เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[Fic: Thor x Loki] LIEnarscel
[Fic: Thor x Loki] LIE - Ep11 : Illusion
  • Author’s Note : ตอนนี้ก็เขียนยากอีกแล้ว 5555 หลังๆรู้สึกมันยากทุกตอนเลย เอ้า! เข็นๆๆออกมาอีกตอนแล้วนะคะ

    Pairing : Thor x Loki (หลัก Thorki ) , Grandki , Frostmaster (เสริม)

    Rate : อันนี้เอาไป 18+ ละกันนะ ไม่ถึงกับ NC แต่มันไม่ดีกับเยาวชน (> < ,,)

    Warning : LGBT , Boy's Love , ฟิควาย , *Spoiler Alert* for Thor : Ragnarok


    ………………………………………………………………..

    LIE – Ep. 11 : Illusion

    ………………………………………………………………..

     

              ร่างกายของเทพชาวแอสการ์ดนอกจากเรื่องของความอึดและทนแล้ว ข้อดีอีกอย่างก็คงเป็นเรื่องของพลังในการฟื้นตัวอันน่าประทับใจนี่แหละ

              ยิ่งได้รับเวทรักษาจากอนุชาช่วยอีกทาง แม้จะยังไม่ได้สติ แต่สภาพของเจ้าชายรัชทายาทแห่งแอสการ์ด ก็ดูดีขึ้นมากเทียบกับในห้องปฐมพยาบาลตรงประตูทางออกของอารีน่า

              ฝุ่นเหงื่อและคราบไคลจากการต่อสู้บนร่างกายและเสื้อผ้า ล้วนถูกชำระล้างปรนนิบัติอย่างดี โดยเหล่านางกำนันของซาคาร์ จนคนเจ็บกลับมาแลดูสะอาดสะอ้านอีกครั้ง

              และยามนี้พวกนางก็กำลังช่วยกันประคบผ้าร้อนลงบนอกกว้าง เผื่อให้มัดกล้ามแน่นสวยได้รูปเหล่านั้นคลายตัว และทุเลาจากอาการบาดเจ็บ

              เจ้าของดวงตาสีเขียวน้ำทะเลลอบมองใบหน้าผู้เป็นเชษฐาของเขาอย่างเงียบๆ

              …ใช่... โลกิ ลอเฟย์ซันอยู่ที่นั่นด้วย... ภายใต้มายาเวท...

              เขาเปลี่ยนร่างเป็นนางกำนันนางหนึ่ง และกำลังลากลูบผืนผ้าร้อนไปบนอกเปลือยเปล่าของผู้เป็นเชษฐาอย่างห่วงใย...

              ...ห่วงใย?...

              …เปล่าเลย...เขาก็แค่รู้สึกไม่ดี ในการที่เทพกษัตริย์ชาวแอสการ์ดจะต้องมาพ่ายแพ้ให้กับ อสุรกายชั้นต่ำจากมิดการ์ดก็เท่านั้น

              และถ้าธอร์หายจากการบาดเจ็บได้เร็ว... บางทีแกรนด์มาสเตอร์อาจจัดให้มีการแข่งขันนัดล้างตาเร็วๆนี้ และนั่นหมายถึงรายได้มหาศาล ที่จะหลั่งไหลเข้ามาจากจำนวนผู้เข้าชม... และเขาก็จะยิ่งอยู่สุขสบายมากขึ้นในฐานะคนโปรดของแกรนด์มาสเตอร์ผู้มั่งคั่งก็แค่นั้น...

              ...นั่นคือเหตุผลที่โลกิ ลอเฟย์ซันบอกกับตัวเอง ขณะเฝ้ารอให้เจ้าของดวงตาสีฟ้าจัดคู่นั้นลืมตากลับขึ้นมาอีกครั้ง...

              …เลิกสำออยได้แล้ว... ท่านพี่... ข้าเบื่อการรอคอยนี้เต็มทีแล้ว...

              ราวกับเสียงความคิดของผู้เป็นอนุชา จะล่องลอยไปถึงผู้ที่นอนหลับตาอยู่ จู่ๆ ร่างของเทพสายฟ้าถึงพลันสะดุ้งเฮือกลุกขึ้นมานั่ง! แถมแหกปากร้องลั่น เล่นเอาเหล่านางกำนันพากันแตกตื่นตกใจ วิ่งหนีตามกันไปจากห้องพักทันที

              มีก็แต่เจ้าของดวงตาสีเขียวสว่างใส ที่ยังคงเหลียวกลับมามองอีกครั้ง กระทั่งแน่ใจว่าเชษฐากลับมาได้สติแล้วจริง จึงค่อยยอมเบือนหน้ากลับ แล้วเดินหายลับประตูไป

    --- ---

     

              บุตรแห่งโอดินลืมตาแล้ว ในหัวยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าเขาอยู่ที่ไหน และมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง

              ธอร์พยายามฝืนลุก แม้จะต้องต่อสู้กับความปวดระบมของร่างกาย ซึ่งยังออกอาการประท้วงในทุกการเคลื่อนไหว แต่พักเดียวความเคยชินในฐานะเทพนักรบก็ช่วยให้เขากลับมาดูเป็นปกติดีอีกครั้ง

              ธอร์คว้าเอาเสื้อเกราะนักรบตัวใหม่ ซึ่งเหมือนจะถูกวางเตรียมไว้ให้ขึ้นมาสวมใส่แก้ขัด ขณะเดียวกันก็กวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ

              การตกแต่งด้วยลวดลายสีขาวสลับแดงดูยุ่งเหยิง ยืนยันว่าเขายังคงอยู่ที่ใดที่หนึ่งบนดาวซาคาร์ กระนั้นห้องพักนี้ก็ดูสะอาดสะอ้าน และดีกว่าห้องคุมขังก่อนหน้านี้มาก

              ธอร์ใช้เวลาไม่นานก็ค้นพบว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว แต่มีรูมเมทเป็นเจ้ายักษ์ตัวเขียว... ตัวเดียวกับที่ทุบเขาจนอ่วมนั่นล่ะ

              เทพเจ้าสายฟ้าแอบประหลาดใจนิดหน่อย ที่อีกฝ่ายอยู่ในร่างฮัล์ค แทนที่จะเป็น ดร.แบนเนอร์ แม้ในสภาวะกำลังผ่อนคลายในอ่างน้ำร้อน

              หลังจากได้พูดคุยสอบถามธอร์ถึงรู้ ว่าฮัล์คมายังดาวดวงนี้ด้วยยานควินเจ็ท และมันก็จอดอยู่ไม่ไกลจากห้องพักเขาตอนนี้มากนัก

              ปัญหาเดียวตอนนี้คือเจ้าเครื่องคุมประพฤติตัวจิ๋วที่ติดอยู่ตรงคอเขานี่แหละ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับ และส่งกระแสไฟฟ้าช็อตเขา หากเดินผ่านประตูห้องพักออกไป

              ...บ้าเอ๊ย!...

              ธอร์ได้แต่มองตามวาลคิรี่และฮัล์คเดินสบายใจเฉิบออกไปฝึกซ้อมด้วยกัน เพราะมีแค่เขาเท่านั้นที่ถูกติดตามด้วยเครื่องมือบัดซบนี่!

              ธอร์กลับมายืนมองยานควินเจ็ทผ่านหน้าต่างห้องพักอีกครั้ง พลางใช้ความคิด ครู่หนึ่งเขาก็ตัดสินใจลองหลับตาลงแล้วเรียกหาไฮม์ดัล เทพผู้เฝ้าไบฟรอสท์ และมองเห็นทุกสรรพสิ่ง

              “ไฮม์ดัล... ข้ารู้เจ้ามองเห็นข้า ข้าต้องให้เจ้าช่วยเหลือข้า... ช่วยให้ข้า...เห็น”

              เทพแห่งสายฟ้าลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าจัดของเขาก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีทองเช่นเดียวกับไฮม์ดัล และพริบตานั้นธอร์ก็พบว่าเขากลับมาอยู่ในแอสการ์ด แม้จะเป็นเพียงร่างจิตซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้นอกจากเทพผู้เฝ้าประตูไบฟรอสท์ก็ตาม

              และไฮม์ดัลก็ยืนรอเขาอยู่ที่นั่น

              “ข้าเห็นท่าน แต่ว่าอยู่ไกลมาก”

              “เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”

              “ท่านไปดูเองเถอะ”

              ไฮม์ดัลเพยิดหน้าให้เจ้าชายแห่งแอสการ์ดตามเขาขึ้นไปดูบนกำแพง

              ธอร์รับรู้สถานการณ์ของแอสการ์ดจากปากของเทพผู้ดูแลไบฟรอสท์

              ชาวแอสการ์ดส่วนใหญ่ถูกช่วย และพาไปหลบซ่อนอยู่ในป้อมปราการโบราณ ซึ่งสร้างไว้ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ หากแต่ทางหนีเดียวที่จะรอดพ้นจากเงื้อมมือเฮล่าได้... ยังคงเป็นไบฟรอสท์

              และการที่เฮล่าสูบพลังจากแอสการ์ด ยิ่งปล่อยไว้นานวัน นางก็จะยิ่งมีพลังอำนาจมากขึ้น และสุดท้ายนางก็จะกลืนกินโลกทั้งเก้าไปจนถึงจักรวาล

              “เราต้องการท่าน”

              เทพเฝ้าประตูไบฟรอสท์มองธอร์ผู้เป็นความหวังเดียวแห่งแอสการ์ดด้วยดวงตาสีทองของเขา

              “ข้าคิดหาวิธีอยู่ แต่ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้าอยู่ที่ไหน”

              “ท่านอยู่บนดาวที่รายล้อมด้วยประตู… เลือกสักทาง”

              “ทางไหนล่ะ?”

              “ประตูใหญ่!!”

              ไฮม์ดัลชักดาบไบฟรอสท์จากกลางหลังแล้วเหวี่ยงผ่านร่างของธอร์ เข้าใส่ร่างทหารของเฮล่า และนั่นทำให้ร่างจิตของธอร์ในแอสการ์ดพลันอันตรธานหายไป

              ธอร์สะดุ้งเฮือก และพบว่าเขาได้กลับมาอยู่ในห้องพักบนดาวซาคาร์อีกครั้ง

    --- ---

     

              เวลาล่วงไป ในขณะที่รัชทายาทแห่งแอสการ์ดยังคงไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่างุ่นง่านหงุดหงิดตัวเองอยู่ในห้องพัก

              ตกค่ำ ธอร์ก็อดรนทนไม่ไหว และพยายามติดต่อกับไฮม์ดัลอีกครั้ง เขาเลือกมุมสงบห่างไกลจากเพื่อนตัวเขียวของเขาออกมา และตัดสินใจเอ่ยปากขอร้องเทพผู้เฝ้าไบฟรอสท์อีกครั้ง

              “…ข้า...มีเรื่องต้องให้ท่านช่วยอีกเรื่องหนึ่งไฮม์ดัล...”

              “…ถ้าข้าเป็นท่าน... ข้าคงเลือกไม่รับรู้...”

              “ท่านหมายถึง?”

              “สิ่งที่ท่านกำลังจะขอ...”

              แน่นอนว่าไฮม์ดัลเห็นมากกว่าสิ่งที่ดวงตาสีทองของเขามองเห็น

              “...อนุชาของท่าน...”

              “...เจ้าชายองค์รองแห่งแอสการ์ด...”

              ธอร์กล่าวขยายความเพิ่มให้ ไหล่กว้างของธอร์เหมือนจะตกลู่ลงนิดๆ และน้ำเสียงก็คล้ายไม่มั่นคงนัก ถึงอย่างนั้นเขาก็ตัดสินใจแล้ว

              “ช่วยข้า ไฮม์ดัล...ได้โปรด... ข้าต้องการเห็น...โลกิ...”

    --- ---

     

              สิ่งต่างๆโดยรอบแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง และธอร์เริ่มคุ้นเคยกับการยืมพลังของไฮม์ดัล ครั้งนี้เขาจึงสามารถปรับตัวและรับรู้ภาพเบื้องหน้าได้เร็วขึ้น

              ถึงกระนั้นเขาก็ยังถึงกับผงะถอยหลัง

              เบื้องหน้าที่เขาเห็น คือภาพของกลุ่มคนหนุ่มสาว ในอาภรณ์น้อยชิ้นชวนให้รู้สึกวาบหวิว ต่างคนต่างอวดโชว์เรือนกายตนเองอย่างไร้ยางอาย บางคนก็ถึงขั้นไร้สิ่งใดปกปิด ผู้คนจำนวนมากเกินกว่าจะเรียกว่า 'คู่' บดเบียดแนบร่างเข้าหากันอย่างเร่าร้อน มือไม้เปะป่ายล้วงลูบ ไขว่คว้าคนนู้นทีคนนี้ทีราวกับขาดสติ ริมฝีปากประกบแลกลิ้น สลับส่งเสียงหอบหายใจ และครางครือคลอเคล้าไปกับเสียงดนตรีที่รังแต่จะช่วยเพิ่มอุณภูมิความร้อนให้กับห้องนี้ ต่างจากเสียงดนตรีเย็นฉ่ำจรรโลงใจแบบที่ธอร์คุ้นเคยยามอยู่ในแอสการ์ด

              บุตรแห่งโอดินกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คำพูดของอนุชาคนเดียวคล้ายกลับมาดังก้องอยู่ในหัวเขาอีกครั้ง...

              ‘ข้าเสียเวลาเอาใจอยู่ตั้งนาน...’          ‘...และเขาชอบข้า’

              ความรู้สึกแปลกๆที่ธอร์ไม่เข้าใจเกิดเป็นความรู้สึกโหวงขึ้นกลางแผ่นอกและขยายตัวกัดกินให้เจ็บและจุกจนหายใจขัดขาด...

              ธอร์ โอดินซันหมุนปลายเท้าหันกลับ เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นภาพตรงหน้าอีก แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีเขียวน้ำทะเลอันคุ้นเคย ซึ่งคล้ายกำลังมองมาที่เขา

              โลกิ ลอเฟย์ซันอยู่ที่นั่น ในชุดปล่อยสบายคล้ายชุดนอน คลุมทับอีกชั้นด้วยเสื้อคลุมตัวยาวบางเบา และกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนปลายด้านหนึ่งของโซฟา

              “ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ยอมอยู่ร่วมสนุกกับข้าเสียแล้ว”

              แกรนด์มาสเตอร์แห่งซาคาร์เอ่ยปากถาม พร้อมยื่นส่งแก้วเครื่องดื่มให้เทพหนุ่ม ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเสียติดอีกคน

              “ข้า... ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ร่วม”

              โลกิยกเครื่องดื่มที่รับมาขึ้นจิบเบาๆ สายตายังคงเหม่อมองมาทางที่ธอร์ยืนอยู่

              “...เจ้าสายฟ้า พี่ชายเจ้า...”

              “พี่บุญธรรม...”

              “อะไรก็ช่าง”

              แกรนด์มาสเตอร์ยิ้มขำพลางไหวไหล่ จนดูคล้ายเป็นการเดาสุ่มเล่นๆ มากกว่าจะจริงจัง ถึงกระนั้นก็ยังทำเอาเทพเอาคำลวงรู้สึกกระดากจนต้องพึ่งเครื่องดื่มในมือ ด้วยการยกขึ้นจิบอีกครั้ง

              “บางทีเจ้านั่นอาจเป็นเหตุผลที่ดี...”

              แกรนด์มาสเตอร์ยังคงจับจ้องใบหน้าของโลกินิ่ง และเทพหนุ่มก็หันกลับไปมองตอบ

              “ข้าจะไม่พูดซ้ำอีก... ข้าเกลียดเจ้าโง่จอมใจร้อนนั่น... และที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็เพียงเพื่อเป็นของเล่นแก้เบื่อให้ข้าที่นี้...”

              บุรุษสูงวัยกว่ายิ้มกว้าง

              “แล้วข้าล่ะ... เป็นอะไรสำหรับเจ้า?”

              ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มหวาน

              “...เป็นเจ้าของข้า... เพียงผู้เดียว...”

              แกรนด์มาสเตอร์จับปลายคางอีกคนเบาๆ และเชยขึ้นรับริมฝีปากอุ่น ซึ่งบรรจงจรดจูบลงไปอย่างเสน่หา

              แก้วเครื่องดื่มในมือของเทพหนุ่มชาวแอสการ์ดถูกฉวยแย่งไปวางบนโต๊ะใกล้ๆ และเรือนกายงดงามของบุตรแห่งลอเฟย์ก็ถูกกดช้าๆ ลงใต้ร่างของผู้เป็นใหญ่แห่งซาคาร์

              “ข้า... ไม่ต้องการคนอื่น... แกรนด์มาสเตอร์... แค่ท่าน…”

    --- ---

     

              เมื่อร่างจิตของธอร์ โอดินซันแตกสลายลง เขาก็กลับมาอยู่ในห้องพักอันไม่ต่างอะไรกับห้องคุมขังอีกครั้ง

              ดวงตาสีฟ้าจัดมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งมีเพียงความมืดอันเวิ้งว้าง ไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกเขาในตอนนี้

              บุตรแห่งโอดินจำไม่ได้ว่าตนยืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน แต่สุดท้ายสองขาก็พาร่างของเขาเดินกลับมานั่งตรงพื้นยกระดับ และเริ่มพยายามแกะกระชากเจ้าเครื่องมืออันจ้อยที่ติดอยู่ตรงคอเขาออก แต่มันดูจะไร้ผล

              “ธอร์เศร้า...”

              ฮัล์คทักมาจากทางด้านหลัง

              “หุบปากนะ”

              เทพสายฟ้าสวนกลับอย่างหงุดหงิด แต่แล้วมือใหญ่ยักษ์ก็มาดันไหล่เขาจนล้มไปอีกด้าน

              “ธอร์เศร้า!!”

              เจ้ายักษ์เขียวคำรามดังขึ้นเหมือนอยากเอาชนะให้อีกคนยอมรับ

              “ข้าไม่ได้เศร้าเจ้าโง่! ข้าโมโห! ข้าโกรธ!”

              บุตรแห่งโอดินลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินเข้าเตะข้าวของที่วางอยู่บนพื้นระบายอารมณ์

              “ข้าต้องเสียพ่อ! ข้าต้องเสียค้อนข้า!”

              …และคำพูดที่ติดอยู่ตรงริมฝีปาก... เขารู้สึกเหมือนเพิ่งเสียน้องชายไป...

              “เจ้าไม่ได้ฟังด้วยซ้ำ!”

              ธอร์ตะโกนต่อว่าเมื่อเพื่อนตัวเขียวของเขาส่ายหัวอย่างระอากลับ แล้วทั้งสองฝ่ายก็ตะโกนใส่กัน สลับกันฉวยของใกล้มือปาใส่กัน ไม่ต่างกับเด็กยักษ์สองคนทะเลาะกัน

              “รู้อะไรไหม... ใช่... โลกเกลียดเจ้า!”

              ทันทีที่แอสการ์เดี้ยนหนุ่มพูดจบ ฮัล์คก็หยุดโต้เถียง เขาโยนอาวุธในมือลงแล้วเดินกลับไปทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง

              ธอร์เองก็หยุด เมื่อรู้ตัวว่าเขาพูดจาทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย และตัดสินใจเดินไปหยุดยืนข้างๆฮัล์ค

              “ข้าขอโทษ ข้าพูดไปอย่างนั้นน่ะ… เจ้าไม่ใช่อเวนเจอร์ตัวโง่ ไม่มีใครเรียกเจ้าอเวนเจอร์ตัวโง่...”

              “ไม่เป็นไร”

              “เจ้าขว้างโล่ใส่คนอื่นแบบนั้นไม่ได้นะ ข้าเกือบตาย”

              เขาเริ่มใจเย็นลง และฮัล์คเองก็เอ่ยขอโทษกลับเช่นกัน

              “ข้ารู้ ขอโทษ ข้าโกรธมากตลอดเวลา ฮัล์คโกรธ! ฮัล์คโกรธตลอด!”

              “ข้ารู้... เราเหมือนกันเลย เราโง่และใจร้อนทั้งคู่...”

              บุตรของโอดินเอ่ยยอมรับ ขณะเดียวกันเสียงของใครคนหนึ่งก็แว่วตามมาด่าทอเขาถึงในหัวเช่นกัน

              ‘...ข้าเกลียดเจ้าโง่จอมใจร้อนนั่น...และที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็เพียงเพื่อเป็นของเล่นแก้เบื่อให้ข้าที่นี้...’

              …ข้าจะไม่อยู่... เป็นของเล่นแก้เบื่อให้เจ้าอีกแล้ว... โลกิ...

              ธอร์หันกลับไปพูดกับเพื่อนตัวเขียวของเขา

              “ฮัล์ค... ข้าต้องขอให้เจ้าทำอะไรบางอย่าง”

    --- ---


              เพราะยังคิดแผนหาทางเอาคืนตาเฒ่าเจ้าเล่ห์แห่งซาคาร์ไม่ได้ เทพแห่งคำลวงจึงได้แต่คอยหลบหน้าเจ้าหนี้ของเขาอยู่หนึ่งวันเต็มๆ โชคดีที่โลกิไม่เคยแย้มพรายถึงความสามารถในการใช้เวทแปลงร่างของตนให้อีกคนได้ล่วงรู้มาก่อน จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นนักที่จะหลุดรอดสายตาคนของแกรนด์มาสเตอร์

              กระนั้นพอตกค่ำ บุตรแห่งลอเฟย์ก็ได้รับจดหมายเชิญถึงห้อง และเจ้าภาพก็เป็นคนเอาบัตรเชิญมาให้เองถึงมือเสียด้วย

              “ปาร์ตี้ชุดนอน?”

              “ใช่แล้ว! น่าสนุกใช่ไหมล่ะ เจ้ารีบแต่งตัวเข้าสิ ข้าจะรอตรงนี้ โอ๊ะๆๆ ข้าลืมไปเจ้ามีทริคเปลี่ยนเสื้อผ้าวูบเดียวอยู่นี่ ใช่ไหมๆ”

              แกรนด์มาสเตอร์ไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาปฏิเสธได้ และถ้ามันเป็นปาร์ตี้หลายๆคนอย่างน้อยมันก็คงปลอดภัยมากกว่าจะอยู่กันสองคนในห้องนี้ล่ะมั้งนะ

              เพราะคิดแบบนั้น โลกิถึงยอมตอบตกลง และขอเวลาอีกคนจัดการตัวเอง ครู่หนึ่งเทพหนุ่มก็อยู่ในชุดนอนสบายๆ และเสื้อคลุมตัวยาว

              แกรนด์มาสเตอร์พาเขาไปที่ยานคอมมอดอร์อีกครั้ง และนั่นทำให้โลกิหวนนึกถึงวันที่เขาขึ้นไปบนยานนี่เป็นครั้งแรกกับแกรนด์มาสเตอร์ จำได้ว่าเขาเหนื่อยแทบตาย ไหนจะทั้งหลอกล่อ ทั้งเกลี้ยกล่อม และหว่านล้อมให้อีกฝ่ายเชื่อว่าเขาเจ็บแค้นในตัวพี่ชายจนอยากเก็บชีวิตเจ้านั่นไว้ทรมานให้หายแค้น

              ...ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริงเกือบทั้งหมด... แต่ยิ่งพูด ยิ่งเล่า ตาเฒ่านั่นก็ยิ่งทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ...

              ‘สรุปว่าเจ้ากับพี่ชาย...’

              ‘เราเกลียดกัน’

              โลกิยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบหลังพูดเสียคอแห้ง แต่อีกคนก็ยังดูจะจับใจความได้คลาดเคลื่อนตลอด

              เทพแห่งคำลวงลอบส่ายหน้าเบาๆ อย่างน้อยตอนนี้เจ้าพี่โง่นั่นก็คงได้หายใจต่อไปอีกพักใหญ่ ระหว่างที่เขาหาทางกำจัดตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นี่และยึดดาวดวงนี้ซะ

              ประตูยานคอมมอดอร์ถูกเปิดออกอีกครั้ง และครั้งนี้ทำเอาโลกิถึงกับชะงักเท้ากึก

              ภาพของผู้คนในงานปาร์ตี้ครั้งนี้ ดูผิดแผกไปจากทุกที จนโลกิต้องหันไปมองหน้าคนข้างๆที่เชิญเขามา

              “ท่านบอกว่าเป็นปาร์ตี้ชุดนอน...”

              “ใช่... และบางคนก็... ไม่ใส่อะไรนอนไง อย่างข้า... ข้าก็ไม่ใส่อะไรนอน”

              บุรุษคางฟ้าตีหน้าตาย ยักไหล่เหมือนไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกกับภาพกลุ่มคนซึ่งอยู่ในยานอยู่ก่อนแล้ว ส่วนนึงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าและกำลังมีกิจกามกันอย่างโจ่งครึ่ม

              แกรนด์มาสเตอร์รุนหลังโลกิให้เดินลึกเข้าไปในตัวยานบริเวณที่จัดงาน

              โลกิตัดสินใจยอมเดินเข้าไป และเลือกนั่งลงบนโซฟาตรงมุมด้านหนึ่งของห้อง เขาหันไปรั้งสาปเสื้อคลุมตัวยาวของบุรุษสูงวัยกว่า ให้โน้มหน้าลงมาจนใกล้ ก่อนจะกระซิบ

              “…ท่านผิดกฎ... ไหนว่า... ท่านไม่ใส่อะไรนอน...”

              แกรนด์มาสเตอร์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายดูกรุ้มกริ่ม แต่พอเจ้าแห่งซาคาร์ขยับจะถอดเสื้อผ้าออก บุตรแห่งลอเฟย์ก็ดึงเขาเข้าไปประกบจูบร้อนแรง และไม่นานนักก็ผละออก

              “ข้าอยากได้เครื่องดื่ม...”

              เทพจอมเจ้าเล่ห์ส่งยิ้มหวานให้ และหันหน้ากลับไปมองเบื้องหน้าคล้ายตัดจบการสนทนา  ทำให้แกรนด์มาสเตอร์จำใจต้องผละออกไปหาเครื่องดื่มมาปรนเปรอเอาใจเหยื่อของเขาเสียก่อน

              พออีกคนเดินผละไปแล้วโลกิค่อยลอบถอนหายใจ เขามองไปเบื้องหน้าอย่างหวั่นๆ เขาไม่คาดว่าตนต้องมารับมืออะไรแบบนี้มาก่อนเลย และอดรู้สึกกระอักกระอ่วนกับบรรยากาศโดยรอบไม่ได้

              ระหว่างที่กำลังคิดว้าวุ่นอยู่นั้น แผ่นหลังคุ้นตาของใครบางคนก็ดึงดูดสายตาเขาเสียอย่างนั้น

              ...เป็นไปไม่ได้...

              ...ไม่มีทางที่... เขาคนนั้นจะอยู่ที่นี่...

              โลกิจ้องมองแผ่นหลังนั้นค้าง นึกสงสัยว่านี่เขาฟุ้งซ่านถึงขนาดเห็นภาพหลอนของเชษฐาเลยเหรอ ก็พอดีกับที่คนผู้นั้นหันกลับมามอง

              ...และดวงตาสีฟ้าที่เขาคุ้นเคยดีก็มองตรงมาที่เขา...

              “ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ยอมอยู่ร่วมสนุกกับข้าเสียแล้ว”

              ผู้ที่เดินกลับมาพร้อมแก้วเครื่องดื่ม ยื่นส่งมันให้เทพหนุ่ม

              “ข้า... ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ร่วม”

              โลกิยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ สายตายังคงเหม่อมองไปทางภาพหลอนของธอร์ที่เขาเห็น

              สิ่งที่โลกิไม่รู้ก็คือ เวทมายาซึ่งเขาฝึกฝนจากมารดาจนแก่กล้า ช่วยให้เขาสามารถเห็นร่างของธอร์ภายใต้พลังของไฮม์ดัลได้ โลกิจึงได้แต่เข้าใจไปว่าเบื้องหน้าของเขาคือมโนภาพซึ่งเกิดจากจิตของเขาเองเท่านั้น

              “...เจ้าสายฟ้า พี่ชายเจ้า...”

              “พี่บุญธรรม...”

              “อะไรก็ช่าง”

              แกรนด์มาสเตอร์ยิ้มขำพลางไหวไหล่ และโลกิซึ่งกำลังสับสนตัดสินใจพึ่งเครื่องดื่มในมืออีกครั้ง ด้วยการยกขึ้นจิบ

              “บางทีเจ้านั่นอาจเป็นเหตุผลที่ดี...”

              แกรนด์มาสเตอร์ยังคงจับจ้องใบหน้าของโลกินิ่ง และเทพแห่งคำลวงตัดสินใจเบือนหน้าหลบดวงตาสีฟ้าจัดคู่นั้น

              …ไม่รู้ทำไมเขาต้องมาเห็นภาพของธอร์เอาตอนนี้...

              ...ตอนที่เขา...จำเป็นต้องตอบ...

              “ข้าจะไม่พูดซ้ำอีก... ข้าเกลียดเจ้าโง่จอมใจร้อนนั่น... และที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็เพียงเพื่อเป็นของเล่นแก้เบื่อให้ข้าที่นี้...”

              บุรุษสูงวัยกว่ายิ้มกว้าง

              “แล้วข้าล่ะ... เป็นอะไรสำหรับเจ้า?”

              โลกิฝืนยิ้มหวานให้

              “...เป็นเจ้าของข้า... เพียงผู้เดียว...”

              แกรนด์มาสเตอร์จับปลายคางเขาแผ่วเบา และเชยขึ้นรับจูบ

              แก้วเครื่องดื่มในมือของโลกิถูกฉวยแย่งไปจากมือ และอีกคนก็โน้มตัวทาบกดร่างของเขาให้เอนลงกับโซฟา

              “ข้า... ไม่ต้องการคนอื่น... แกรนด์มาสเตอร์... แค่ท่าน…”

              ...ใช่... อย่างน้อยโลกิก็ต้องพาตัวเองกลับออกไปจากที่นี่ ให้รอดจากทะเลราคะแห่งนี้ให้ได้ก่อน...

              โลกิลอบมองไปทางร่างบุรุษเมื่อครู่อีกครั้ง แต่เขารู้อยู่แก่ใจดี... ภาพหลอนก็คือภาพหลอน... คนที่เขามองหาไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว... และบนยานคอมมอดอร์นี่... ไม่มีแม้แต่เงาของเชษฐา ผู้ที่จะมาช่วยปกป้องเขาไว้เหมือนทุกครั้ง...

    ==TBC.==

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
zinn98x (@zinn98x)
คือเราสงสัยมากๆเลยค่ะอ่านวนหลายรอบ อยากรู้(ถึงขนาดต้องสมัครเข้ามา)ว่าสรุปน้องเสียตัวให้แกรนด์มาสเตอร์ใช่มั้ยคะ?
ปล.เราชอบเรื่องนี้มากค่ะ ภาษาสวย อ่านแล้วฟินมากกกกก
sunnyside1909 (@sunnyside1909)
กริ้ดดดดดดกร้าดมากค่าตอนนี้ ฮัล์คก็น่ารักมากกก
narscel (@narscel)
@sunnyside1909 อ้าว... สายกรี๊ดกร๊ากนี่... #Frostmaster ใช่ไหมคะ 55555 /เขียนใส่โพสต์อิทแปะติดผากวั๊ยยยยย 5555
sunnyside1909 (@sunnyside1909)
@narscel 5555555555555 โน้วววว คุณพี่ท้อต้องมาหาน้องได้ทันเวลา(?) ในตอนต่อไปแน่ๆ แต่ว่าน้องก็เซกซี่เหลือเกิลลลลลล
narscel (@narscel)
@sunnyside1909 ถึงจะมองน้องซนๆใสๆ แต่ยังไงกิของทอมฮิก็เซ็กซี่จริงๆเนอะ คิดดีกับน้องไม่ได้จริงๆค่า 555555 นี่ทำให้ใสสุดได้แค่นี้แหละ เอิ๊ก
Nion Philin (@fb1910338935951)
โอ้ววว รู้แล้วทำไมฮัล์คถึงบอกว่าธอร์เศร้าาา แอร้ยย ใจไม่ดีเลย
narscel (@narscel)
@fb1910338935951 แงงงงง เดี๋ยวคนเขียนบทมาตีเรา 5555 มาลุ้นๆช่วยหมีกับกิกันน้า ไม่ได้อยากให้หน่วงนานเร้ยยย จริงๆ แต่แต่งไม่ถึงตอนสวีทสักที แอะ 5555