เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Double Death (DTOL OMEGAVERSE AU)piyarak_s
Chapter 11: Withdrawal
  • ผมยืนมองผู้กำกับโรเบิร์ต เอลเลียต-วัตต์แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีที่รีเจนท์สพาร์คต่อสื่อมวลชนอยู่ด้านหลัง ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และโชคดีที่ไม่มีคำถามเพิ่มเติมที่ผมหรือสารวัตรที่ต้องรับคดีแทนผมต้องตอบ

    อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันภายในแผนกสืบสวนอาชญากรรมของกองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้วว่า สารวัตรสืบสวนไมเคิล โฮเวิร์ด เฟย์ขอถอนตัวออกจากคดีชายปริศนาเสียชีวิตที่รีเจนท์สพาร์ค เนื่องจากมีความสัมพันธ์พิเศษกับพยานและไม่แน่ว่าอาจกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในอนาคตอย่าง ดร. โทเบียส ฟอล์กเนอร์ ซึ่งเคยรู้จักและเป็นอดีตคู่หมั้นของน้องชายของผู้ตายมาก่อน 


    เมื่อผมขอเข้าพบผู้กำกับการหน่วยสืบสวนอาชญากรรมเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบ การบอกกล่าวนั้นจึงกลายเป็นข้อยืนยันความสัมพันธ์ของ ดร. ฟอล์กเนอร์กับผมให้ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก และจากการพูดคุยกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว ผมก็ได้รับการอนุมัติให้ถอนตัวจากคดีโดยไม่มีคำถามจากผู้บังคับบัญชามากนัก


    คดีฆาตกรรมเอ็ดมันด์ อาร์เชอร์ พี่ชายแท้ ๆ ของเซบาสเตียน อาร์เชอร์ อดีตคู่หมั้นของ ดร. โทเบียส ฟอล์กเนอร์ ซึ่งเป็นคู่เมทของผมในปัจจุบันถูกโอนไปให้เอ็ดวิน ริชาร์ดสันสารวัตรอีกคนหนึ่งในแผนอาชญากรรมพิเศษ ส่วนคดีฆาตกรรมที่มิทร์สแควร์ยังอยู่ในความดูแลของผม แต่อีกไม่นาน ผมอาจต้องโอนคดีนี้ไปรวมกับคดีที่รีเจนท์สพาร์คอีกคดีหนึ่ง ถ้าผมพบความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างเขาและฮันนาห์ วัตกินส์


    การถอนตัวออกจากคดีเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ผมยอมรับว่า ผมโล่งใจ เพราะการถอนตัวออกจากการทำคดีเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมคิดมาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่องเกี่ยวกับพี่น้องอาร์เชอร์และรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขากับ ดร. ฟอล์กเนอร์ ผมอยากทำคดี ผมอยากรู้ความจริง ไม่อยากผลักภาระนี้ให้กับใคร แต่ก็ไม่อยากให้ใครต้องมีปัญหา และไม่อยากให้ได้ชื่อว่า มีส่วนได้ส่วนเสียกับคนในคดี 


    “สารวัตรครับ” วิล มัสเกรฟที่ยืนเงียบอยู่ตลอดเวลาของการให้ข่าวกับสื่อมวลชนเรียก ผมรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่


    “นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว” ผมบอก “นายคงผิดหวังสินะ”


    เขาพยักหน้ารับแต่โดยดี สีหน้าของเขาแสดงชัดถึงความเสียดาย แต่ไม่มีทางเลือก ผมเห็นใจเขาในเรื่องนั้น


    วิลเลียมเป็นตำรวจรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ขยันขันแข็ง กระตือรือร้น ที่สำคัญ เขาเป็นอัลฟ่าที่ไม่ยึดติดกับความเป็นอัลฟ่าของตัวเอง ซึ่งผมนับว่าเป็นข้อดีสำหรับการทำงานที่ต้องสอบปากคำพยานทุกเพศหลักและเพศรอง แต่บางครั้ง ความตั้งใจดีของเขาและความเชื่อมั่นในตัวผมมากเกินไปในบางครั้ง ทำให้เขาพลอยเดือดร้อนกับบางเรื่องที่ผมต้องเจอ ทำนองเดียวกับรองจ่าฝูงในฝูงสุนัขที่พร้อมรับหน้าฝ่ายตรงข้ามและพร้อมเข้าช่วยคนที่เขายอมรับให้เป็นจ่าฝูงโดยไม่คิดถึงตัวเอง


    “เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ ครับ” เขาจำใจต้องยอมรับ และเมื่อเราเดินกลับไปที่สำนักงาน ในช่วงจังหวะที่ไม่มีใครผ่านมา เขาก็ออกปากในเรื่องที่เขาเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ “แต่ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า สารวัตรคบกับ ดร. ฟอล์กเนอร์ เพราะเท่าที่ผมจำได้ สารวัตรกับเขาเหมือนเพิ่งจะรู้จักกันจากคดีที่บัคเคิลสตรีท”


    “เราเริ่มคบกันตั้งแต่ตอนนั้น” ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเรื่องที่คนแทบทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาลรู้กันแล้ว แต่ผมละเรื่องที่เราเป็นคู่แท้ของกันและกันเอาไว้ 


    “สารวัตรไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเผยเรื่องนี้กับใครในช่วงนี้ใช่ไหมครับ”


    ผมเลิกคิ้ว ดึงเขาเข้าไปคุยในห้องพักที่ไม่มีคนใช้งาน “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ” 


    เขานิ่งไปพักหนึ่งเหมือนคิดว่าควรพูดเรื่องที่อยู่ในใจออกมาหรือไม่ แต่ในที่สุดก็พูดออกมา


    “ผมอดคิดไม่ได้ว่า ข่าวเรื่องที่สารวัตรคบกับ ดร. ฟอล์กเนอร์ถูกปล่อยออกมาในช่วงจังหวะที่ดีเกินไป” วิลบอก มองหน้าผมเหมือนประเมินท่าทีและสีหน้าของผมนิดหนึ่งก่อนพูดต่อ “ถ้าผมไม่ได้คิดมากเกินไป ผมคิดว่ามีใครสักคนที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องอาร์เชอร์ที่ไม่อยากให้สารวัตรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้”


    ข้อสังเกตที่ตรงไปตรงมาของเขาสอดคล้องกับความเห็นของเบนเน็ตต์ เพื่อนร่วมอพาร์ตเม้นท์ของผมพอดี


    “นายคิดว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง”


    “แค่คิดเท่านั้นครับ”


    “พูดมาเถอะ” ผมกระตุ้นให้เขาทิ้งความลังเล “นายสงสัย ดร. ฟอล์กเนอร์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ใช่ไหม” 


    ดูเหมือนข้อสังเกตของผมจะเข้าเป้าพอดี 


    “ผมไม่ได้สงสัย ดร. ฟอล์กเนอร์นะครับ” วิลเลียม มัสเกรฟเอ่ยเสียงอ่อย ๆ เมื่อเอ่ยถึงแพทย์นิติเวช แต่จริงจังมากขึ้นเมื่อกล่าวถึงบุคคลที่เขาตั้งข้อสงสัย 


    “ทิโมธี ฟอล์กเนอร์ พี่ชายของ ดร. ฟอล์กเนอร์เป็นกรรมธิการความมั่นคงของรัฐสภา เขาเคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการการความมั่นคงระหว่างประเทศและภายใน ทำงานเกี่ยวข้องกับการข่าวทั้งฝ่ายพลเรือนและทางการทหารในรัฐบาลของพรรคเลเบอร์ โดยเฉพาะในกิจการรักษาสันติภาพที่อาฟกานิสถาน เพื่อนผมที่ทำงานเป็นนักข่าวให้ข้อมูลว่า เขา ‘รับมือ’ และ ‘จัดการ’ กับสื่อเก่งมาก ผมเลยอดคิดไม่ได้ว่า การตายของเอ็ดมันด์หรือเซบาสเตียน อาร์เชอร์ที่รีเจนท์สพาร์คเกี่ยวข้องกับงานความมั่นคงอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นงานที่ฝ่ายความมั่นคงอยากจัดการเองมากกว่าปล่อยให้ทางตำรวจเป็นคนจัดการ”


    “นายสงสัยทิโมธี ฟอล์กเนอร์งั้นเหรอ วิล” 


    “เขาเป็นคนหนึ่งที่น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวที่ทำให้สารวัตรต้องถอนตัว แต่ก็เป็นแค่ข้อสงสัยเท่านั้น ยังหาเหตุผลและแรงจูงใจไม่ได้” เขายอมรับตามตรง “อีกทางหนึ่ง ต้นสังกัดของเอ็ดมันด์ อาร์เชอร์เองก็เกี่ยวข้องกับการข่าวและกิจการความมั่นคงเหมือนกัน แต่ผมยังหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาไม่ได้” 


    ความกัดไม่ปล่อยของวิล มัสเกรฟเริ่มทำให้ผมดีใจปนกลุ้มใจไปพร้อมกัน และอดคิดไม่ได้ว่า การตัดสินใจถอนตัวออกจากคดีที่รีเจนท์สพาร์คน่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว เพราะแม้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของผมจะเป็นตำรวจสืบสวนที่มีพลังงานในการสืบหาความจริงอย่างล้นเหลือ เหมือนหมาล่าเนื้อ ฉายาที่สื่อตั้งให้ผมเมื่อสมัยที่ยังหนุ่มกว่านี้และมันยังติดตัวผมอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่ปัญหาของเขาในเวลานี้คือ เขายังไม่เจนสนามการเมืองเบื้องหลังการทำงานในหน้าที่ เขายังต้องการเวลาสักหน่อยที่จะหาทางหลีกเลี่ยงการปะทะหรือปัญหางี่เง่าบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเวลาที่ทำงานกับฝ่ายความมั่นคงที่มีสถานะพิเศษ


    “ต้นสังกัดของเอ็ดมันด์ อาร์เชอร์ คือ หน่วยสืบราชการลับทางการทหาร หัวหน้าของเขาคือออกัสต์ โกลด์เบิร์ก หน่วยเดียวกันและมีหัวหน้าคนเดียวกับเซบาสเตียน อาร์เชอร์ที่ตายที่อาฟกานิสถาน” ผมตัดสินใจตัดบทและกันวิล มัสเกรฟออกจากวงจรที่ดูเหมือนจะยุ่งยากมากขึ้น “ฉันคุยกับทิม อาร์เชอร์นอกรอบเรื่องของพี่น้องอาร์เชอร์แล้ว สิ่งที่นายสงสัย ก็ไม่ต่างจากที่ฉันเคยสงสัย และเชื่อว่าสารวัตรริชาร์ดสันก็น่าจะมองเห็นในสิ่งที่เรามองเห็นเหมือนกัน แต่ฉันจะบอกเขา เกี่ยวกับข้อสังเกตของนาย ตอนที่เรานัดบรีฟกันเรื่องคดีที่ฉันจะส่งต่อให้ทีมของเขาเป็นคนทำ”


    สีหน้าของวิลดีขี้นนิดหน่อย แสดงว่าเขาหัวไวพอที่จะจับใจความสิ่งที่ผมอยากให้เขาเข้าใจได้ แม้ว่าจะทำหน้าเสียดายอยู่บ้าง แต่เขาก็ยอมรับทางเลือกของผมโดยดุษณี


    “ที่จริง ฉันก็อยากสอบถามอะไรบางอย่างจากพันเอกโกลด์เบิร์กอยู่เหมือนกัน” ผมบอก เป็นการพูดความจริงอย่างตรงไปตรงมาและเอ่ยเป็นนัยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองรู้สึกสบายใจขึ้นว่า ผมไม่คิดจะทิ้งคดีนี้ไปง่าย ๆ เพียงเพราะความเหมาะสมและมารยาทในการทำคดี “แต่ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้ว ก็ช่วยไม่ได้ ถือว่าเรามีคดีน้อยลงคดีหนึ่ง จะได้ทุ่มให้กับคดีอื่น ๆ ในความรับผิดชอบที่ยังค้างอยู่ได้มากขึ้น” 


    ถ้าเป็นร่างสุนัข ตอนนี้ผมเห็นเจ้าหนุ่มตรงหน้าผมกระดิกหางให้ผมได้เรียบร้อยแล้ว


    ความจริง ยังมีใครอีกคนหนึ่งที่ผมยังหมายเอาไว้ในใจ แต่คิดว่ายังไม่ควรพูดถึงก่อนที่จะรู้รายละเอียดมากกว่านี้


    คนคนนั้น คือ แม็กซิมิเลียน หรือแม็กซ์ บาร์เทิลบี


    ผมค่อนข้างแน่ใจว่า เขาคือคนคนเดียวกับเบต้าชายที่พบผมที่รีเจนท์สพาร์คและเป็นคนช่วยผมพา ดร. ฟอล์กเนอร์ที่กำลังย่ำแย่จากอาการฮีทที่เกิดขึ้นก่อนเวลาและไม่มียาระงับอยู่ในมือไปที่รถในวันนั้น 
    แต่เดิม ผมยังสงสัยเกี่ยวกับเพศรองของเขา ทว่าจากการพบกับทิม ฟอล์กเนอร์เมื่อคืนก่อน ผมคิดว่าตัวเองได้คำตอบเกี่ยวกับอะไรบางอย่างเรียบร้อยแล้ว และถ้าพูดถึงความโน้มเอียงแล้วละก็ ผมมีคำตอบในใจให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ต้องการฟังความจากหลายด้านเพื่อป้องกันการตัดสินใจผิดพลาด เพราะผมยังคงเชื่อว่า คดีฆาตกรรมฮันนาห์ วัตกินส์มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ผมเพิ่งถอนตัวออกมาอย่างแน่นอน


    หน่วยสืบราชการลับทางการทหารทั้งฝ่ายของทิโมธี ฟอล์กเนอร์และออกัสต์ โกลเบิร์กต่างพยายามตามหาคนทรยศมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่ออกปฏิบัติการในอาฟกานิสถาน มีฝ่ายหนึ่งต้องการให้ปฏิบัติการนี้ดำรงอยู่ต่อไป ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งอยากให้ถอนกำลังออกมา แต่มีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่ลงมือฆ่าเซบาสเตียนและเอ็ดมันด์ อาร์เชอร์ 


    ตัวแปรสำคัญอยู่ที่แม็กซ์ บาร์เทิลบี้


    ตอนนี้ ปัญหาของผมก็คือ ผมหาวิธีอะไรมาทำให้เขาพูดความจริงและเปิดเผยฐานะของตัวเองว่าเป็นฝ่ายไหน และเมื่อนั้นคำตอบของผมก็จะได้รับการยืนยัน



    To be continued... 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
salmonrism (@salmonrism)
ขอตั้งตัวกับคดีนี้แป๊บนะคะ เราอินจังค่ะ จะตามคุณสารวัตรไม่ทันแล้ววว-0-