Bea Kristi หรือที่รู้จักกันในชื่อ Beabadoobee ศิลปินน้องใหม่วัย 20 ปี จากค่ายเพลงอินดี้อย่าง Dirty Hits ค่ายเดียวกับ The 1975, No Rome, The Japanese House และอื่น ๆ Bea เป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์-อังกฤษ เกิดที่เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่เติบโตที่อังกฤษเพราะย้ายไปอยู่กับครอบครัวตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ Dirty Hit ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นค่ายที่มีเป้าหมายเดียวกันคือให้อิสระในการทำเพลงกับศิลปิน เธอมีผลงานทั้งหมด 4 อีพีร่วมด้วย Lice, Patched Up, Loveworm, และ Space Cadet
เพลง Everest เป็นเพลงแรกจากอีพีที่สาม Patched Up เนื้อหาในเพลงพูดถึงความกลัวสิ่งที่ยังไม่มาถึงในอนาคตและทำให้เราไม่ก้าวไปไหนต่อไม่ได้เพราะความคิดแบบนั้น เธอเขียนเพลงนี้เพื่อที่จะสร้างแรงผลักดันให้กับทั้งตัวเองและคนฟังให้ก้าวไปข้างหน้าและบอกว่าเธอก็กลัวเหมือนกัน แต่เราจะไม่เป็นไร
LYRICS &TRANSLATION
You’re alright, you’re still breathing
Even though you feel dead sometimes
You’ll be fine, you’re still eating
Even though it doesn’t last sometimes
เธอไม่เป็นไร เธอยังหายใจอยู่
แม้ว่าเธอจะรู้สึกเหมือนตายบางครั้ง
แต่เธอจะไม่เป็นไร เธอยังกินได้
แม้ว่ามันจะไม่สม่ำเสมอ
"You’ll be fine, you’re still eating even though it doesn’t last sometimes" สำหรับบางคนที่อาจจะเผชิญหน้ากับปัญหาเรื่องสุขภาพจิตที่อาจจะส่งผลกับการกิน เช่น ลืมกินหรือไม่อยากอาหาร เธอใช้ท่อนนี้เพื่อบอกว่าต่อให้เราจะลืมหรือไม่ได้กินอาหารหรือดูแลตัวเองได้ไม่มากพอ แต่เรายังไม่เป็นไรและเราจะไม่เป็นไร อาจจะเป็นอาการระหว่างที่พยายามและฟื้นฟูตัวเองจากความรู้สึกนั้น ๆ
’Cause even if your eyes are black
Your bones are always gold
’Cause it's climbed up every mountain
That no story’s ever told
’Cause even if your bags are packed
You’ll never leave your home
’Cause you’re scared of all the monsters
That are waiting to unfold
เพราะแม้ว่าเธอจะมองเห็นเพียงสีดำ
ข้างในเธอยังเป็นสีทอง
เพราะมันเคยถูกใช้ปีนภูเขาทุกลูก
นั่นเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้บอกใคร
เพราะแม้ว่าเธอจะแพ็คกระเป๋า
เธอก็ไม่เคยได้ออกจากบ้านไป
เพราะเธอกลัวเหล่าสัตว์ร้าย
ที่รอคอยที่จะเปิดเผยตัว
"’Cause even if your eyes are black, our bones are always gold" พูดถึงสภาวะที่เรารู้สึกว่าเรากำลังหลงทาง eyes are black ราวกลับว่าตาบอดจนมองไม่เห็น ไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน และสีดำที่หมายถึงความกลัวและความไร้จุดหมาย ตรงข้ามกับสีทองที่ Bea พูดถึงว่าถึงแม้ว่าจะตาบอดแต่ข้างในเรายังเป็นสีทองที่หมายถึง ความรัก และ ความกล้าหาญที่ยังเหลืออยู่ในตัว
"’Cause it's climbed up every mountain that no story’s ever told" เทียบการปีเขากับการเผชิญหน้าของแต่ละบุคคล ว่าไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเราเองว่าเราผ่านอะไรมาบ้างก็เป็นแค่เรื่องที่ไม่เคยถูกเล่าออกไปและไม่มีใครได้รู้ เราต่างก็เป็นแบบนั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in