เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
It has everything to do with the rain.pearandfreesia
CHAPTER IX - Low Season สุขสันต์วันโสด

  • อ้อม: คนพังๆก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ




    ทำชีวิตตัวเองจนยุ่งเหยิงด้วยเรื่องหาสาระไม่ได้มาสักพัก กว่าจะว่างทั้งกายทั้งใจและพาตัวเองเดินไปซื้อตั๋วดูหนังโรงได้อีกครั้ง เหล่าหนังรางวัลก็พากันโดนกวาดออกจากโรงไปหมดเป็นที่เรียบร้อย


    ระหว่าง Portrait of a Lady on Fire กับ Low Season สุขสันต์วันโสด ดูไม่ใช่คู่ท้าชิงที่ควรมาเจอกันเลย อีกทั้งในฐานะคนชอบดูหนังแมสปนอินดี้ เราน่าจะเลือกเรื่องแรกจริงไหม? 


    ...แต่บางทีในส่วนลึกของใจ เราก็รู้ดีว่าไม่ได้ชื่นชอบอากาศหนาวเหน็บยามหิมะตก หากแต่อากาศเย็นเพียงน้ำค้างเกาะเป็นแม่คะนิ้งก็เพียงพอแล้วสำหรับแผลใจที่ยังรักษาไม่หายดี


    Low Season สุขสันต์วันโสด เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้สัญชาติไทย เข้าโรงรับวันวาเลนไทน์ประจำปี 2020 หนังเรื่องนี้เคยส่งตัวอย่างผ่านตาเราไปเมื่อช่วงปลายปีก่อน แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นพอให้สนใจ (นอกจากกลิ่นอายล้านนา ที่พักนี้ดูเหมือนทั้งหนังทั้งซีรีส์จะเลือกไปถ่ายทำกันดาษดื่น) จนกระทั่งมีรุ่นพี่ที่รู้จักกันไม่นานแนะนำให้ไปลองดู โดยบรรยายสรรพคุณเพิ่มเติมเอาไว้ว่าเพลงเพราะ เคมีดี ภาพสวย


    แต่แหม... ไม่ยักกะเตือนน้องเสียหน่อยว่านางเอกของเรื่องมองเห็นผีได้


    แน่นอนว่าเราสะดุ้งไม่น้อยตอนเปิดฉากความสามารถพิเศษของนางเอกเป็นครั้งแรก หลับตาทันบ้างไม่ทันบ้างตามประสาคนขวัญอ่อน จนสุดท้ายก็ตัดสินใจลองสู้ลืมตาเพราะอยากซึมซับบรรยากาศอื่นๆของหนัง (ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าผีในเรื่องก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ มองๆไปเดี๋ยวก็ชิน) ถึงอย่างนั้นเรื่องผีไม่ใช่เรื่องเดียวที่เราไม่ได้เตรียมตัวไปก่อน ประเด็น ‘ความพัง’ ‘การอกหัก’ และ ‘การเยียวยา’ ก็เป็นเรื่องที่เราไม่คิดว่าจะเข้าไปเจอ


    ก็นะ ตอนนางเอกเริ่มระลึกถึงแฟนเก่า นึกถึงการกระทำแสนหวานกับคำมั่นสัญญา ก็ทำให้ใจเราเริ่มตื้อขึ้นมา จนกระทั่งถึงตอนที่ ‘หลิน’ (พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) ตัดสินใจบ้าบิ่นกว่าการเดินทางไปจบอดีตที่กิ่วแม่ปานตัวคนเดียว ด้วยการขอร่วมหัวจมท้ายกับชายหนุ่มแปลกหน้า เราจึงปรบมือโห่ร้องอยู่ในใจ


    เพราะตอนที่รู้สึกชีวิตไม่เป็นดั่งคาด การรับมือกับความผิดหวังที่ดีที่สุด อาจคือการละทิ้งความคาดหวังทั้งหมดและปล่อยตัวไปตามโชคชะตา แล้วแต่จะนำพาไปจบลงที่ตรงไหน มองย้อนถึงความน่าจะเป็นหลากหลาย ณ จุดเวลาตรงนั้น อาจดี อาจร้าย อาจโดนทิ้งกลางทาง อาจโดนลอบทำร้าย หรือบางที...

     
    อาจเจอคนที่ยอมรับกันได้ ในจุดที่เปราะบางที่สุดของเราเหมือนอย่างที่หลินได้เจอกับ ‘พุฒิ’ (มาริโอ้ เมาเร่อ)


    การมองเห็นผี เป็นสิ่งที่ทำให้หลินแตกต่างจากคนทั่วไป เป็นลักษณะที่หนังเลือกใช้เพราะเด่นชัดและง่ายต่อการสื่อสาร หากเปรียบเทียบกับความเป็นจริง ทุกคนล้วนมีจุดมืดในตัวเองไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง และการตามหาคู่ชีวิตที่ลงตัวก็หนีไม่พ้นการหาคนที่เข้าใจและยอมรับได้ในส่วนที่ไม่สวยงามตรงนั้นของเรา


    คำพูดของพุฒิตอนที่หลินบอกความจริงมันเรียบง่าย ไม่โรแมนติก ไม่มีความหวานใดๆ มีแค่ความเข้าใจไปจนถึงระดับเห็นอกเห็นใจ ที่คนที่ต้องทนอยู่กับความลับและความต่างที่สังคมมองว่าผิดเพี้ยนและเป็นปมด้อยของเธอมาทั้งชีวิตต้องมีหวั่นไหวหัวใจกันบ้าง




    เราไม่ได้บอกว่าหนังเรื่องนี้ดีเลิศเลอจนขึ้นแท่น มีหลายจุดที่บอดและไร้ความสมเหตุสมผล แต่ความสวยงามของธรรมชาติ ความน่ารักของนักแสดง เคมีแปลกประหลาดจากบทพูดที่เหมือนจะเป็น improvised เสียมาก ไปจนถึงเพลงอบอุ่นคุ้นเคยที่หากเป็นคนฟังแนวนี้อยู่แล้วต้องเคลิ้มตามอย่างแน่นอน ทำให้คนดูสามารถหลับตาลงข้างหนึ่งให้กับข้อบกพร่องของหนังได้ สุขสันต์วันโสดเปรียบกับเราได้เหมือนการนั่งหลังรถแดงไต่ขึ้นไปบนดอย ยาวมากโดยไม่มีหยุดพัก (ไม่น่าเชื่อที่หนังง่ายๆเรียบๆ กินเวลาไปถึง สองชั่วโมงห้านาที) แต่กลับไม่มีจุดไหนชวนให้ชะงัก ง่วงงุน หรือน่าเบื่อ เพราะความไม่โดดเด่นของสองข้างทางกลับชำระล้างและซ่อมแซมหัวใจที่พังพินได้ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงหายขาด


    ยังไม่มีเวลาและจังหวะได้ถามคนที่แนะนำมาว่าคิดอะไรมากไปกว่าความน่ารักและเพลงเพราะๆหรือเปล่า ถึงส่งเรามาเข้าโรงสี่ในวันหยุดที่ได้หยุดเสียทีอาทิตย์นี้ ส่งน้องคนหนึ่งที่นั่งบ่นแล้วบ่นเล่าผ่านคำพูดจาและแววตาว่าใจดวงนี้ยังไม่หายจากแผลเก่า เข้าไปดูหนังที่รวบรวมคนพังมากหน้าหลายตาต่างเรื่องราวเข้าไว้ด้วยกัน จงใจจะให้เราสะท้อนมุมมองหรือแค่ให้เรามีอะไรทำยามว่างก็ไม่รู้ได้


    ถึงอย่างนั้น นี่อาจเป็นครั้งแรกในรอบหกเดือนที่ดูหนังแล้วอิ่มใจ โดยไม่ได้ไปแตะล้ำเส้นความรู้สึกในลิ้นชักของตนเอง


    ‘บรรยากาศเมืองเหนือ’ ยังไม่คลายไปจากใจเรานัก มันยังคงเต็มไปด้วยภาพของดิวและภพ เรื่องของหลิวและพี่ท้อป คราบน้ำตาและความเป็นจริงที่ถูกหนังของพี่มะเดี่ยวหยิบแว่นขึ้นมาส่องขยาย Low Season ไม่ได้ทำแบบเดียวกับ ดิว ไปด้วยกันนะ ในทางตรงข้าม สุขสันต์วันโสดเหมือนค่อยๆเด็ดสมุนไพรตีนดอย เอามาตำรวมกันในครกยา โป๊ะลงบนแผลที่เริ่มตื้นขึ้นมาบ้าง ก่อนจะปิดท้ายด้วยมือเรียวขาวยื่นจอกยาดองให้จิบคลายหนาว


    'คนพังก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ' เป็นประโยคจากปากของอ้อม สาวใหญ่ในโฮมสเตย์อันเป็นสถานที่ศูนย์กลางของเรื่อง ประโยคนี้แม้จะถูกพูดด้วยน้ำเสียงใส่อารมณ์เล็กน้อย หากแต่ไร้นัยแฝงถึงความดูแคลนหรือรำคาญ อ้อมเหมือนจะพูดถึงความเป็นจริงให้ทุกคนได้ฟังมากกว่า ว่าทุกคนล้วนสามารถพังลงได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะจากเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งรวมไปถึงจากความรัก และการทำตัว(น่าจะ)ขาดสติในยามพังอย่างการหนีเข้าป่าขึ้นดอย ก็ไม่ใช่เรื่องควรถูกตัดสินจากสังคมว่าเป็นบ้าแต่อย่างใด


    เป็นหนังรวมคนพัง ที่ตัวหนังไม่ได้พังตาม ซ้ำยังพยุงคนพังๆได้เป็นอย่างดี


    นึกแล้วก็น่าแปลกเหมือนกัน หากการเลือกจะไม่ลงปลายทางและเดินทางต่อไปกับพุฒิโดยไม่รู้ว่าจุดหมายอยู่แห่งหนใด คือการเลือกรักษาหัวใจในแบบของหลิน การที่เราเลือกดู Low Season โดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยแทนที่จะเข้าไปดู Portrait of a Lady on Fire ซึ่งเป็นสไตล์ที่คุ้นเคย ก็อาจเป็นการเลือกรักษาหัวใจในแบบของเราเช่นกัน.


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in