(สองเดือนก่อนหน้า)
ไม่กี่วันก่อนเดินทาง เสียงเคาะประตูเรียกกลางดึกปลุกเขาให้หลุดจากภวังค์ ตอนนั้นเขากำลังกระดกเบียร์พอชอึกสุดท้ายจากกระป๋องพร้อมกับเขียนเนื้อเพลงรักรันทดลงสมุด
“แดนนี่”
เพลงของเขายังไม่เสร็จ พระอาทิตย์กำลังจะแตะขอบฟ้าในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แดเนียลดันแว่นสายตาขึ้น วางปากกาในมือลง นึกฉงนว่าคนที่อยู่หลังบานประตูมีอะไรสำคัญนักในเวลานี้
ดูเหมือนเธอจะเพิ่งกลับมาถึงบ้าน เขาเดาจากชายเสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ยออกจากกางเกง “มีอะไร” ชายหนุ่มถาม เด็กสาวยืนพิงไหล่กับกำแพงทางเดิน เธอหลับตาในทีแรกแต่พอได้ยินเสียงเขาก็เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาของเธอวาววับสะท้อนกับแสงไฟในห้องมากกว่าปกติ ราวกับมีน้ำวิ่งวนอยู่ในนั้นตลอดเวลา “เธอดื่มมาเหรอ”
เธอไม่ได้ตอบ “ขอเข้าไปหน่อย”
และก็ไม่ได้รอให้เขาตอบเช่นกัน อลิสาเดินเซซ้ายเซขวาไปนั่งลงกับพื้นห้อง เธอเหยียดขา เอาหลังพิงเตียง เห็นอย่างนั้นแดเนียลจึงได้แต่ปิดประตูและเดินตามเข้ามา บางทีเขาก็คิดว่าตนตามใจเธอมากเกินไปจนเคยตัว แต่พอถึงคราวจะต้องปฏิเสธเธอ เขาก็ไม่เคยทำได้เลยไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
“ว่ายังไง”
“วันนี้พี่กินยาหรือยัง”
เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “กินแล้ว” แดเนียลมีโรคประจำตัวตั้งแต่เกิด เขาต้องกินยาทุกวันเป็นกิจวัตร “เธอมาเคาะห้องพี่กลางดึกเพื่อถามว่ากินยาหรือยังเหรอ”
“เปล่า” เธอเม้มปาก ดูลังเล แต่สุดท้ายพูดออกมา “ครั้งนี้พี่ไปนานแค่ไหน”
แดเนียลเองก็เริ่มมึนหัวเพราะเบียร์เหมือนกัน ร่างสูงเดินมานั่งบนเตียงใกล้ ๆ กับเธอ ฟูกยุบลงตามน้ำหนัก เด็กสาวเอนตัวไปพิงขาเขาแทนก่อนจะโน้มศีรษะไปพิงที่หัวเข่า บางทีเธอก็ทำตัวเหมือนแมวเวลาที่เอาหัวถูเจ้าของไปมาจนเขานึกขำ
“คิดถึงเหรอ” เขายิ้ม ถามเชิงหยอกล้อ
เธอพ่นลมหายใจเหมือนประชดตามคาด เอาศีรษะตัวเองโขกกับเข่าเขาเบา ๆ “ตาบื้อ”
การทัวร์คอนเสิร์ตหนึ่งครั้งกินระยะเวลานานอยู่ทีเดียว เขาต้องทำงานและเดินทางไม่หยุด มันคือสิ่งที่ต้องแลกมาหากอยากทำในสิ่งที่รัก
“เดือนนึง” เขาตอบ “อาจจะนานกว่านั้น”
“ฉันเพิ่งมาอยู่ด้วยพวกพี่ก็ไปซะแล้ว”
“ทำยังไงได้ ก็งานพี่เป็นแบบนี้นี่นะ”
อลิสาเปลี่ยนมานั่งหันหน้าเข้าหาเตียง เธอกำลังเสียการทรงตัวจึงต้องพิงตัวเองกับบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
“หัวฉันหนักมาก เหมือนมีก้อนหินอยู่ในนี้ พี่รู้จักศิลาจารึกไหม มันอยู่ในหัวฉันล่ะ” เธอชี้ที่ขมับ บางทีก็พูดคำศัพท์แปลก ๆ ที่อยู่ในหนังสือหรือพูดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “ฉันปวดหัวเหมือนจะตายเลย”
“เธอไม่ตายหรอก” เขาเอามือลูบผมเธอ
“ถ้าฉันเผลอหลับแล้วตายไปเลยล่ะ”
“เธอไม่ตายหรอก” เขาเอ่ยซ้ำ “อย่างน้อยพี่ก็ไม่ยอมให้เธอตาย”
“เก่งมาจากไหนกัน” เด็กสาวเอาหน้าซบลงกับผ้าห่ม เธอถอนใจยืดยาวอีกครั้ง จากนั้นลมหายใจก็เริ่มสม่ำเสมอ ตอนแรกแดเนียลนึกว่าเธอเผลอหลับไปแล้ว แต่กลับได้ยินเสียงอู้อี้ดังขึ้น “ไม่อยากให้พี่ไปเลย…”
เขากะพริบตา อลิสาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ เธออ่อนไหวแต่ปากแข็ง มักจะไม่พูดอะไรตรงไปตรงมาแต่จะใช้วิธีเสียดสีแทน
“อลิสา” เขาก้มลงเรียกเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไปพักใหญ่ มือที่ยังคงวางอยู่บนศีรษะเธอใช้ปลายนิ้วเคาะเบา ๆ ให้รู้สึกตัว “ลิซ”
“พี่ก็จะทิ้งฉันไปเหรอ แดน”
เธอเงยหน้าขึ้นสบตา ชายหนุ่มชะงัก ไม่รู้ว่าดวงตากลมทัั้งคู่ที่แวววับเหมือนมีน้ำวนอยู่ตอนนี้เป็นเพราะความเมามายเหมือนทีแรกหรือเป็นเพราะอย่างอื่น เธอถามคำเดิม “พี่จะทิ้งฉันไปอีกคนใช่ไหม”
เรื่องราวในอดีตของเด็กสาวปรากฏขึ้นในความทรงจำเลือนลาง แผลเป็นของเธอ แผลเป็นของเขา แดเนียลรับรู้ในสิ่งที่เธอกลัว รวมถึงสิ่งที่ตามหลอกหลอนเธอ
“พี่ไม่มีวันทิ้งเธอ” เขาบอก
ก่อนจะหลับไป อลิสาพูดออกมาอีกครั้งราวกับว่ามันอยู่ในจิตใต้สำนึกส่วนที่ลึกที่สุด เสียงของเธอเบาหวิวเหมือนกระซิบแต่แปลกที่ดังก้องอยู่ในหัวเขา วินาทีนั้นเขารู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเต้นแรงกระเด็นหลุดจากอกและกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ
“คนที่ฉันรักทิ้งฉันไปเสมอเลย”
ภายในของชายหนุ่มร่ำไห้ เหมือนมองเห็นบางสิ่งร่วงลงและแตกสลายต่อหน้าต่อตาแต่ไม่รู้จะประกอบกลับไปอย่างไร เขาอับจนหนหาง
แดเนียลทำเพียงแค่อุ้มเธอขึ้นบนเตียง ห่มผ้า กลับมานั่งที่โต๊ะทำงานเช่นเดิม คืนนี้คงเขียนเพลงต่อไม่ได้ เขาเก็บสมุดใส่ลิ้นชัก ยอมแพ้
เขาไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน ตอนที่สะลึมสะลือทุกอย่างมืดสนิท เขารู้สึกเหมือนได้รับสัมผัสแผ่วเบาบางอย่างบนหน้าผากและดวงตาทั้งสองข้าง ยามรุ่งสางเขาตื่นขึ้น เริ่มมีแสงอ่อน ๆ จากช่องหน้าต่างเข้ามาวาดลวดลายที่พื้นและผนัง แว่นตาที่เคยใส่กลับอยู่บนโต๊ะ ข้างกันมีพวงกุญแจรูปใบโคลเวอร์วางอยู่ด้วย ผ้าที่เขาห่มให้เธอเมื่อคืนอยู่บนตัวเขา แต่อลิสาไม่ได้อยู่ในห้องเขาแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in