เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber 2017fdfeefa
Day 30 Trick or Treat - Last Day
  • Day 3o : Trick or Treat


                   “ทอมทางนี้”

     

                   เสียงตะโกนเรียกชื่อของเขาตรงขาเข้าของสนามบินมันไม่ได้ดังไปกว่าชื่อของคนอื่นแต่เขากลับได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจนเพราะคนที่เรียกชื่อเขานั้นคือคนที่เขารอคอยที่อยากจะเจอหน้าที่สุดตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้นก็คือแฟรงค์คนที่มารับเขาที่สนามบินพร้อมกับป้ายชื่ออผ่นใหญ่ที่อยู่ในมือ

     

                   “ไหนว่าจะเอาดอกไม้ช่อใหญ่มารับผม?”

     

                   “กลัวว่าถ้าเอามารับจริงผมก็ต้องเป็นคนถือกลับไปด้วยตัวเองถ้าเป็นแบบนั้นผมไม่เอามาดีกว่า”

     

                   “โธ่ไม่แน่จริงนิน่า”

     

                   “ครับๆผมนะไม่แน่จริง ผมมันคนขี้ขลาดครับ กระเป๋าหนักไหมให้ผมช่วยเข็ญดีไหม?”

     

                   “ไม่เป็นไรไม่หนักเลยว่าแต่พ่อกับย่าละ?”

     

                   “2คนรอที่บ้านครับ”

     

                   “ไปงั้นเรากลับบ้านกัน”

     

                   เขามองทั้งสองข้างทางออกไปที่นอกหน้าต่างรถด้วยความคิดถึงเส้นถนนเดิมๆ ที่แฟรงค์ขับผ่านมันสามารถทำให้เขานึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เป็นฉากๆไม่ว่าจะเป็นร้านนั้นที่เขาเคยหยุดกินข้าวหรือร้านสะดวกซื้อที่เขาเคยสร้างวัรกรรมเอาไว้ความคิดถึความงและโหยหาจนเห็นเป็นภาพความหลังที่เกิดขึ้นมันทำให้ไม่น่าเชื่อว่าเขาไม่ได้อยู่เมืองนี้แค่เพียง10 เดือนเท่านั้น

     

     

                   “ไหนๆมาให้ย่ากอดหน่อยสิมาให้ย่ากอดหน่อย”

     

    พอแฟรงค์เลี้ยวรถเข้ามาในตัวบ้านคนแรกที่เขาเห็นก็คือย่าที่นั่งอยู่บนรถเข็ญรอเขาที่หน้าประตูบ้านดูท่าแล้วย่าคงอยากจะไปรับเขาที่สนามบินแต่พ่อคงจะห้ามเอาไว้อีกตามเคยเมื่อเห้นว่ามีคนรอเขาอยู่เขาไม่ต้องรอให้แฟรงค์ดับเครื่องแค่พอล้อจอดสนิทเขาก็รีบเปิดประตูรถเดินลงมาหาย่าที่ยิ้มกว้างรอเขาอยู่แล้ว

     

                   “สวัสดีครับย่าโอ้โห ย่าใครครับเนี้ยไม่ดูแก่ขึ้นเลยนี่ผมหายไปตั้งนานย่ายังดูสวยเหมือนเดิมเลยครับ”

     

                   “ไม่ต้องมาปากหวานเลยเรานะทิ้งย่าไปตั้งนาน”

     

                   “ต่อไปนี้ผมไม่ไปไหนแล้วครับย่า”

     

                   “เอ้ามัวแต่คุยกันอยู่หน้าบ้านไม่เข้ามาข้างในกันละปม่ก็แทนที่จะให้หลานเข้าบ้านก่อน”

     

                   “ครับๆ”

     

     

                   มื้อเย็นผ่านไปด้วยความอิ่มเอมใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะหรือเสียงเถียงกันของคนที่อยู่ในโต๊ะข้าวมันต่างเป็นเสียงที่เติมเต็มของความคิดถึงของเขาทั้งนั้นการได้ทานข้าวพร้อมหน้ากับคนที่เขารักทั้งหมดอีกครั้งมันช่างเป็นการต้อนรับกลับมาที่เมืองนี้อย่างอบอุ่นและรู้สึกไม่เสียใจเลยที่เขารีบเดินทางกลับทันทีที่หมดสัญญาว่าจ้างที่นั้นลง

     

     

                   “งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อนแล้วกันนะ”หลังจากที่แฟรงค์ช่วยเขาขนของขึ้นมาที่บนห้องเรียบร้อยแฟรงค์ทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างก่อนที่จะเปลี่ยนใจเป็นขอกลับบ้าน

     

                   “คุณจะกลับไปที่บ้านของเราใช่ไหม?”

     

                   “ผมไม่เคยย้ายออกไปไหนเพราะนั้นมันบ้านของเรา...ทอมมันยังเป็นบ้านของเราอยู่ใช่ไหม?” เสียงของไม่มั่นใจของแฟรงค์ทำให้เขาคิดว่าเขาควรที่จะบอกกับแฟรงค์สักทีว่าหลายเดือนที่ผ่านมาเขาคิดยังไงเขาไม่ควรเก็บเอาไว้อีกแล้ว

     

                   “แฟรงค์คุณพอมีเวลาคุยกับผมไหม?”

     

    “มีสิ”

     

    ตุบๆ  แล้วสิ่งที่พ่อเคยพูดก็เป็นจริงเมื่อเขาใช้เสียงถามเพื่อเป็นการพูดคุยบรรยากาศรอบตัวของแฟรงค์ก็ยิ่งเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงเขาจึงตบมือลงบนที่นอนที่ว่างข้างๆเขาแทนการเรียกให้แฟรงค์มานั่งตรงนี้

     

    “เรื่องของเรา...”

     

    แค่คำแรกที่ขึ้นประโยคแฟรงค์ก็เกร็งตัวเองจนเส้นสันกรามที่ใบหน้าขึ้นสันชัดกว่าทุกครั้งจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะโน้มตัวไปกอดปลอบแต่ถ้าเขาทำแบบนั้นในวันข้างหน้าแฟรงค์อาจจะลืมความรู้สึกนี้ซึ่งเขาไม่อยากให้แฟรงค์ลืมมัน

     

    “คุณจะทำให้ผมเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะไม่หลอกผมอีกและเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก?”

     

    “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะสามารถทำให้คุณเชื่อได้ยังไงเพราะต่อให้ผมพูดไปมันก็เป็นเพียงแค่คำพูด”

     

    “แต่ผมก็อยากฟัง”

     

    “เอาเป็นว่า ณวันนี้ผมรู้แล้วว่าชีวิตของผมต้องการอะไรและรักใคร ที่สำคัญผมไม่อยากจะเสียคุณไปทอมผมบอกคุณได้เท่านี้”

     

    “แฟรงค์คุณรู้ไหมว่าเมื่อวันฮาโลวีนที่ผ่านมามีเด็กกลุ่มนึงเดินเจอผมที่ท้องถนนเด็กพวกนั้นคงจะไม่สามารถไปเคาะบ้านหลังไหนได้ในระแวกนั้นเพราะต่างเป็นคอนโตตึกสูงทั้งนั้น เด็กกลุ่มนั้นเลยมาล้อมผมเอาวพร้อมกับให้ผมเลือกว่าจะ Trick or Treat แฟรงค์คุณคิดว่าผมเลือกอะไร?”เขาเดินไปขอบหน้าต่างของห้องแล้วมองออกไปที่ท้องฟ้าที่กำลังมืดสนิทพร้อมกับนึกย้อนกลับไปในคืนนั้น

     

    “ท้องถนนเหรอ? คุณคงเลือก Trick เพราะว่าคุณไม่มีขนมอะไรอยู่ในมือแน่นอนคุณเป็นคนไม่ชอบพกขนมเอาไว้ในกระเป๋า”

     

    “คุณตอบถูกข้อนึงเรื่องที่ผมไม่พกขนมในกระเป๋าแต่คุณตอบผิด ณ วันนั้นผมเลือก Treat ล่ะ คุณรู้ไหมว่าทำไม?”

     

    “ไม่รู้สิ”

     

    “เพราะว่าผมไม่อยากถูกหลอกอีกแล้ว”พอพูดมาถึงตรงนี้เขาก็หันหลับมามองเข้าไปในดวงตาของแฟรงค์

     

    “แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแฟรงค์ผมคิดว่าผมไม่สามารถถูกหลอกได้อีกแล้วผมเลยควักเงินออกจากกระเป๋าสตางค์แล้วบอกให้เด็กไปซื้อขนมที่อยากทานเอง”

     

    “ทอม...ผม ผม...”

     

    “เพราะงั้นถ้าเราจะคบกันต่อผมขอคุณเพียงเรื่องเดียว”

     

    “ครับ?”

     

    “ผมขอได้ไหมต่อไปนี้มีอะไรขอให้พูดกับผมตรงๆอย่าใช้ ‘ทริคอะไรก็ตามมาหลอกผมอย่าให้ผมต้องรู้เรื่องเป็นคนสุดท้าย’ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมขอให้เราแก้มันไปด้วยกันได้ไหม?ช่วยบอกให้ผมรู้ได้ไหม?”

     

    “ได้สิได้ ทำไมจะไม่ได้ละ ผมสัญญาผมสัญญาว่าผมจะไม่มีวันโกหกคุณอีกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะบอกคุณทุกอย่าง”

     

    แฟรงค์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามารวบตัวของเขาเข้าไปในอ้อมกอดอ้อมกอดที่เขาไม่ได้สัมผัสมันมานาน อ้อมกอดที่เมไปด้วยห้วงอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ดีใจโล่งอก และที่สำคัญเขาสัมผัสได้ถึงความรักผ่านจากอ้อมกอดนี้

     

    เขาทั้งสองคนยืนซึมซับอ้อมกอดของความคิดถึงแล้วค่อยแปลเปลี่ยนเป็นการแสดงออกว่าต่างฝ่ายต่างคิดถึงกันมากแค่ไหนแต่ก่อนที่เขาจะเปิดรับและยอมโอนอ่อนต่อการแสดงความรักและความต้องการจากแฟรงค์เขาต้องรีบพูดอีกเรื่องที่สำคัญขึ้นมา

     

    “เดี๋ยวๆแฟรงค์ ยังมีอีกเรื่อง”

     

    ลมหายใจของแฟรงค์ที่ร้อนระอุสะดุดลงเมื่อเขายกมือขึ้นห้ามริมฝีปากของแฟรงค์ที่กำลังจะครอบครองมาที่ริมฝีปากของเขาแฟรงค์หลับตาลงเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

     

    “ครับว่า?”

     

    “อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย ผมจะถามว่าน้องฟลุ๊คเป็นอย่างไรบ้าง?”

     

    “วันก่อนผมไปรับแกมาดูแกก็แข็งแรงดี”สายตาของแฟรงค์ที่เครียดขึงจากการที่ถูกขัดจังหวะดูอ่อนแสงลงเมื่อพูดถึงชื่อนี้

     

    “วันไหนจะเป็นเวรคุณที่จะได้ไปดูแกอีก?”

     

    “วันพุธหน้าครับ”

     

    “ผมไปรับแกด้วยได้ไหม?”

     

    “ทอม”

     

    ฟลุ๊คคือชื่อลูกชายของแฟรงค์กับลิสที่ตอนนี้ลืมตามาดูโลกได้2 เดือนกว่าแล้ว เขาและคราอบครัวของเขารับรู้เกี่ยวกับเด็กคนนี้มาตลอดตั้งแต่วันแรกที่คลอดความจริงในวันที่น้องเกิดพ่อกับย่าเห่อน้องฟลุ๊คเหมือนหลานแท้ๆของตัวเองซะด้วยซ้ำ

     

    “คุณแน่ใจว่าคุณพร้อมที่จะไปเหรอครับ?ผมไม่อยากให้คุณรู้สึกไม่ดี”

     

    “ผมแน่ใจสิ ผมอยากไปขอบคุณเธอที่มอบสิ่งมีชีวิตที่มีค่าให้กับครอบครัวของเรา”

     

    หลังจากวันคลอดลิสขอคุยกับแฟรงค์และครอบครัวของเขาโดยที่เธอขอให้แฟรงค์รับเลี้ยงเด็กคนนี้มาอยู่ในความดูแลอย่างเต็มตัวหลังจากที่เด็กคนนี้หย่านมเธอไม่ได้รังเกียจลูกของตัวเองเพียงแต่เธออยากที่จะเริ่มชีวิตใหม่อีกครั้งและเพราะแบบนี้ลิสกับทางบ้านของเขาจึงได้ตกลงเวรที่จะแลกกันดูแลโดยที่ฟลุ๊คแกจะอยู่กับทางบ้านของเขา5 วันและอยู่ทางลิส 2 วันเพื่อเป็นการทำให้แกชินที่จะอยู่กับทางนี้มากกว่าทางนั้น

     

    “ได้สิถ้าคุณมั่นใจผมก็สามารถพาคุณไปได้”

     

    “ขอบคุณครับ”

     

    จะว่าไปการที่เขาโดน Trick ในครั้งนี้มันก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียวเขาอาจจะมีเรื่องเสียใจแต่มันก็หนึ่งในบทเรียนของชีวิตรักที่เขาเจอและก็เรียนรู้ที่จะข้ามผ่านมันมาได้ด้วยการให้อภัยและโอกาสนอกจากนั้นมันยังนำเรื่องราวมากมายที่เขาไม่เคยได้รู้สึกหรือไม่เคยเชื่อมาก่อนให้เขาได้สัมผัสไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณเดฟหรือความรักที่แฟรงค์มีให้เขา

     

    แต่ถ้าเป็นไปได้ครั้งนี้เขาขอเป็นเพียงครั้งสุกท้ายที่เขาจะต้องโดนTrick จากคนรักหลังจากวันนี้ไปถ้สเป็นไปได้เขาขอโดนแค่ Treat ดีๆ จากคนรักก็พอแล้ว

     

    THE END #novelber2017 บันทึกในความทรงจำ

     

    30/11/2017

     

     

                  

     

                   

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in