วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2564
ปีนี้เป็นปีที่ยุ่งเหยิงจริงๆ
ทำไมยุ่งเหยิงล่ะ? ก็คงหลายๆเรื่องแหละครับ ต้นปีที่ผ่านมาผมก็ต้องปรับอาหารการกินครั้งใหญ่ในชีวิตเพื่อที่จะรักษาโรคประจำตัวหนึ่งซึ่งผมก็เพิ่งรู้ในวัย 23 เนี่ยแหละว่าผมเป็น
แต่ก็นะ กินเนื้อและแป้งให้น้อยลงและกินผักให้เยอะขึ้นก็ดีเหมือนกัน ลึกๆในใจก็อยากกินเนื้อน้อยลงอยู่แล้วล่ะครับ ทุกๆคำที่กัดไปมันอดไม่ได้จริงๆที่จะนึกถึงสัตว์น้อยๆเหล่านั้นตอนเขายังมีชีวิต ได้แต่ถอนหายใจแล้วก็กินต่อไปเพราะจะกินแต่แป้งก็ไม่ดี
ทำไมไม่กินผักแต่แรกล่ะ? คนไม่เคยถูกฝึกกินผักอ่ะครับ ตั้งแต่เด็กๆก็ถูกเลี้ยงมาด้วยยายและลูกพี่ลูกน้อง พอเราไม่ใช่ลูกเขาตรงๆ เขาก็ใจอ่อนกับเราง่ายไม่อยากฝืนเราซักเท่าไหร่แม้มันจะเป็นประโยชน์กับเราในวันข้างหน้าก็เถอะ
ก็เลยเติบโตมาโดยที่ร่างกายไม่ได้รับรู้ว่าผักเป็นของกินได้ เวลากินอาหารแล้วเจอสัมผัสหรือกลิ่นของผักในปากร่างกายก็จะตกใจนึกว่ามีของแปลกประหลาดเข้ามาก็จะอาเจียน ขนลุกไปทุกครั้งที่กัดเจอผักเลย
แต่อย่างที่บอกแหละครับ ผักมันจำเป็นต่อสุขภาพผมตอนนี้ถ้าผมไม่อยากให้โรคของผมแย่ลงไปมากกว่านี้หรือไม่อยากเข้ารับการผ่าตัด แล้วแหมคุณยุคสมัยนี้ใครเขาจะมีเงินไปผ่าตัดกันล่ะ ไม่ใช่ผมแล้วแหละคนหนึ่ง
เรื่องอาหารการกินก็พักไว้ก่อนแล้วกัน ไหนๆก็พูดเรื่องเงินแล้วก็พูดเรื่องนี้ต่อเลยแล้วกัน
สภาพสังคมเศรษฐกิจตอนนี้ทุกคนคงไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกว่าจะไม่มีเงินกัน ผมเองก็คิดไว้แล้วแหละว่าผมอาจจะไม่มีเงินเพียงพอที่จะทำตามแผนการในปีนี้ ก็เตรียมแผนรองรับเอาไว้แล้วล่ะครับ
เรื่องซวยคือมันดันมามีปัญหาในจังหวะที่แย่ที่สุดเนี่ยซิ
ปัญหาเรื่องเงินของผมก็คือเงินที่ผมถูกสัญญาว่าจะได้รับนั้นผมตั้งใจว่าจะเอาไปใช้จ่ายค่าเทอมเรียนป.โทเทอมแรกของผมแต่ดันเกิดปัญหาขึ้นจนทำให้เงินนั้นคงจะไม่มีให้แล้ว
จังหวะที่แย่คือผมดันรู้เรื่องนี้ในวันถัดไปหลังวันสุดท้ายของการยื่นขอทุนผู้ขาดคุณทรัพย์ของมหาลัยในการเรียน แถมอีกไม่กี่วันก็จะเริ่มจ่ายค่าเทอมแล้วด้วยก็เลยเคว้งแล้วก็เศร้าไปพักหนึ่งเลย
เศร้าไปคนเดียวก็คงไม่ได้อะไรมากหรอกครับเลยมาแชร์ให้ฟัง555 เอาจริงๆผมก็จัดการหายืมเงินมาจ่ายเขาได้สำเร็จแหละครับแล้วก็ผลักปัญหาวันนี้ไปเป็นปัญหาวันหน้าต่อไปว่าจะไปหาเงินจากไหนมาคืนเขาดี
เศร้านะครับ การเป็นหนี้เนี่ย
ส่วนตัวแล้วผมหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้มาตลอด แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบค่าข้าว ค่าของก็ตาม เพราะผมเห็นครอบครัวผมถูกทำลายเพราะเรื่องเงินมามากกว่า1ครั้งเพราะหนี้เนี่ยแหละครับ จะให้ทำอย่างไรได้ มันคงฝังใจไปแล้ว
แต่ก็ต้องฝืนใจเป็นหนี้ไปแหละครับ ในเมื่อผมลองทำงานแล้ว หางานหลากหลายที่แล้วผมก็พบว่าผมเกลียดงานเหล่านี้ทุกงานจริงๆ
เกลียดกับวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนให้คนข่มคน เกลียดกับงานที่ไม่เห็นค่าเราแล้วมองว่าเราเป็นเหมือนวัชพืชที่มีเยอะแยะทั่วไปจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ เกลียดการที่ต้องสวมหน้ากากเข้าหากันเพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจที่จะตามมา เกลียดการก้มหน้าก้มตาทำงานเก็บเงินเพื่อเอาตัวรอดจนไม่สนว่าคนรอบข้างจะเป็นอย่างไรและเกลียดองค์กรอำนาจนิยมที่ขับเคลื่อนไปด้วยเส้นสายเลียแข้งขากันไปจนกว่าจะใหญ่พอให้คนอื่นมาเลียแข้งขาตน
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแค่เรื่องที่เกลียดอย่างเดียวนะครับ บางเรื่องมันก็...กลางๆ
เช่นงานที่เราทำนั้นเราชอบแต่ไม่ได้ชอบมากซักเท่าไหร่ เปรียบเหมือนคนคนหนึ่งที่เราชอบอยากกอด อยากอยู่ข้างแต่ไม่ได้ใจเต้น ไม่ได้อยากอยู่ด้วยกันตลอดไปอ่ะครับ ที่สำคัญคือผมรู้อยู่แล้วว่าผมชอบอะไร... ผมแค่ต้องเรียนโทก่อนจึงจะทำงานสายนั้นได้
แล้วหางานทำไม ไม่เรียนต่อไปเลยแต่แรกล่ะ? อยากเก็บเงินน่ะครับ อยากส่งตัวเองเรียน ไม่อยากเป็นหนี้เงินหรือหนี้บุญคุณใครอีก ชีวิตที่เป็นอิสระถึงลำบากแต่สำหรับผมผมรู้สึกดีกว่าหลายเท่าตัวนะครับ อาจจะเพราะผมเป็นคนที่รักอิสระที่เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่กดขี่ ทำร้ายและพยายามควบคุมเรามาโดยตลอดด้วยจึงทำให้โหยหาขนาดนี้
สุดท้ายแล้วสภาพสังคมตอนนี้มันก็ไม่เหมาะต่อการเก็บเงินแหละครับ เก็บเป็นความรู้จะดีกว่า ไม่อยากจะเสียเวลาทำอะไรที่ไม่ชอบเพื่อหลีกหนีความกลัวตัวเองแล้วครับ ผมอยากมีชีวิตที่ผมไม่ต้องมองแต่อนาคตจนไม่มีทางเลือกต้องปล่อยให้อนาคตมากำหนดเราตลอดเวลา
อีกสาเหตุที่สำคัญก็นอกจากผมจะรู้ว่ารักวิชาชีพไหนแล้ว ผมยังรู้ด้วยว่าผมรักใครและผมอยากจะพร้อมที่จะดูแลปกป้องเขาให้เร็วที่สุด อยากจะมีเวลาเหลือไปใช้ชีวิตด้วยกันแล้วแหละครับ ทุกๆวันคนเราก็เดินก้าวต่อไป ไม่รู้ว่าเส้นทางที่เราเดินมันจะพาเราใกล้หรือไกลกัน
ด้วยเหตุผลนี้ผมก็ไม่สามารถเล่นบทเซฟๆค่อยๆเก็บเงินได้จริงๆครับ คงต้องรับบทเสี่ยงๆมาคว้าฝันที่ไม่รู้จะมีจริงมั้ยและจะหลุดลอยไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พยายามให้สุดแล้วก็หวังว่าจะบังเอิญได้ผลที่ดีนะครับ ชีวิตคนเรามันพยายามอย่างเดียวก็ม่ดดีแน่นอนบางทีก็ต้องอาศัยเรื่องบังเอิญหรือที่บางคนเรียกโชคด้วย(ผมขอไม่เรียกว่าโชคครับ ผมเชื่อว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญไม่ได้มีใครลิขิตหรืออำนาจใดๆบงการมัน)
หวังว่าสิ่งที่ผมทำในวันนี้จะนำพาผมไปในทิศทางที่ผมพอใจนะครับ555 แต่ต่อให้มันจะนำผมไปในทางที่แย่ล่ะก็คงช่วยไม่ได้นะครับ เส้นทางนี้คือสิ่งที่ผมคนนี้ในวินาทีนี้พอใจที่สุดแล้ว ผมไม่อยากเสียสละความสุขตอนนี้เพื่อความสุขตอนหน้า ผมหวังว่าผมจะได้สุขทั้งตอนนี้และตอนหน้าเลยน่ะครับ
ขอมากไปมั้ยครับ555
แหม คนเราเกิดมาทั้งทีก็ขอฝันนะครับ จะจริงไม่จริงก็ไม่ใช่เรื่องของผมหรอกครับ ผมก็ได้แต่ทำๆไปแหละ เพื่อนๆที่อ่านมาถึงจุดนี้ล่ะครับพอใจแล้วหรือยังกับชีวิตตอนนี้ ถ้าไม่พอใจผมแนะนำให้ลองทำอะไรเสี่ยงๆอย่างทำตามใจดูนะครับ ไม่สัญญาว่าอนาคตจะดีมั้ยนะ แต่สัญญาว่าปัจจุบันจะดีแน่นอนนะ
ลองดูแล้วกันนะครับ จะเสี่ยงหรือจะเซฟก็เรื่องของคุณ ถ้าคุณพอใจจริงๆแค่นั้นก็พอแล้วครับสำหรับผม
ขอบคุณสำหรับวันนี้และยินดีที่ได้พบกับทุกคนที่มาอ่านนะครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in