เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
a mixtape for a friendyour basic trash
แปลเพลง TWENTY ONE PILOTS - Jumpsuit

  • Title: Jumpsuit 
    Artist: Twenty One Pilots 
    Album: Trench (2018)


    สิ้นสุดการรอคอยสำหรับชาว clique และสาวกสองหนุ่ม twenty one pilots ทุกคน กับการกลับมาหลังจากทิ้งช่วงไปเกือบสามปี พร้อม 2 ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม Trench อัลบั้มที่ 5 ของวงที่จะปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ไม่วายปล่อยเพลงเสร็จ พี่เขาก็ยังประกาศทัวร์ทั้งทางฝั่งอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าพี่เขาจะแวะมาไทยอีกครั้งกันเมื่อไหร่ 

    การกลับมาคราวนี้ก็ยังมีอะไรมาสร้างความประทับใจได้เหมือนเคย ทั้งแนวเพลงที่แหวกออกไปหน่อย แต่ยังคงกลิ่นความเป็น tøp อยู่ (เอ๊ หรือเราจะคิดไปเอง) และเรื่องราวเบื้องหลังอัลบั้มนี้ที่น่าสนใจมาก ๆ หลังจากที่ได้ศึกษามาบ้าง เห็นได้ชัดเลยว่าที่ผ่านมาสองหนุ่มนั้นเตรียมการมาโดยตลอดเป็นอย่างดี เริ่มต้นจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางวงได้ปล่อยทั้งจดหมาย ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และโค้ดลับต่าง ๆ ลงในเว็บไซต์ที่ชื่อ dmaorg.info ที่ทำให้แฟน ๆ ต่างตีความหมายไปต่าง ๆ นานา เขียนทฤษฏีแสดงความคิดเห็นมากมายต่างกันไป และล่าสุดไม่กี่วันก่อนที่วงจะปล่อยเพลงออกมายังมีอีเมลล์จากวงเข้ามาให้แฟน ๆ ที่ลงทะเบียนไว้ ในหัวข้อ ARE YOU STILL SLEEPING?  พร้อมภาพ gif เคลื่อนไหวเป็นรูปดวงตาสีเหลือง เล่นเอาหลายคนงงไปตาม ๆ กัน หลังจากนั้นไม่นานทางแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของวงก็เริ่มที่จะกลับมาแอคทีฟและทวีตวิดีโอรูปดวงตาสีเหลืองที่ค่อย ๆ เปิดกว้างให้เห็นภาพข้างในจนกระทั่งทั้งสองเพลงถูกปล่อยออกมา พร้อมกับกำหนดการปล่อยอัลบั้ม และทัวร์คอนเสิร์ต คำตอบก็คือสองหนุ่มแค่แอบเกริ่น ๆ ว่าพวกเขา twenty one pilots กลับมาแล้วนั่นเอง


    ล่าสุดหนุ่ม Josh Dun มือกลองของวงได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง BBC Radio 1 ถึงเบื้องหลังอัลบั้ม Trench โดยบอกว่าอัลบั้มนี้จะเป็นเรื่องราวต่อจาก Blurryface อัลบั้มล่าสุดของพวกเขา โดยครั้งนี้เหมือนเป็นการขยายออกมาให้เห็นภาพรวมของเรื่องราวให้ชัดมากกว่าเดิม เขายังบอกอีกด้วยว่าตื่นเต้นมากที่จะได้ให้ทุกคนได้ฟังและสัมผัสถึงความแปลกใหม่ทางดนตรีที่พวกเขาหายหน้าหายตาไปทำมาเพื่อทุกคนอีกด้วย

    เพลง Jumpsuit เป็น 1 ใน 2 ที่ปล่อยออกมาพร้อมกับ Nico and The Niners โดยทั้งสองเพลงก็มีเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับปริศนาต่าง ๆ ที่ถูกทิ้งไว้ในเว็บไซต์ ซึ่งคาดว่าทั้งหมดนี้อาจจะเป็นเนื้อหาในอัลบั้มที่จะดำเนินเล่าเรื่องราวจากสิ่งเหล่านี้ โดยเนื้อหาจะวนเวียนอยู่กับตัวละครที่ชื่อ Clancy ซึ่งเขาต้องพยายามหาหนทางออกจากเมืองที่รายล้อมด้วยกำแพงสูงที่มีชื่อเรียกว่า Dema (ตัวละครตัวนี้อาจจะหมายถึงหนุ่ม Tyler Joseph เองด้วยล่ะ) โดยสถานที่แห่งนี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มผู้นำที่มีชื่อเรียกว่า Bishop โดยมีทั้หมด 9 คน ที่หนึ่งในนั้นก็คือชายชุดแดงที่ขี่ม้าขาวมาจับตัวหนุ่มไทเลอร์ไม่ให้หนีออกจากดีม่าได้ตามในมิวสิกวิดีโอ โดยทั้ง 9 คนนี้จะคอยดูแลให้คนในสถานที่แห่งนี้อยู่รวมกัน คอยกันไม่ให้มีใครหนีไปได้ ตัวละคร Clancy ได้ร่วมมือกับกลุ่มหนึ่งในดีม่า ที่พวกเขาเรียกตัวเองว่า Banditos คนกลุ่มนี้จะทำงานร่วมกันเพื่อหาหนทางปลดปล่อยคนให้เป็นอิสระจากเมืองนี้ พวกเขาจะใช้สีเหลืองและสโลแกน "East is up" ในการชี้นำทางออกให้คนอื่น และถึงแม้จะเป็นเรื่องยากที่เขาจะข้ามผ่านกำแพงสูงนั้นได้ และไม่ใช่ทุกคนจะเอาชีวิตรอดออกไปได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของกลุ้ม Banditos ก็ช่วยคนออกมาได้มากมาย แต่ Clancy จะออกมาได้ไหมก็ต้องรอติดตามต่อไป ในเชิงเปรียบเทียบ ไทเลอร์อาจจะกำลังสื่อว่าดีม่าเป็นเหมือนอาการป่วยทางจิต (mental illness) และจากเว็บ dmaorg ที่มีหลายประโยคที่ดูจะย้ำมากว่าดีม่าเปรียบเสมือนหอคอยแห่งความเงียบ ที่เป็นสถานที่ที่เอาไว้ทิ้งร่างคนที่เสียชีวิตแล้วปล่อยให้แร้งกินจนไม่เหลือเนื้อหนัง เปรียบเหมือนกับความรุนแรงของอาการทางจิตที่ต้องการการหลีกหนีอย่างเร่งด่วนก่อนจะไม่ทันการ (พูดตรง ๆ ก็คือการฆ่าตัวตายนั่นเอง) ตามที่บอกไปข้างบนว่าไม่ใช่ทุกคนจะรอดจากเมืองนี้ ดีม่าจึงเป็นเหมือนสิ่งที่ท้าท้ายที่คนในนั้นจะต้องต่อสู้ และ bishops ทั้ง 9 ก็หมายถึงอาการต่าง ๆ ของความเครียดและความกดดันที่กักขังตัวของบุคคลเหล่านั้นไม่ให้มีอิสระ โดยสีเหลืองที่ banditos ใช้ในการปลดปล่อยคนอื่น ๆ เป็นเหมือนสีแห่งแสงอาทิตย์ ที่เตือนให้พวกเขารู้ว่าแสงสว่างจะหวนกลับมาอีกครั้ง (Jumpsuit ที่เป็นสีเหลือง ยังสื่ออีกว่าเป็นสิ่งที่ปกป้องเขาจาก bishops ด้วยนะ) คู่ไปกับคำพูดที่ว่า "East is up"  ที่หมายความว่า พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก ไว้เตือนว่ายังไงแสงสว่างก็จะกลับมาเหมือนกับที่พวกเขาใช้สีเหลือง

    นี่ก็เป็นเรื่องราวที่คลุมทั้ง  2 เพลงที่ถูกปล่อยมา ซึ่งเนื้อหาอาจจะมีเชื่อมต่อไปกับเพลงอื่นในอัลบั้ม Trench ด้วย ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป พยายามเขียนคร่าว ๆ ให้เข้าใจง่าย ๆ หวังว่าถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเข้าใจที่เราจะสื่อไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย สามารถแสดงความคิดเห็นและติชมได้ในคอมเมนต์ทุกเมื่อ หรือมาคุยกันได้ที่ twitter :-) 


    ขอขอบคุณ



    LYRICS & TRANSLATION



    Cover me

    ปกป้องผมที




    I can't believe how much I hate
    Pressures of a new place roll my way
    Jumpsuit, jumpsuit cover me
    Jumpsuit, jumpsuit cover me
    I crumble underneath the weight
    Pressures of a new place roll my way
    Jumpsuit, jumpsuit cover me
    Jumpsuit, jumpsuit cover me


    ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะเกลียดได้ขนาดนี้
    ความกดดันในสถานที่แห่งใหม่ที่ม้วนทางเดินผมไว้
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ผมกำลังสลายอยู่ภายใต้ภาระอันนี้
    ความกดดันในสถานที่แห่งใหม่ที่ม้วนทางเดินผมไว้
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที

    • jumpsuit คือ ชุดที่เป็นเสื้อกับกางเกงเย็บติดกัน หรือ ชุดหมี




    Spirits in my room, friend or foe?
    Felt it in my youth, feel it when I'm old
    Jumpsuit, jumpsuit (cover me)
    Dusting off my (jumpsuit)
    (cover me)


    เหล่าวิญญาณในห้องของผม คุณเป็นเพื่อนหรือศัตรูของผมกันนะ
    เคยรู้สึกแบบนี้เมื่อยังเด็ก ตอนนี้ผมรู้สึกมันอีกครั้ง
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ปัดฝุ่นออกจากชุดของผม
    (ปกป้องผมที)




    I can't believe how much I hate
    Pressures of a new place roll my way
    Jumpsuit, jumpsuit cover me
    Jumpsuit, jumpsuit cover me


    ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะเกลียดได้ขนาดนี้
    ความกดดันในสถานที่แห่งใหม่ที่ม้วนทางเดินผมไว้
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที




    I'll be right there
    But you'll have to grab my throat and lift me in the air
    If you need anyone (If you need anyone)
    I'll stop my plans
    But you'll have to tie me down and then break both my hands
    If you need anyone
    I'll be right there
    But you'll have to grab my throat and lift me in the air
    (If you need anyone)
    If you need anyone (If you need anyone)
    If you need anyone (If you need anyone)
    If you need anyone


    ผมจะไปกับคุณ
    แต่คุณคงต้องบีบคอผมแล้วยกผมขึ้นไปในอากาศ
    หากคุณต้องการใครสักคน (หากคุณต้องการใครก็ตาม)
    ผมจะหยุดแผนของผมทั้งหมด
    แต่คุณคงต้องจับผมมัดแล้วหักมือทั้งสองข้างของผม
    หากคุณต้องการใครสักคน
    ผมจะเป็นคนนั้นเอง
    แต่คุณคงต้องบีบคอผมแล้วยกมันขึ้นไปในอากาศ
    หากคุณต้องการใครสักคน (หากคุณต้องการใครคนหนึ่ง)
    หากคุณต้องการใครสักคน (หากคุณต้องการใครคนหนึ่ง)
    หากคุณต้องการใครสักคน




    I can't believe how much I hate
    Pressures of a new place roll my way
    Jumpsuit, jumpsuit cover me
    Oh, jumpsuit, jumpsuit cover me
    Jumpsuit, jumpsuit cover me
    Jumpsuit, jumpsuit cover me


    ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะเกลียดได้ขนาดนี้
    ความกดดันในสถานที่แห่งใหม่ที่ม้วนทางเดินผมไว้
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    โอ้ ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที
    ชุดคลุมตัวนี้ ปกป้องผมที

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Benjapron Asakit (@fb1209853589270)
อธิบายไว้ดีมากค่ะเหมือนทำให้เข้าใจมากกว่าเดิมและรู้จริงๆค่ะแบบรู้อย่างลึกซึ้งแบบเหมือนเป็นตัวแทนสื่อได้จริงๆค่ะแบบรู้จริงๆเหมือนคนแปลนี้ได้เข้าไปอยู่ในความคิดของไทเลอร์เลยค่ะที่ไทเลอร์ได้พยายามที่จะสื่อให้ทุกคนได้รู้ได้เข้าใจหวังว่าถ้าtøpมาไทยหวังว่าจะได้เจอกันที่คอนเสิร์ตนะคะ?
your basic trash (@chooyo)
@fb1209853589270 โหย ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ ดีใจที่อ่านแล้วรู้สึกอินไปพร้อม ๆ กับเรานะ ไว้เจอกันแน่นอนเลยค่ะ ดีใจมากเลยนะเนี่ย55555
patstylez (@patchytah)
ฮืออ ชอบมากเลยค่ะ ชอบที่เรียบเรียงแปลทฤษฎีด้วยย <33
your basic trash (@chooyo)
@patchytah ขอบคุณมากๆเลยนะคะ T___T