สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวท่องเที่ยวในฝรั่งเศสกับคนฝรั่งเศสแท้ๆตลอดระยะเวลา 3 เดือนค่ะ จริงๆแล้วทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะได้มาเขียนรีวิวเอาช่วงนี้ ครบรอบทริปหนึ่งปีพอดีค่ะ 5555555
          เกริ่นก่อนว่าพี่สาวแท้ๆของเราแต่งงานกับชาวฝรั่งเศสและย้ายไปอยู่ที่นู่นนะคะ เราเลยมีที่พักและยื่นวีซ่าเยี่ยมเยียน เลยได้วีซ่าเชงเก้น 90 วัน เราเดินทางสิ้นเดือนพฤษภาคมและบินกลับตอนต้นเดือนสิงหาคมค่ะ เบ็จเสร็จก็เกือบๆสามเดือน 
          ทริปนี้เป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของเราค่ะ และเราเดินทางคนเดียว แม่เลยให้นั่งเครื่องบินตรงเลยเพราะเราต่อเครื่องไม่เป็น เราเลยซื้อตั๋วเครื่องบินของสายการบิน Lufthanza ไปลงที่ Frankfurt ประเทศเยอรมันค่ะ เพราะพี่สาวเราอยู่เมือง Strasbourg ที่อยู่ติดกับเยอรมัน ประจวบกับช่วงมิถุนาปีที่แล้วมีประท้วงที่ปารีสพอดี เลยตัดสินใจลงใกล้บ้านพี่ไว้ก่อน

          เรานั่งอีโค่ไป-กลับก็ราวๆสามหมื่นบาท บินตรง 12 ชม. กรุงเทพ-เยอรมัน น้ำหนักกระเป๋า 23 กก. อาหารบนเครื่องจะมีให้เลือกไม่เยอะ ถ้าจำไม่ผิดเราเลือกทานไก่กับมันฝรั่งและมีขนมปังกับช็อคโกแลตให้ประมาณนั้นค่ะ แถมไวน์รสชาตินุ่มลิ้นใช้ได้อยู่ค่ะ
          หลังจากหลับๆตื่นๆบนเครื่องนานสิบกว่าชม. ก็ถึงประเทศเยอรมันค่ะ สนามบินกว้างใหญ่ต้องเดินต่อไปอีกหน่อยเพื่อเข้าตรวจตม. ด้วยความที่เราถึงเช้ามากประมาณหกโมงเช้าคนเลยไม่เยอะ โชคดีเจอพี่คนไทยบนเครื่องนำทางไปด้วยเลยไม่ต้องงมทางเอง
           ก่อนไปก็ค่อนข้างเครียดเพราะกลัวไม่ผ่านตม. (เหตุเกิดจากการอ่านกระทู้เยอะเกินไป) แต่มั่นใจว่าเอกสารทุกอย่างของเราถูกต้องและชัดเจน พอถึงคิวเข้าช่องตม.เขาก็ถามคำถามนิดหน่อยค่ะ อย่างเช่น มาทำอะไร ทำไมถึงมาลงเครื่องที่นี่ แล้วคุณพักที่ไหน แค่นี้แล้วเขาก็คืนพาสให้ ทั้งหมดสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
           พอเอากระเป๋าเสร็จเราก็ออกมาเจอกับพี่เขยพอดี นางตื่นมารอรับเราตั้งแต่ตีสี่ คือการเดินทางจาก Strasbourg มาสนามบิน Frankfurt ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ค่ะ

(สองภาพบนเป็นภาพข้างทางระหว่างเดินทางไปเมือง Strasbourg ถ่ายจากกล้องฟิล์มของเรา)

          วิวสองข้างทางก็ไม่มีอะไรมาก จะเป็นทุ่งหญ้าเขียวๆ กับหมู่บ้านประปราย ด้วยความนอกเมืองด้วยเลยไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ เราชอบเส้นทางที่วิ่งในป่าสน ไม่รู้ว่าใช่ต้นสนหรือเปล่าแต่เดาว่าใช่ 5555555 เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพมาค่ะ แต่ลองจินตนาการแบบหนัง Twilight ฉากที่อยู่ในป่าสน คือฟีลนั้นเลย สองข้างทางเขียวชอุ่ม มีป้ายระวังจิงโจ้ระวังสัตว์ป่าด้วย
          ด้วยความที่พี่เขยเห็นว่าเรามาครั้งแรก นางเลยพาแวะหมู่บ้านแถวชายแดนของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนางบอกว่าบ้านแถวนี้เนี่ยจะสวย และชื่อหมู่บ้านก็จะเป็นภาษาเยอรมัน พาแวะมาตามทางหลายหมู่บ้านเลยค่ะ แต่จำชื่อไม่ได้จริงๆ เพราะหมู่บ้านจะคล้ายๆกันหมด ทั้งตัวบ้านและสภาพแวดล้อม 

(สองภาพบนเป็นภาพที่เราแคปมาจากคลิปที่เราถ่าย อาจจะไม่คมไปบ้าง)

          สิ่งที่เราจับจุดได้คือ 1. ไม่มีสายไฟรุงรังแบบประเทศเรา 2. ทุกหมู่บ้านจะต้องมีโบสถ์ประจำหมู่บ้าน 3. แต่ละหมู่บ้านจะต้องมีสัญลักษณ์อะไรสักอย่างให้เป็นเอกลักษณ์ เป็นประติมากรรมหรือรูปปั้นอะไรสักอย่าง 4. วงเวียนเยอะมาก และ 5. บ้านของชาว Strasbourgeois จะต้องมีขีดๆก้างปลาค่ะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์บ้านเรือนของแคว้น Alsace 

          หลังจากพี่เขยพาทัวร์ชมหมู่บ้านนอกเมืองเสร็จแล้ว ก็ขับรถต่อไปอีกสักพัก หลับไปหนึ่งตื่น ก็จะถึงตัวเมือง Strasbourg ส่วนรีวิวในตัวเมืองเต็มๆเราจะยกไปไว้ในตอนหน้านะคะ เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเดือน อาจจะไม่รู้ทุกซอกทุกมุมแต่สถานที่หลักๆเราเก็บมาได้พอสมควรค่ะ