สัปดาห์ที่สามของการฝึกงานผ่านไปอย่างรวดเร็ว
และการค้นพบวิธีการสร้างพลังในการทำงาน
ในสัปดาห์นี้ยังไม่มีงานหนักที่ทำไม่ไหว สิ่งที่ยังคงต้องทำอย่างต่อเนื่องคืออ่านหนังสือทุกเล่มที่ได้รับ และเลือก Quote ดี ๆ ออกมา เราเป็นคนอ่านหนังสือค่อนข้างช้าเลยยังไปไม่ถึงไหน แต่ก็ได้ Quote ดี ๆ จากเรื่อง Toxic Parents มาพอสมควร และคิดว่าถ้าพอมีเวลาอาจจะเขียนบทความรีวิวหนังสือเล่มนี้ เพราะรู้สึกชอบอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเนื้อหายังเป็นประโยชน์มาก ๆ ในสังคมที่มีประเด็นความรุนแรงในครอบครัว หรือพ่อแม่ที่เป็นพิษตอนนี้
ต่อมาคืองาน Event ของสำนักพิมพ์ที่ได้ช่วยกันคิดกับเพื่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเสนอในสัปดาห์นี้ พี่ ๆ ให้ปรับแก้ค่อนข้างน้อย และโอเคกับธีมงานที่คิดกันไว้แล้ว แต่ปัญหาเล็ก ๆ คือเรายังไม่เคยได้เจอเด็กมาก่อน ถึงจะเรียนวิชาเล่านิทาน แต่ก็เป็นการเล่าให้เพื่อน ๆ ในห้องฟัง เราก็เคยไปเล่านิทานที่ห้องสมุดดรุณบรรณาลัยแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าไม่นับตอนเล่านิทานให้น้องสาวฟังเป็นบางครั้ง แต่น้องไม่เคยอยู่ฟังจนจบ
พี่นิดนกจึงได้ให้โอกาสพวกเราไปเจอเด็ก ๆ ก่อนวันงาน Event ให้ดูการจัดกิจกรรมจากหนังสือที่ Cream Club เผื่อจะได้แนวทางหรือไอเดียอื่น ๆ มาบ้าง แล้วยังให้เป็นผู้ติดตามครูใบบัวไปที่โรงเรียนจิตตเมตต์ เป็นโรงเรียนอนุบาลในเขตตลิ่งชัน ไม่ไกลจากบ้านของเรามาก ถึงจะเป็นการฝึกงานแบบ WFH แต่เราก็ดีใจที่พี่ ๆ พยายามหาโอกาสให้เราได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง และได้เจอเด็ก ได้เล่น ได้เล่านิทานให้เด็กฟังจริง ๆ
นอกจากการออกไปเจอเด็ก ๆ บ้าง คือการออกไปนอกบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เพราะสัปดาห์นี้งานของที่สำนักพิมพ์ยังไม่มีอะไรมาก เราเลยใช้เวลานี้เขียนบทความวิชาสัมมนาของเอก แต่ปรากฏว่าไม่มีสมาธิมากพอ มีเนื้อหาและข้อมูลอยู่ครบเพราะทำเล่มรายงานมาก่อนแล้ว เขียนโครงร่างของบทความไว้แล้วว่าจะเขียนอะไรบ้าง แต่ไม่สามารถพิมพ์ออกมาได้ เราจึงทดลองยกแล็ปท็อปไปทำงานที่ห้างแถว ๆ บ้านซะเลย
การทำงานแบบ WFH บางคนก็คิดว่าดี บางคนก็คิดว่าไม่เหมาะด้วยปัจจัยหลายอย่าง หลัก ๆ คงเป็นเพราะบ้านไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทำงาน บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย เสียงรบกวน หรือโต๊ะทำงานนั่งไม่สบาย เรามีห้อง มีโต๊ะหนังสือของตัวเองแต่ช่วงนี้อากาศร้อนจนทำงานในห้องไม่ไหว เลยเปลี่ยนที่นั่งทำงานไปเรื่อย ๆ อยากนั่งตรงไหนก็นั่ง ถึงจะอยู่บ้านคนเดียวไม่มีเสียงรบกวน แต่จากการเรียนออนไลน์มาสองปี และฝึกงานแบบ WFH ต่อ ทำให้เบื่อการอยู่บ้าน จนไม่สามารถสร้างสรรค์งานอะไรออกมาได้เลย
การแบกแล็ปท็อปไปทำงานนอกบ้านไม่สูญเปล่า เพราะเราสามารถเขียนบทความได้ครบ 10 หน้าพอดี และคิดว่าชอบภาษาการเขียนของตัวเองในงานนี้ เพราะฉะนั้นการจะทำงานแบบ WFH โต๊ะทำงาน หรือมุมทำงานที่บ้านก็เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ อยู่หนึ่งอย่างที่จะช่วยให้มีสมาธิ และช่วยสร้างพลังในการทำงาน
อนาคตถ้าจะเขียนบทความเพื่อใช้สำหรับลง Facebook Page ของสำนักพิมพ์ ก็คงจะแบกแล็ปท็อป แบกหนังสือไปนั่งเขียนนอกบ้านอีก เผื่อจะมีไอเดียดี ๆ กับภาษาสวย ๆ กว่าอุดอู้อยู่บ้าน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in