ถึง นายคนเดิม ตอนปี 2021
เราคิดอยู่นานมากเลยว่าเราคิดถึงนายรึเปล่าก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันมานานมากๆ เลยก็ตาม ใจนึงของเราก็อยากจะให้นายมีชีวิตของนายต่อไป แต่บางทีก็แอบรู้สึกว่าคิดถึงเราเอาไว้บ้างก็ดีเหมือนกันนะ คิดไม่ออกเหมือนกันแหะ เอาเป็นว่าไหนๆ นายก็เขียนถึงเราแล้ว อย่างน้อยเราก็รู้สึกดีใจนิดนึงละกันว่านายยังไม่ลืมเราไปแล้วหรอก เรายังคงเป็นเสมือนคนสำคัญในชีวิตที่ทำให้นายก้าวผ่านชีวิตมาจนถึงปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าตอนนั้นของเรามันเหมือนกับที่นายเขียนมาแหละ และทำให้เราไปนั่งนึกคิดถึงช่วงเวลานั้นอีกครั้ง (แน่หล่ะ! เราแอบลืมบางอย่างไปบ้างแล้วด้วยซ้ำ นี่นายเป็นคนประเภทชอบรื้อฟื้นความหลังหรอ? ฮ่าๆๆๆ) ตอนที่นายพูดเรื่องเดินไปๆมาๆ หาสถานีรถไฟที่สนามบิน เราแอบรู้สึกว่าเราโง่มากด้วยซ้ำ จำได้ว่าไปนั่งรออยู่ที่ไหนซักที่ ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นสถานีอยู่ประมาณครึ่งชั้วโมงจะได้มั้ง ถ้าเราไม่รู้เกิดรู้สึกแปลกๆ ว่ามันดูไม่น่าใช่สถานีรถไฟเข้าเมือง รวมถึงถ้าไม่ได้จองรถไฟมาล่วงหน้าถึงสองชั่วโมง เราคงตกรถไฟไปแล้วอย่างแน่นอน แต่ก็นั่นแหละนะ ชีวิตและบรรยากาศของการเดินทาง นายคงคิดถึงมันมากๆ (ซึ่งเราก็คิดถึงมันด้วยเช่นกัน) ถ้าเราจะบอกว่าการเดินทางนี่มันเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งในใจเสมอมา เวลาเรารู้สึกอยากหนีไปจากชีวิตที่แสนจะวุ่นวาย เรารู้สึกว่ามันช่วยเยียวยาและรักษาจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี มาอยู่ในสถานที่ที่แปลกใหม่ เตรียมตัวให้พร้อมกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เจอผู้คนใหม่ๆ (อันนี้หมายถึงที่ไม่ใช่คนไทยด้วยกันนะ) มันก็ทำให้เราลืมเรื่องราวบางอย่างได้ชั่วคราวแหละ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เรามีสิ่งที่เราคิดว่าช่วยบรรเทาทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งนายก็รู้แหละ แผนของเรามักจะมีป่า ต้นไม้ ภูเขา เดินเขา เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอๆ ซึ่งเราว่าอันนี้ช่วยชีวิตและจิตใจเราได้มากกว่านะ นายได้ไปไหนมาครั้งล่าสุดเมื่อไร? ได้ไปเดินเขาบ้างไหมเนี๋ยะ? ออกไปใช้ชีวิตนอกกรุงเทพฯ บ้างก็ดีนะเราว่า นายคงน่าจะสดชื่นขึ้นเยอะนะ (ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ ของนายน่าจะบอกว่าไปเยอะแล้ว แต่เรายังสนับสนุนให้ทำต่อไป ฮ่าๆ) หรือถ้ามีโอกาสก็ลองไปเยี่ยมเพื่อนที่รู้จักซักคน ก็เหมือนเราที่นัดอาโกวไว้ตอนไป Sweden นั่นแหละ ฟิลลิ่งก็แบบว่าตื่นเต้นที่จะได้เจอเขาอีกครั้งหลังจากผ่านมาประมาณ 4 ปี และครั้งนี้ไปนอนบ้านเขาด้วยเลย มันแค่รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยนะ เหมือนแบบเราใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด ทำอะไรก็ทำเอง เวลาไปเที่ยวก็นอนแบบอยู่ตัวคนเดียว (หรือโฮสเทลก็เป็นความรู้สึกอยู่คนเดียวนะ) ถึงแม้ว่าแพลนเราจะอยู่กับเขาแค่ 2-3 คืนเท่านั้น มันก็ให้ความรู้สึกแปลกใหม่อีกแบบแหละ ตอนที่เราอยู่สถานีรถไฟ Arlanda เราได้ใช้ wifi ฟรีสำหรับผู้อพยพ ในช่วงสุดท้าย เพื่อบอกอาโกวว่าเราจะถึงที่สถานีรถไฟ Eskilstuna ตามกำหนดที่เราคุยกันมาแล้วล่วงหน้า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปก็ปล่อยให้มันเป็นไปแล้วแหละ นายอย่าไปคิดมาก หรือถ้าคิดมากลองเอาไดอารี่ของเราไปอ่านไหม? เล่มนั้นแหละที่เราใช้จดอยู่ทุกวันตอนนั้น เราคิดว่านายคงอยากจะอ่านมันอีกครั้ง (เรายังลืมไปแล้วเลยว่าเราจดบันทึกไว้!)
ปล. ประโยคอะไรที่เราพูดบ่อยๆ ตอนเราอยู่ที่นั่น ทำไมเราจำไม่ได้อ่ะ
จาก เราคนเดิม เมื่อปี 2019
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in