเรื่องนี้ สบายใจไปเปาะ หวังว่าจะไม่มี) ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับสำนึกโดยตรง เข้าใจแหละว่ามันก็คงจะมีเถียงกันอยู่ในใจว่าเอ้ยจะปล่อยให้เค้าเลี้ยงเหรอ ลูกร้องจะไม่เข้าไปช่วยดูเหรอ ฯลฯ กับอีกฝ่ายที่เราคิดว่าลูกไม่ควรจะเปลี่ยนชีวิตเราไปเสียหมด หรือจะต้องคอยประคบประหงมจนเกินงาม และเชื่อว่าการกระจองอแงของเด็กมีเหตุผลอื่นด้วยนอกจากผลลัพธ์ที่ต้องเข้าชาร์จตลอด และนี่ก็เป็นอีกการเดา

    - แต่ถ้าไม่ได้เล่นก็ไม่เล่นแหละ เอาเข้าจริงมันก็มีคนขู่อีกว่า เฮ้ย มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งอื่นมากกว่าลูก เดี๋ยวลูกจะขาดความอบอุ่น ยิ่งกับพวกแสงจอด้วยวก็จะยิ่งทำให้สายตาเขาพัง ฯลฯ เออ ก็กลัว แต่ไม่รู้เจอจริงๆ แล้วจะเป็นยังไง

    - มีอีกอย่างที่คิดว่ามันควรจะเตรียมตัว คือ "สเตชั่น" สำหรับให้นม, ปั๊มนม ของเมย์ ซึ่งก็ทำเอาไว้เล็กๆ ในห้องนอนใหญ่นั่นแหละ เป็นเก้าอี้สตู มีชั้นวางของที่เยอะพอจะเอื้อมหยิบทุกอย่างได้เอง เมื่อสองวันก่อนเพิ่งซื้อขาหนีบไอโฟนยาวๆ เอามาเกาะกับชั้นวาง จะได้ดูซีรีส์บนมือถือได้เวลาต้องให้นมหรือปั๊มนม หามุมหรือวิธีที่มันเอนหลังได้ จะได้สบายๆ (เป็นอีกเหตุผลที่ซื้อที่ปั๊มนมแบบสามารถปั๊มแบบตัวเอียงๆ ได้)

    - เรื่อง "ต้องอุ้ม" ตลอดนี่เป็นเรื่องที่เรากลัวเป็นพิเศษ คือมันจะเป็นที่มาของความอดทุกสิ่งทุกอย่าง แถมยังเหนื่อยมากคูณแปด ไม่ใช่ว่ารักสบายอะไร แต่เราคิดว่าไม่ถูกต้องเท่าไหร่อะ นี่ก็เลยใช้วิธีหาไอเทมที่(คิดว่า)พอจะบรรเทาได้มา เช่น ผ้ามือแม่ (เรียกงี้ปะวะ) แต่มันจะเป็นผ้าห่อตัวที่มีถุงทรายเบาๆ ไว้นาบตรงอก หลอกทารกว่านี่แม่กำลังแตะกำลังกอดเค้าอยู่ กับอีกอย่างก็คือเปล ซึ่งเราขี้เกียจขนานหนัก จะเปลแบบมาแกว่งๆ เองตลอดนี่ก็ไม่เอาอะ ก็เลือกแบบที่มันมีระบบเฟืองหมุนที่ดีหน่อย แกว่งทีเดียวอยู่ได้หลายๆ นาที ซึ่งนี่ก็น่าจะพอ แต่ถ้าไม่พอค่อยไปหลอกขายคนอื่นต่ออีกที (อ้าว)

    - นอกจากนั้นที่เตรียม คือบ้านเราไม่มีตายายปู่ย่ามาคอยช่วยเลี้ยงตลอดเวลาเหมือนบ้านอื่น จะมีแตกต่างไปนิดหน่อยตรงที่เวลาเข้างานเราไม่ฟิกนักที่ถือว่าสบายกว่า แต่ถึงยังงั้น เลี้ยงกันแค่สองคนก็คงไม่ไหว นี่ก็เลยต้องหาแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาดบ้าน จัดการพวกขวดนม หรืออะไรจิปาถะที่จะทุ่นแรงไปได้ นี่ก็โชคดีหน่อยที่ได้คนแถวบ้านมา ซึ่งด้วยงบประมาณที่ไม่มาก ก็เลยหาทางจัดเวลา,เนื้องานให้ป้าแกหน่อย เดี๋ยวแกจะงอนแล้วหายไป ซึ่งดูมีโอกาสมากด้วย

    - เหลืออีก 3 วัน ขอให้ลูกอย่าเพิ่งดื้อจะออกมาก่อน พ่อชั่งดวงเอาไว้ อย่าให้เสียฤกษ์สิ!
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in