The war was over, I was living with my folksสงครามจบลงแล้ว ผมอาศัยอยู่กับพ่อแม่
I yelled upstairs "Hey mom, I'm off to grab some smokes"
ผมตะโกนขึ้นไปชั้นบนว่า "แม่ ผมออกไปสูบบุหรี่นะ"
And my father called, "Why you need to smoke so late?"
พ่อผมเลยถามว่า "ทำไมสูบบุหรี่ดึกจังล่ะลูก?"
Well I'd lied, I had a date
คือ ผมโกหกน่ะ ผมออกไปเดตต่างหาก
Free from my folks' enslavement
ผมออกมาจากบ้านแล้ว เป็นอิสระจากพ่อแม่
Skippin' along the pavement
และเดินไปเรื่อย ๆ ตามฟุตบาท
To see a brunette, who I'd never met
เพื่อไปพบกับผู้หญิงผมสีบรูเน็ตคนหนึ่งที่ผมไม่เคยเจอ
But I never would forget, how she looked in that dress
แต่ผมจะไม่มีวันลืมเลยล่ะ ว่าเธอดูดีแค่ไหนในชุดเดรสตัวนั้น
How she stuck out her hand and said
และผมก็จะไม่มีวันลืมวิธีที่เธอยื่นมือมาจับกับผมแล้วพูดว่า
"My name is Cecily Smith and I hope you like music
"ฉันชื่อเซซิลี่ สมิธนะ หวังว่าคุณจะชอบดนตรีล่ะ
'Cause I've got two tickets for La Traviata"
เพราะฉันมีตั๋วเข้าชมเรื่อง La Traviata สองใบ"
That's when I said, "I hate opera"
เป็นตอนนั้นเองที่ผมพูดออกมาว่า "ผมเกลียดโอเปร่าน่ะ"
She laughed and said, "Well lucky for you
เธอจึงหัวเราะแล้วพูดออกมาว่า "นี่ คุณโชคดีนะ
That you're with Cecily Smith
ที่คุณมากับ เซซิลี่ สมิธ
Who cares what you are listening to
ใครสนกันล่ะว่าคุณฟังอะไร
It's who you're listening with"
มันขึ้นกับว่าคุณฟังกับใครต่างหาก"
So we take our seats, her hands are folded in her lap
เราสองคนก็ต่างนั่งที่ของเรา มือของเธอประสานกันอยู่บนตัก
If not a kiss, then I at least will get a nap
ถ้าไม่ได้จูบเธอ อย่างน้อย ๆ ผมก็ของีบหน่อยแล้วกัน
So I close my eyes as the orchestra begins
ผมหลับตาลงในตอนที่วงออร์เคสตราเริ่มบรรเลง
Then I hear violins
แล้วผมก็ได้ยินเสียงไวโอลิน
And the hair on my neck was rising
ทันใดนั้นผมก็รู้สึกขนลุกชัน
A feeling new and surprising
มันช่างเป็นความรู้สึกแปลกใหม่และประหลาด
But it wasn't the sound that made my heart pound
แต่มันไม่ใช่เพราะเสียงดนตรีพวกนั้นหรอกที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรง
No, it was because I found her hand is in mine
ไม่ใช่เลย แต่มันเป็นเพราะว่ามือของเธอกลับถูกผมกุมไว้อยู่ต่างหาก
And that's where it will stay until they play the final chord
และมือของพวกเราก็ประสานกันอยู่อย่างนั้นจนคอร์ดเพลงสุดท้ายถูกบรรเลง
She says, "Were you bored?"
เธอถามผมว่า "คุณเบื่อไหม?"
And I say, "I guess it wasn't quite so bad
ผมจึงตอบกลับไปว่า "ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่มากนะ
It was the best time that I ever had"
อันที่จริงแล้ว ผมมีช่วงเวลาที่ดีมากเลยล่ะ"
She laughed and said, "Well lucky for you
เธอจึงหัวเราะแล้วพูดว่า "คุณโชคดีนะ
I got seats to Beethoven's Fifth
ที่ฉันมีตั๋วเข้าชมออร์เคสตรา Beethoven's Fifth
Who cares what you are listening to
ใครจะสนกันล่ะว่าคุณฟังอะไร
It's who you're listening with"
มันขึ้นกับว่าคุณฟังกับใครต่างหาก"
A perfect wife
ภรรยาที่สมบูรณ์แบบ
A perfect life
กับชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
The time exploded like a bullet from a gun
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหมือนกับลูกกระสุนที่ถูกยิงออกมาจากปืน
A week, a year, and then a marriage, and a son
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป หนึ่งปีผ่านไป เราแต่งงานกันและมีลูกชายหนึ่งคน
And a rental where I still can hear her laugh
และบ้านเช่าหลังที่ผมยังได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ
When I play the phonograph
ผ่านเครื่องบันทึกเสียงอยู่เลย
So I let the music guide me
ผมจึงปล่อยให้เสียงดนตรีนำพาผมไป
And Cecily sits beside me
และเซซิลี่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผม
A girl of nineteen, with a nervous marine
เด็กสาวอายุสิบเก้าปี กับนาวิกโยธินที่ประหม่า
Feel her head begin to lean, as the melody soars
ผมรู้สึกถึงหัวของเธอที่ซบอยู่ที่ไหล่ผมตอนที่ท่วงทำนองถูกบรรเลง
And though it was real, it doesn't feel like it could be
และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ผมก็ยังคิดอยู่เลยว่าผมฝันไป
That night when you said to me
คืนนั้นที่คุณบอกกับผมว่า
That I've got two tickets for La Traviata
คุณมีตั๋วเข้าชมโอเปร่าเรื่อง La Traviata สองใบ
It's sad but true, how much I miss you
มันช่างเป็นความจริงที่น่าเศร้าเหลือเกินว่าผมคิดถึงคุณมากขนาดไหน
I miss you Cecily Smith
ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน เซซิลี่ สมิธ
Life is not the things that we do
ชีวิตไม่ใช่สิ่งต่าง ๆ ที่เราทำหรอก
It's who we're doing them with
แต่มันคือเราได้ทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นกับใครต่างหาก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in