เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ครั้งแรก...ที่เกาหลี : Seoul 1st TimeAlice is Alice
Ep.19 ลาก่อนเกาหลี, จนกว่าจะพบกันใหม่
  • ตอนสุดท้ายแล้วนะคะสำหรับ"ทริปครั้งแรก...ที่เกาหลี"ของAlice, Butter และมิสPP 3สาววัยรุ่นตอนปลายจากไทยแลนด์แดนสวัสดี ตอนนี้มีความระทึกไม่สิ้นไม่สุดจริงๆ

    หลังจากพวกเราเดินทางมาถึงสนามบินอินชอนก็หามุมสงบๆมาจัดกระเป๋ากันใหม่เพราะมีข้องที่ซื้อเพิ่มกันอีกในช่วงกลางวันที่ผ่านมา จากที่ยืมที่ชั่งมือถือของทางที่พักลองชั่งกันดูก่อนมาสนามบินก็พบว่าน้ำหนักกระเป๋าของพวกเราหมิ่นเหม่ที่จะเกินมากๆ คือซื้อกันมาคนละ20กิโลกรัม(แถมถือขึ้นเครื่องได้อีก7กิโลกรัม) อยู่ในระดับลุ้นมากๆจริงๆ บางคนน้ำหนักไม่เกินแต่เป๋าเต็มยัดไม่ได้แล้ว บางคนเหลือพื้นที่แต่น้ำหนักทะลุไปแล้ว ด้วยความไม่ชอบเสี่ยงในต่างแดนเลยตัดสินใจกันว่า"ซื้อน้ำหนักเพิ่มซัก2คนแล้วกัน"

    ตอนนั้นแหละที่ฉันรู้ตัวว่า"บัตรเดบิตของตัวเองได้หายไปเสียแล้ว" ซีดครับ ช็อกไปเลย สติไปแล้ว หมดแล้วซึ่งการประคองสติ มันหายไปตอนไหน,หายไปได้ไงวะ,นี่รอบคอบมากแล้วนะ,ถุงเท้าแม่งก็หายซึ่งๆหน้า,กุญแจกระเป๋าก็หาย,ทำไมซวยขนาดนี้,ทำไมพลาด,ทำไมเลินเล่อ,โอ๊ยยยยย......... นี่คือสิ่งที่คิดวนอยู่ในหัว,เจ็บปวดวนอยู่ในใจและรำพึงออกมาเรื่อยๆ

    อ่ะไายไปแล้วจะจ่ายยังไงวะ?! บัตรเครดิตButterจ่ายไม่ได้เพราะต้องใช้รหัสOTPแล้วไม่ได้เปิดโรมมิ่งมา คือตอนนั้นปัญหาเรื่องจ่ายเงินรอบด้านมาก เลยโทรไลน์ไปหา"BANANAจัง"(ผู้ที่จริงๆต้องอยู่ในทริปนี้ด้วย)ที่อยู่เมืองเจแปนในขณะนั้น นางก็พยายามช่วยจ่ายแต่บัตรก็ติดปัญหาอีก สุดท้ายฉันโทรไลน์หา"น้องแมวน้ำอุ๋งๆ"ซึ่งเป็นแฟนของน้องชายฉันเอง และแล้วหลังจากผ่านความยากลำบากและเสียวไส้ในการจ่ายเงิน...พวกเราสามคนก็ซื้อน้ำหนักกระเป๋าสำเร็จ 

    ***ขอขอบคุณBANANAจังและโดยเฉพาะน้องแมวน้ำอุ๋งๆอย่างมากด้วย***

    เสร็จเรื่องน้ำหนักกระเป๋าก็ดึกแล้ว สนามบินเงียบวังเวงพอสมควร พวกเราลากกระเป๋าเดินมาเรื่อยๆจนถึงเคาเตอร์ที่คิดว่าใกล้จุดเช็คอินในวันรุ่งขึ้นและทำแท็กรีฟันด์(สะดวกที่สุดเท่าที่เคยเจอมา)

    ระหว่างที่เดินมาฉันขอโทษเพื่อนที่ทำให้ทริปนี้มันไม่ราบรื่นถึงขั้นผิดแผน ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย อึดอัด,กดดัน,ผิดหวัง,เสียใจ,รู้สึกผิดกับเพื่อนและรู้สึกโมโหตัวเองมากๆ ดราม่าสุดแล้วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะปกติรอบคอบมากๆนี่ก็ว่ารอบคอบมากแล้วแต่หลุดเกินจะรับได้ ขอโทษอีกทีนะเพื่อนๆ
    T_T
    ฮือออออออออ...

    พวกเราลากกระเป๋าไปจับจองที่นอนซึ่งก็คือที่นั่งทั้งแถวนั่นแหละ แอร์ไม่หนาวเพราะสนามบินน่าจะปิดบางส่วน สัญญาณเน็ตย่ำแย่(ดีแค่ตอนแรกๆ)ไม่รู้ทำไม แต่มิสPPนางสามารถนอนดูซีรี่ย์เกาหลีจบเรื่องได้เลยนะคะ สตรองมากไม่หลับไม่นอน

    ตอนเช้าแกงค์ลุงป้าน้าอาก็มาโหวกเหวกบนหัวนอนพวกเราเลยตัดสินใจตื่นและลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน,เปลี่ยนชุด,แต่งหน้าและหาที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋า(ซึ่งจริงๆก็ไม่ต้องกังวลแล้วแหละนะ) พอมีเวลาเหลือนิดหน่อยก่อนเคาร์เตอร์จะเปิดก็เลยแยกย้ายไปหาของกินให้อยู่ท้องก่อนกลับไทย

    เช็คอินและโหลดกระเป๋าเป็นคิวที่สองเลยคราวนี้ ผ่านพิธีการขาออกแล้วก็ไปรับเงินที่ทำแท็กรีฟันด์ไว้เมื่อคืนจากตู้คีออส สะดวกมากจริงๆ รู้สึกตื่นตาตื่นใจ
    ทางด้านงานช้อปปิ้งก็ไม่ได้จะละเลย แต่ข้อเสียของสนามบินอินชอนที่เจอคือทุกอย่างแปะป้ายเป็นหน่วยเงินUSดอลฯ พอถามว่ากี่วอนเค้าก็กดเครื่องคิดเลขแปปลงกลับมาเป็นวอนให้ซึ่งมันจะแพงกว่าปกติขึ้นไปอีก(ของในสนามบินแพงมากกกก) สมควรแก่การช้อปปิ้งให้ชุ่มปอดก่อนเข้ามาสนามบินนะคะ
    ถ้าใครจะซื้อที่ดิวตี้ฟรีในตัวเมืองนี่สะดวกสุดๆ ซื้อที่นั่นและมารับของในสนามบินได้ค่ะ คนนิยมทำกันมากๆ แต่พวกเราไม่ได้ไปดิวตี้ฟรีในเมืองเลย ไว้แก้มือครั้งหน้า(ถ้ามี)
     
    หลังจากเสียเงินรอบสุดท้ายพวกเราก็เดินมานั่งรอที่หน้าGate สามารถมองเครื่องบินเทคออฟได้ด้วย มีตู้กดน้ำให้และห้องน้ำก็ดีงามค่ะ
     
    ขากลับสภาพร่างกายดีกว่าขามาแต่ก็หลับระดับสลบเช่นเคย ได้ตื่นมาเข้าห้องน้ำและดื่มชเวปที่ได้ฟรีเพราะบัตรเครดิตนิดหน่อย คุณสจ๊วตซึ่งเป็นหัวหน้าลูกเรือไฟล์ทนั้นน่ารักมากค่ะ(แต่สจ๊วตหนุ่มญี่ปุ่นอีกคนนี่งานดีมาก สเปคสุดๆ นี่ถึงขั้นชะเง้อมองจนButterเอามาฟ้องเพื่อนคนอื่นๆเลย) ส่วนมิสPPนางปิดสวิซตัวเองไปตั้งแต่ก้นแตะเบาะแล้วรัดเข็มขัดแล้วค่ะ 


    **บทสรุปของทริปนี้**
    1.ค่าใช้จ่าย
    +ที่พัก(จองกับแอร์เอเชียโกนี่แหละ)อีก 7657.82บาท(ต่อ3คน ใน3คืน)

    มีความแตกต่างกันนิดหน่อย เพราะมิสPPเหลือเงินกับมาหมื่นกว่าวอน(ไม่ค่อยซื้อของ), Butterบานปลายด้วยการจ่ายด้วยบัตรเครดิต รายซื้อของในดิวตี้ฟรีเข้าไปด้วย, อลิซเหลือเงินสดกลับมา 1,000วอน แต่ต้องจ่ายบัตรเครดิตให้Butterราวๆ1,200บาท
    และเงิน500,000วอนนี้พวกเราสามคนหักเป็นเงินกองกลางคนละ 240,000วอน
    ซึ่งเหลือ 2,500วอน จะเก็บไว้เป็นก้นถุงกงอกลางของทริปหน้า
    ราคานี
     
    2.ความรู้สึกกับประเทศเกาหลีใต้
    ชอบค่อนข้างมาก แม้ไม่ได้อินสุดๆแต่รู้สึกว่ามีความผ่อนคลายและเก๋ในเวลาเดียวกัน ชอบข้าวของเครื่องใช้โดยเพราะเครื่องเรียนทั้งหลาย หนุ่มสาวที่นี่แต่งตัวดี แทบทุกคนจะมีแฟน การแสดงออกเปิดเผย สาวๆทุกคนแต่งหน้าทำผม แม้บางคนหุ่นไม่ดีหน้าตาไม่ได้แต่ก็แต่งตัวดีและแต่งหน้าทำผมให้ดูดี

    3.อาหารการกิน
    เครื่องดื่มพวกกาแฟ,โกโก้จะไปทางจืด ไม่เข้มข้น หลายๆอย่างค่อนไปทางหวานด้วยซ้ำ แต่พวกน้ำโซดา,ผลไม้นี่ยอมใจ ส่วนใหญ่อร่อยไม่ผิดหวัง ขนมติดหวาน เอะอะก็ต๊อกๆๆๆ ชีสๆๆๆ แต่แกงกิมจิ7นาทีนี่ต้องกินนะอร่อยจริงๆ อ่อ...ตอลดทริปนี่พวกเรามีปัญหาเรื่องขับถ่ายนะคะ โปรดเตรียมยาถ่ายและยาขับลมมาด้วย แปลกที่อาหารก็เป็นพวกผักเยอะนะ สงสัยดองผักด้วยแก๊สมากไป ทรมานกันสุดๆ

    4.Shopping
    คสอ.หลายตัวค่อนข้างดี ถูกใจอย่างยิ่ง แต่ฉันทำการบ้านมาก่อนว่าซื้ออะไรดีเลยค่อนข้างถูกใจทุกตัว ยี่ห้อหลายๆยี่ห้อที่ไม่มีสาขาที่ไทยและคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จักมันดีมากนะคะ ราคาถูกมากๆและติดทนเกินราคา นี่ซื้อเครื่องอบเล็บเจลมาพร้อมสีเจล2-3สียังอยากได้เพิ่มเลย เครื่องเขียนก็น่ารักใครๆก็ชม อยากไปอีกเพราะจะไปซื้อเครื่องเขียนนี่แหละ ชอบจริงชอบจัง

    เป็นประเทศที่น่าไปอย่างน้อยซักครั้งในชีวิตนะคะ เค้ามีเสน่ห์ในตัวของเค้าเอง ถึงใครหลายๆคนจะบอกเกาหลีไม่เห็นมีอะไรเลย หรือเกาหลีมีแต่พวกติ่ง หรือเกาหลีมีแต่ศัลยกรรม ใดๆก็ตามเถอะแต่ฉันคิดว่ามันมีอะไรนอกเหนือจากนี้อีกเยอะเลย นี่ขนาดวนๆอยู่แค่ไม่กี่ที่ในโซลนะคะ คิดว่าเป็นประเทศที่ผู้หญิงก็ชอบผู้ชายก็สนุกได้ด้วย ลองไปดูเถอะค่ะ^^ ยิ่งไปแบบแบคแพคจะยิ่งเข้าถึงความสนุกเข้าไปอีก

    ขอจบทริป"ครั้งแรก...ที่เกาหลี : SEOUL 1ST TIME"ไปแต่เพียงเท่านั้น
    ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ
    นี่ไม่ใช่ทริปสุดท้ายสำหรับเกาหลี เพราะมีครั้งแรกแล้วก็ย่อมมีครั้งต่อๆไป
    หวังว่าจะติดตามงานเขียนอื่นๆของอลิซอีกนะคะ 
     
    สถานีต่อไป...."(นั่ง)รถไฟ(ฟรี)...จะไปเชียงใหม่"



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in