บทสัมภาษณ์จีซองใน Y Magazine
แปลโดย moonbackk
ไม่อนุญาตให้ไปรีอัปโหลดที่ไหนทั้งสิ้น
วันนี้การถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง?
จีซอง : สัมผัสได้เลยว่าเป็นคอนเซปที่เตรียมมาให้โดยคิดถึงตัวผมเป็นอย่างมาก ขอบคุณมาก ๆ นะครับ เหมือนตั้งใจทำเพื่อที่จะเก็บบันทึกภาพของผมที่โตขึ้นเลยน่ะครับ
ได้เตรียมตัวอะไรสำหรับการถ่ายมั้ย?
จีซอง : กินอาหารอร่อย ๆ ให้น้อยมากที่สุดครับ เมื่อวานตอนตี 2 ผมนอนอยู่แต่ยังไม่ง่วง (ตอนนั้น)ผมอยากกินมาม่ามากเลยครับ ผมจิกมือแล้วในที่สุดผมก็อดทนที่จะไม่กินได้ครับ (ยิ้ม)
ให้อวดเคมีที่เข้ากันกับสมาชิกในวง ในบรรดาสมาชิกในวงใครทำให้จีซองหัวเราะ?
จีซอง : แน่นอนว่าพี่แฮชานทำให้ผมขำเยอะสุดเลย แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือพี่ ๆ ในทีมของผมเป็นคนตลกกันหมด เพราะแบบนั้นเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมักจะมีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอเลยครับ
พอเห็นตอนที่อยู่กับพวกพี่ ๆ ก็สัมผัสได้เลยว่าได้รับความรัก
จีซอง : ผมไม่ได้พูดไปงั้น ๆ นะ เพราะพวกพี่เขา เลยทำให้ผมได้เรียนรู้ความรักอีกรูปแบบหนึ่ง และเพราะแบบนั้นเลยทำให้ผมรักครอบครัวผมมากขึ้นไปอีกด้วยครับ
ดูเหมือน NCT DREAM มักมีสีสันที่หลากหลายอยู่เรื่อย ๆ มีคอนเซปอะไรที่อยากลองท้าทายบ้างมั้ย?
จีซอง : เมื่อสองปีก่อนผมได้พูดกับพี่ ๆ เขาตลอดว่าพวกเรามีเพลงที่เต็มไปด้วยความสุขและความหวังอย่าง Hello Future / Glitch Mode / Beatbox เยอะเลย เพราะงั้นเลยอยากลองทำภาพลักษณ์ที่มันดาร์ก ๆ ดูสักครั้งน่ะครับ
ถ้าสิ่งนั้นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ NCT DREAM แฟน ๆ ก็คงถูกใจนะ
จีซอง : ครับ เพราะงั้นในปี 2023 ก็จะเป็นปีแห่งการท้าทายครับ
มีเพลงของ NCT ที่ฟังแล้วได้กำลังใจหรือชอบเนื้อร้องมั้ย?
จีซอง : จริง ๆ มันมักจะมีท่อนหนึ่งอยู่ในทุกเพลงเลย แต่ในบรรดาเพลงทั้งหมด ผมมี 3 เพลงที่ชอบ เพลงแรกคือ Never Goodbye ถึงมันจะเป็นเพลงที่ผมมีเขียนเนื้อร้องด้วยก็จริงแต่ทุกครั้งที่ผมฟังเพลงนี้เหมือนผมได้รับการปลอบโยนน่ะครับ ถึงตอนนั้นที่ผมเขียนเนื้อร้องเพลงนี้ กับผมในตอนนี้จะแตกต่างกัน แต่จะเรียกว่ามันเหมือนผมในตอนนั้นกำลังให้ปลอบโยนผมในตอนนี้ได้มั้ยนะ เหมือนได้ย้อนกลับไปมองความทรงจำในอดีตอีกครั้งเลยครับ ส่วนเพลงที่สองคือ GRADUATION เป็นเพลงที่เล่าเรื่องราวของ NCT DREAM ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะมีความหมายที่ว่า ‘การจบศึกษามันจบแล้ว’ มันเลยมีความหมายต่อพวกเราและแฟน ๆ ค่อนข้างมาก ไม่รู้ว่าเพราะแบบนั้นรึเปล่า ทำให้ทุกครั้งที่ผมฟังก็รู้สึกตื้นตันกับมันน่ะครับ เพลงสุดท้ายคือ ANL มันเป็นเหมือนเพลงที่ทำมาจากภาพเวลาที่พวกเรากำลังเล่นกัน พอได้ฟังก็รู้ซาบซึ้งแล้วก็มีความสุขด้วยครับ
พวกเราเองพอไปฟังเพลงพวกนั้นอีกครั้ง น่าจะสัมผัสความรู้สึกใหม่ ๆ ตอนฟังได้แน่เลย
จีซอง : ว้าว ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดีเลยนะครับ
นอกจากเพลงและการเต้น มีอะไรที่ทำเพื่อหาความสนุกมั้ย?
จีซอง : ผมชอบการเล่นเกมไม่ก็ดูวิดีโอ ส่วนตัวแล้วอยากลองยิงปืนเป็นงานอดิเรกดูครับ แล้วก็ผมชอบดูบอลด้วย ก็เลยอยากลองเล่นมันจริง ๆ ดู แต่ถ้าเกิดว่าได้รับบาดเจ็บขึ้นมา ผมก็จะไม่สามารถทำการแสดงบนเวทีได้ ผมเลยไม่ทำครับ ผมตั้งใจจะไม่ออกกำลังกายอะไรที่มันรุนแรงน่ะครับ
ถ้างั้นก็ไม่ได้ออกกำลังกายเหรอ?
จีซอง : ออกกำลังกาย...(ยิ้ม) เหมือนผมทำบ้างไม่ทำบ้างอะครับ ถ้าป่วยหรือมีตารางงานออกนอกประเทศมันก็จะทำให้ตารางชีวิตประจำวันมันรวน เพราะแบบนั้นเลยกลายเป็นไม่ค่อยได้ออกเท่าไหร่ครับ
จีซองบนเวทีกับจีซองตอนไม่อยู่บนเวทีเหมือนกันขนาดไหน?
จีซอง : ก็เกือบหมดครับ จีซองบนเวที จีซองที่ทำการแสดง จีซองที่อยู่ข้างล่างเวที จีซองที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ผมไม่ได้แยกตัวผมไว้แบบนั้นน่ะครับ และไม่เคยเหนื่อยกับช่องว่างอยู่บนเวทีกับล่างเวทีด้วยครับ
ถ้าหากมีนิสัย กิจวัตรประจำวัน รสนิยมที่มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้ มันคือ?
จีซอง : อันนี้บอกที่นี่ที่แรกเลย มันมีกิจวัตรประจำวันที่เกิดขึ้นตอนทำคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาโอลิมปิก สเตเดียม ผมเป็นคนค่อนข้างขี้กังวล ถ้ากังวลมากไปก็จะไม่สามารถทำเรื่องที่ต้องทำได้ แล้วก็จะไม่สามารถทำเรื่องที่ปกติทำมันได้ดีได้ด้วย บางทีก็มีช่วงที่กังวลมาก ผมเลยคิดว่าจะทำยังไงเพื่อเอาชนะอาการนี้ดี ทำยังไงถึงจะสามารถทำให้ตัวผมสงบลงก่อนทำการแสดงบนเวทีได้กันนะ ในระหว่างที่หาวิธี ผมก็ได้ไปฟังเพลง City Lights - Avicii เข้า เนื้อเพลงตั้งแต่วรรคแรกในเพลงยันท่อนกลางมันให้ความรู้สึกเหมือนเอาความรู้สึกที่ผมรู้สึกกังวลก่อนขึ้นเวทียันแสดงเสร็จแล้วไปเขียนไว้ในนั้นเลยครับ เพราะงั้นก่อนจะขึ้นไปบนเวทีผมก็เอาแต่ตะโกนร้องเพลงนั้น แล้วผมก็หายกังวลได้ครับ
คิดว่ารูปลักษณ์และความสามารถของตัวเองได้รับมาจากใคร?
จีซอง : ฝั่งคุณแม่ต่างบอกว่าผมเหมือนแม่ แต่ผมคิดว่าผสม ๆ อะครับ จมูกผมเหมือนพ่อ รูปหน้าของผมน่าจะเหมือนแม่ครับ
แล้วความสามารถล่ะ?
จีซอง : อันที่จริงทั้งพ่อและแม่ต่างเต้นไม่เป็นทั้งคู่ เพราะงั้นการเต้นมันคือความสามารถที่ผมได้มาทีหลัง แต่ว่าทั้งสองท่านชอบร้องเพลงครับ แม่ร้องเพลงเพราะ พ่อก็ตั้งใจร้องเพลงครับ (ยิ้ม)
กลับมาพูดเรื่องการถ่ายทำสักครู่ วันนี้มีสไตล์เสื้อผ้าที่ชอบระหว่างถ่ายทำมั้ย?
จีซอง : มีที่ชอบ 3 ชุดครับ อันที่เป็นยีนส์ อันที่เป็นโอเวอร์ไซส์ออลแบล็ก และอันที่ผมชอบใจคือชุดไหมพรม ทั้งสามเซตเป็นสไตล์ที่ผมเพิ่งได้ใส่ครั้งแรกก็เลยชอบมากครับ
เห็นบอกว่าตอนทำแบบทดสอบ MBTI ได้ INFJ และ INFP จีซองคิดว่าตัวเองใกล้เคียงกับ J หรือ P มากกว่ากัน?
จีซอง : อันที่จริงตอนนี้ใกล้กับ P ครับ ตอนนี้มีสิ่งที่ทำในทันทีเยอะมากเลย
แล้วถ้าหากมีเรื่องที่ต้องทำตามระเบียบขึ้นมาในชีวิตประจำวันล่ะ?
จีซอง : เดิมทีผมมีกำหนดเวลาเรียนอังกฤษ ญี่ปุ่น และอื่น ๆ ที่ทำอยู่ทุกวันอย่างไม่ขาดตกบกพร่องอยู่ครับ ถ้าวันไหนไม่ทำ วันต่อมาก็จะทำไปสองเท่า ทำอย่างนั้นมาได้หนึ่งเดือนแล้ว ทำให้เห็นการพัฒนาของตัวเองได้ัชัดเลย แต่ว่ามีช่วงที่ไม่ได้ทำมันเลยเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ พอกิจวัตรประจำวันรวนขึ้นมา ผมก็ไม่ได้ทำเลยน่ะครับ
ถ้างั้นตอนที่พักผ่อนมักจะทำอะไร?
จีซอง : อย่างแรกคือผทไม่ออกไปข้างนอกครับ ต่อให้พี่ ๆ เขาจะเรียกให้ไปผมก็จะเล่นเกมไม่ก็ดูวิดีโออยู่ที่บ้านครับ
คิดยังไงกับภาพลักษณ์ในอดีตที่เด็กกว่าตัวเองในตอนนี้? มันมักจะมีช่วงที่เราดูรูปเก่า ๆ แล้วก็พูดว่า ‘ฉันทำแบบนี้เหรอ?’ อยู่ด้วยนี่นา
จีซอง : ผมเดบิวต์เร็วใช่มั้ยล่ะครับ เพราะงั้นเวลาดูวิดีโอตอนตัวเองยังเด็กก็มันจะคิดว่า ‘ตอนนั้นเป็นแบบนี้สินะ’ ส่งที่น่าทึ่งก็คือตอนนี้ผมเงียบกว่าตอนนั้น ตอนเรียนอนุบาลคือผมพูดเยอะมากเลย พอต้องทำตัวให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย นิสัยผมเลยเปลี่ยนไปน่ะครับ
พอได้ลองคุยดูแล้ว จีซองดูเป็นคนสุขุมมากเลยนะ
จีซอง : งั้นเหรอครับ? (ยิ้ม)
วันนี้เป็นวันแรกของเดือนกุมภาพันธุ์ อยากจะจำปี 2023 ไว้แบบไหน? ถ้าในอนาคตมีเป้าหมายหรือมีแผนจะทำอะไร ช่วยบอกหน่อย
จีซอง : ผมพูดแบบจริงจังต่อได้ใช่มั้ยครับ? ส่วนตัวแล้วมันเป็นปีที่ผมเองก็คาดหวังด้วย ในปี 2021 NCT DREAM โตขึ้นมากเลย ปี 2022 ก็ได้ปล่อยอัลบั้มออกมา 3 อัลบั้ม แล้วก็มีอะไรเยอะแยะไปหมด เพราะงั้นก็เลยอยากจะแบ่งปันกับใครหลาย ๆ คน ในหลาย ๆ ที่ให้มากขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะแบบนั้นรึเปล่า ทำให้ผมคิดว่าปี 2023 เป็นปีที่เหมาะสมที่จะทำแบบนั้นมากที่สุดเลย
Y Magazine ฉบับฤดูใบไม้ผลิมีคอนเซปคือ
‘วัยเยาว์’ คิดว่าวัยเยาว์คืออะไร?
จีซอง : ผมชอบคำว่าวัยเยาว์นะครับ แต่ผมอยากจะบอกว่า ‘วัยเยาว์มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร’ ผมมีช่วงที่รู้สึกว่าทำไมเราถึงคิดว่า ‘ตอนนั้นมีก็ดีนะ’ แล้วมองย้อนกลับไปแต่ในอดีตเท่านั้นล่ะ พอลองคิดดู ณ เวลานี้ที่กำลังดำเนินอยู่ก็เป็นความทรงจำที่เป็นวัยเยาว์ได้ด้วยเหมือนกันนี่ครับ เพราะแบบนั้นผมเลยคิดว่า ‘วัยเยาว์มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร’ ครับ
การสัมภาษณ์ได้จบลงแล้ว
จีซอง : ผมชอบการสัมภาษณ์แบบนี้มากเลยครับ
การถ่ายทำวันนี้ก็เสร็จแล้วด้วย จบนี่แล้วจะทำอะไร?
จีซอง : ก่อนอื่นคงจะต้องกินข้าวก่อนเลยครับ ผมจะต้องกินมาม่าที่ผมไม่ได้กินเมื่อวานครับ
แปลโดย moonbackk
ไม่อนุญาตให้ไปรีอัปโหลดที่ไหนทั้งสิ้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in