เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
จ-สระใอ-ใจWorakhun Boon
ตอนที่ 3 คิดวนไปวนมา
  • หลังจากพี่หนุ่มกลับไป ผมก็เข้าครัวไปทำอาหารเช้ากิน แต่จำไม่ได้ว่าปรุงอะไรยังไงแล้วรสชาติอาหารอร่อยแค่ไหน เพราะตลอดเวลาที่ทำอาหารและมานั่งกินอยู่ริมน้ำนั้น ใจก็หวนคิดถึงแต่คำว่า 'สติ' ของพี่หนุ่ม ทำไมต้องฝึกมีสติด้วย ก็เรามีสติอยู่แล้วนี่นา จะทำอะไรก็ต้องมีสติสิ ไม่มีจะทำได้อย่างไร แล้วถ้าต้องฝึกนี่มันฝึกยังไง คำถามมากมายวนเวียนมาให้คิดหาคำตอบ ข้อดีคือทำให้ความคิดเรื่องงานหายไปจากหัวเลย คิดเรื่องสติดีกว่าคิดเรื่องงานตั้งเยอะ เพราะไม่มีความกังวล คิดแล้วไม่ได้คำตอบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเที่ยงนี้ก็ได้รู้จากพี่หนุ่มอยู่ดี เออ! การคิดแบบไม่ต้องพยายามหาคำตอบมันก็แตกต่างกับการคิดเพื่อหาคำตอบอยู่นะ ยิ่งถ้าต้องคิดเพื่อให้ได้ทางออกแบบที่เราต้องการยิ่งวุ่นวาย ซับซ้อน หรือว่าการคิดเรื่องสติแบบนี้ คืออย่างที่พี่หนุ่มเรียกว่า คิดแบบยอมรับผลของมัน คือคิดแล้วได้ผลลัพธ์คือหาทางออกของปัญหาได้หรือคิดแล้วหาทางออกไม่ได้ก็ได้ แต่ที่เราไม่กังวลเพราะเรารู้ว่าเดี๋ยวพี่หนุ่มก็มาเฉลยให้ฟังอีกทีหรือเปล่า

    คิดไปคิดมาก็มีคำพูดอีกตัวแทรกเข้ามาในหัวว่า "แดดเริ่มจ้าแล้ว ยังไม่ทันได้ดูนกเลย เดี๋ยวปีกมันแห้งก็บินไปหากินกันหมดแล้ว" ว่าแล้วก็หยิบกล้องส่องนกขึ้นมาส่องไปตามยอดไม้ ตอนเช้า ๆ นกมักจะออกมาเกาะบนกิ่งไม้เพื่อตากปีกของมันให้แห้งจากน้ำค้างที่มาเกาะปีกของมันตอนกลางคืน นกตัวผู้หลายตัวจะพยายามไปเกาะอยู่บนยอดไม้ที่สูงและเด่นเพื่อที่จะให้นกตัวเมียได้เห็น แต่นกบางตัวอย่างเจ้านกกระเต็นหัวดำที่ผมกำลังส่องดูอยู่นี้กำลังบินโฉบลงไปจับปลา ทุกครั้งที่มันเล็งแล้วโฉบลงไปมันจะบินกลับมาพร้อมปลาตัวเล็ก ๆ แล้วก็จะค่อย ๆ กลืนปลาตัวนั้นลงไปสมกับชื่อภาษาอังกฤษที่ได้สมญาว่า Black-capped Kingfisher ราชาแห่งนักจับปลา ผมเฝ้าดูมันเพลินจนลืมที่จะคิดเรื่องสติ หรือแม้กระทั่งเรื่องงาน พอสายมากแล้วผมก็กลับเข้าไปนั่งพักผ่อนเล่นกีต้าร์ในตัวบ้าน

    "พี่รู้สึกตัวเมื่อสายเสียแล้ว ปักใจแน่แน่ว รักแต่เธอหลงแต่เธอ ตกเป็นทาสสวาท..." ผมนั่งดีดกีต้าร์เพลง "ทาสรัก" ของพี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ แต่ใช้คีย์ที่สุเมธแอนด์เดอะปั๋งเอามาทำใหม่ เล่นไปแล้วก็อดที่จะแปลกใจกับเนื้อเพลงไม่ได้ว่า ถ้ารู้สึกตัวเมื่อสายเสียแล้ว แสดงว่าคนเราไม่ได้รู้สึกตัวตลอดเวลาสิ บางครั้งก็ไม่ได้รู้สึกตัว หรือว่าเราไม่ได้มีสติตลอดเวลา แต่ถ้าไม่มีสติจะดีดกีต้าร์ได้ยังไงล่ะ ความคิดเรื่องสติย้อนกลับเข้ามาเยี่ยมเยียนในหัวของผมอีกแล้ว คราวนี้มันมาได้แค่แป๊บเดียวเพราะผมรู้สึกผ่อนคลายกับการเล่นกีต้าร์ พอเปลี่ยนเพลง ความคิดก็หายไป

    "คิดไปทำไม หลงไปไกลอยู่ หลายอย่างพันตู คิดอยู่คนเดียว คิดจนลืมตัว หลงตัวเธอหน่าย รู้สึกทีไร เสียอกเสียใจ...ลืมตัวเพราะว่าทำงาน ทำงานจนเกิดลืมตัว ทำงานยิ่งกว่าเป็นวัว วัวพันปีดึกดำบรรพ์ ..." เพลงของอัสนีและวสันต์ โชติกุลเป็นเพลงที่อยู่คู่กับคนรุ่นผมมาตลอดตั้งแต่สมัยอัลบั้ม "บ้าหอบฟาง" พอเล่นกีต้าร์จบเพลง "วัวลืมตัว" ผมก็วางกีต้าร์ลงหลังจากเล่นมาได้ชั่วโมงกว่า ๆ แต่เนื้อเพลงมันยังลอยละล่องอยู่ในหัว "คิดจนลืมตัว", "รู้สึกทีไร เสียอกเสียใจ", "ทำงานจนเกิดลืมตัว" เอ! เพลงนี้มันก็พูดถึงความรู้สึก ยังบอกอีกว่ามีอาการลืมตัวด้วย หรือว่าเรารู้สึกตัวบ้างลืมตัวบ้าง

    ยิ่งคิดก็ยิ่งสนใจอยากจะไปคุยกับพี่หนุ่มซะตอนนี้เลย แต่เค้านัดไว้ตอนเที่ยง อาจจะติดธุระอะไรตอนเช้า นั่นแน่! ใจมันคิดอีกแล้ว คราวนี้คิดไปถึงสิ่งที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ ตั้งแต่ตื่นนอนมาเราคิดเรื่องอะไรบ้างนะ ใจมันเกิดอยากรู้ขึ้นมา ก็เลยลองทบทวนดูและสรุปได้ว่าคิดเรื่องงาน คิดเรื่องนกจาบคา คิดเรื่องสติ คิดเรื่องนกกระเต็น กลับมาคิดสงสัยเรื่องเนื้อเพลง คิดเรื่องว่าพี่หนุ่มติดธุระอะไรรึเปล่า สุดท้ายคิดว่าเช้านี้เราคิดเรื่องอะไรบ้าง โอ้โห! นี่แค่ที่เราจำได้นะเนี่ย แล้วที่คิดแล้วไม่ทันจำอีกเท่าไหร่กัน ยิ่งย้อนพิจารณายิ่งทำให้อยากเร่งเวลาให้ถึงตอนเที่ยงเร็ว ๆ 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in