เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
From Cern(เจิ้น) to CernYanisa Sunthornyotin
Day63: ยูนิคอร์นในนครรัฐวาติกัน
  • 4สิงหาคม


    ร้อน...ร้อนจัดเลยค่ะแสงแดดแห่งนครรัฐอิสระใจกลางคริสตจักรสถานที่ทำงานของPope แห่งนี้

    ก็ได้แต่คิดในใจว่า...

    เอหรือเราจะเป็นคนบาปกันนะ



    วันนี้ตื่นตั้งแต่ตี5ครึ่งค่ะตื่นเพราะนาฬิกาปลุก? เปล่าตื่นเพราะเสียงแตรของอารยธรรมจีนข้างๆนี่แหละค่ะถถถถ

    ป้าด!

    ป้าด!

    ป้า...

    ป้าดที่สามยังไม่ทันออกมามิ่งก็ตื่นเต็มที่แล้วค่ะ555

    พอตื่นแล้วอาบน้ำแต่งตัวเอาของใส่กระเป๋าเป้Check-out รวดเร็วทันใจครบจบใน30นาที


    ออกเดินทางสู่นครรัฐวาติกัน! ตามรอยดาวินชี่โค้ดแปรบ

    นั่งสายBไปลงOttaviano

    เดินมาตามซอยตรงมาเรื่อยๆเลยค่ะจะเจอประตูที่สามารถเข้าวาติกันได้จากทางด้านข้าง

    ตอนแรกก็นึกว่าเขาเปิดให้เข้า7โมงปรากฏเหมือนวันนี้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจตื่นสาย กว่าจะเปิดก็เกือบ8โมงนู้นแหนะค่ะโถ่เอ๋ยไม่น่าตื่นเช้าเลย


    ไปเข้าโบสถ์St.Bastillaก่อนเป็นอย่างแรกเห็นเขาว่ากันมานักต่อนักว่าคนเยอะเหลือหลายจนยากที่จะต่อคิวเข้าไป ที่จริงมาดูหน้างานแล้วก็ไม่น่าต้องต่อนานนะคะหากมีคิวเพราะว่าโบสถ์ดูรองรับคนได้เยอะมากและใหญ่มากจริงๆค่ะ 

    เข้าไปแล้วก็ต้องร้องว้าวววววยาวๆเพราะศิลปะภายในนั้นคือวิจิตรตระการตาสุดๆชอบรูปปั้นมากค่ะเวลาเขาปั้นลายเสื้อมันดูอ่อนโยนพริ้วไหว ตัวภาพเขียนตามผนังก็ลายเส้นสีสันอ่อนโยน อาจจะมีเฉดที่แตกต่างกันไปในแต่ละส่วนแต่ดูแล้วให้ความรู้สึกแบบว่าเป็นบุญตายิ่งนัก


    เมื่อเชยชมจนพอใจก็เดินออกมาZoom out ดูภาพเต็มๆของศาสนจักร

    ประเทศนี้แม้จะเล็กแต่ก็ยิ่งใหญ่อลังการเหลือเกิน

    ขออนุญาติเติมแคปชั่น “ร้อนไม่ร้อนไม่รู้ ขอคูลไว้ก่อน”


    หลังจากเที่ยววาติกันเสร็จเดินไปทางแม่น้ำจะเห็นCastle of St.Angello หรือMausoleum of Hadrian อันเก่าแก่มีประวัติอันยาวนาน

    แนะนำให้เลี้ยวขวาเดินข้ามสะพานไปก่อนจะถึงเพื่อเก็บรูปสะพานแม่น้ำปราสาทแล้วค่อยเดินข้ามกลับมาฝั่งนี้ตรงสะพานหน้าปราสาทค่ะดูสวยงามยิ่ง

    ตอนแรกไม่ได้กะจะเข้าไปแต่ไหนๆก็มาแล้วและเวลามีเหลือเฟือเพราะเที่ยวเก็บไปเมื่อวานก็เลยเข้าไปดูข้างในค่ะ ตั๋วราคา7.5Euroหากใช้คู่กับRoma pass


    ทางขึ้นปราสาทนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยของกับดักมากมายแบบว่าที่เป็นลูกธนูพุ่งมาจากด้านข้างหรือTrapตรงพื้นที่เปิดปิดได้แบบในการ์ตูน พึ่งเคยเห็นของแท้ก็วันนี้นี่แหละค่ะ 

    น่าจะตายกันไปเยอะอยู่เหมือนกันตรงจุดนี้ถึงขั้นมีกลอนแปะไว้ตรงข้างฝาเลย


    “Animula, vagula, blandula
    Hospes comesque corporis
    Quae nunc abibis in loca
    Pallidula, rigida, nudula,
    Nec, ut soles, dabis iocos.”

    Little soul, you charming little wanderer, my body’s guest and partner,
    Where are you off to now?
    Somewhere without colour, savage and bare;
    Never again to share a joke.”

    By  จักรพรรดิฮาเดรียนแห่งโรมัน


    การเที่ยวปราสาทนี้เค้าจะมีWifiให้เราเอาไปโหลดแอปนำเที่ยวTrackตำแหน่งเราที่อยู่ตามจุดต่างๆเรียกได้ว่าคอนเซปดีมากแต่มาตกม้าตายตอนไม่ได้เก็บCacheในตัวแอพนี่แหละ เปิดใหม่ทีไรเด้งให้โหลดข้อมูลอัพเดตใหม่ตลอดเสียเวลาจนน่ารำคาญ UXก็ยังไม่ค่อยดีบางทีก็คลิ๊กจุดที่ต้องการให้อธิบายได้บางทีก็ไม่ได้

    ใช้ได้ครึ่งทางก็ลบแอพทิ้งค่ะ555 #Mobile developerไม่ถูกใจสิ่งนี้


    เราเดินไล่ปีนขึ้นไปจนถึงบนสุดจะสามารถเห็นวิวกรุงโรมและวาติกันได้แบบพาโนราม่า ก่อนถึงดาดฟ้ามีที่ให้นั่งแวะจิบน้ำดูวิวด้วยนะคะดีงามสุดๆเราก็กินน้ำ3eur กินวิวร้อยล้านไปสิคะ


    พอได้เห็นวิวเมืองก็รู้สึกFulfill เดินลงมาแบบไม่ค่อยได้แวะอะไรนานมากมายไปต่อที่สิ่งที่เรายังค้างอยู่น้ำพุTreviและSpanish stepค่ะหากดูแผนที่จะรู้สึกว่าไกลแต่สามารถเดินได้ค่ะ//หรือเราฟิตเกินไปก็ไม่รู้ใครเดินไม่ไหวก็นั่งรถบัสแต่ต้องทำใจหน่อยว่ารถบัสมาไม่ตรงที่GoogleบอกนะคะแอพTransportationที่นี่ก็ยังไม่เทพเท่าSBBของSwissที่มาตรงเวลาเป๊ะรถใต้ดินอาจจะตรงกว่าเพราะเอาจริงๆคือมันมาบ่อยกว่ารถบัสค่ะรถบัสรอทีนี่หลายนาทีอยู่

    เดินไปก็แวะกินเจลาโต้ไปพลางเดินในโรมนี่ก็ทำให้พุงยุบไปเหมือนกันนะคะต้องหาอะไรมาเติมฮาาา


    ถ้าสังเกตุดูทริปนี้ถ้ามิ่งรู้สึกว่างไม่มีอะไรทำจะไปขึ้นบันไดค่ะไม่รู้ทำไมเห็นบันไดแล้วเป็นอันต้องปีนขึ้นเหมือนว่าต้องไปให้สุดอะไรแบบทำนองนั้น


    บันไดSpanish stepก็ไปขึ้นกับเขาด้วยค่ะและเช่นเคยบนจุดสูงสุดของที่นี่ก็ยังมี...

    “วอเตรอๆๆ”

    มีขายดอกไม้แซมบ้างแต่เอาจริงใครมันจะไปซื้อช่อดอกกุหลาบที่นี่กันคะ555 เที่ยงปุ๊บก็ลงบันไดมาทานสปาเก็ตตี้ที่ร้านAlla Rampaที่เขาว่าอร่อยค่ะ 


    กินเสร็จเวลาบ่ายโมงอ่าว! หมดที่เที่ยวแล้ว


    เอาและทำไงดีนั่งหาGoogleไปเที่ยวไหนต่อดีไฮไลท์เก็บครบหมดแล้ว

    สุดท้ายก็ตัดสินใจไปPiazza del pololo ที่มีแท่งObeliskที่โรมันเอามาจากอียิปต์ตั้งอยู่ 


    จตุรัสนี้ก็สวยงามเช่นกันค่ะแล้วก็มีบันไดด้วยหึๆ

    ไปค่ะปีน



    นี่ก็เห็นวิวเมืองเช่นกันไม่มีแม่น้ำแต่แอบรู้สึกว่าสวยกว่าที่ถ่ายจากSt.Angeloนิดหน่อยเพราะว่าใกล้พวกโดมโบราณมากกว่า

    ที่นี่จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเท่าไหร่เหมือนไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมีแต่ฝรั่งมา 


    “วอเตรอๆ”


    อย่างไรก็ตามเราก็ยังไม่สามารถหนีจากคนขายน้ำได้อยู่ดี คันปากอยากหันไปบอกเขามากเลยว่ามาขายอยู่ตรงตีนบันไดมันจะไปขายออกได้ยังไงกัน ไปขายตรงยอดนู้นนน่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะขายออกมากกว่า


    หลังไปที่นี่ก็เป็นอันจบหมดแล้วทริปนี้ที่โรม

    เติมเต็มความต้องการมากๆค่ะฟินนนสนุกกก

    รู้สึกมีสีสันกว่าการเที่ยวสวิสเพราะมีความท้าทายรวมอยู่ทั้งโจรฉกกระเป๋าทั้งการไม่มีตารางรถบัสรถไฟที่แน่นอนทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่อัดแน่นในเมืองทั้งบันไดที่ต้องปีนแดดอันร้อนแรงแต่ก็มีลมพัดมาให้ชื่นใจกลิ่นอายของอารยธรรมโบราณและวอเตรอๆ


    สามารถเที่ยวได้ภายใน1วันครึ่งแบบสบายๆค่ะ(รึเปล่า?555)


    ความหาเรื่องใส่ตัวก็ยังพาเราไปจนถึงการวิ่งขึ้นรถไฟหน้าตั้งไปแอร์พอร์ต

    ได้แต่หวังว่าเครื่องบินจะไม่ดีเลย์จนทำให้เรากลายเป็นเป็นHomelessในชั่วข้ามคืนนะคะอาเมน







เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in