“หนังสือเธอจะหล่นลงมาทับพี่ตายอยู่แล้ว”
“เครื่องดนตรีพวกพี่ก็รกพอกันนั่นแหละน่า”
มาร์คอยากจะเอานิ้วดีดหน้าผากเธอสักครั้ง สองวันหลังจากกลับมาถึงดับลินแม่ตัวดีก็ไม่ได้มีทีท่าจะออกมาพบปะหรือต้อนรับกันสักนิด เด็กสาวหายต๋อมไปราวกับว่าอยู่บ้านคนละหลัง หากไม่อยู่ในห้องก็หายไปอยู่ที่สำนักพิมพ์ มีแค่ข้อความที่ส่งเข้ามาในกลุ่ม 'ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ไอ้พวกยักษ์'
คืนก่อนแดเนียลได้เจอกับเธอแล้ว แต่เกล็นกับเขาไม่ วันนี้หลังจากเสร็จธุระที่สตูดิโอพวกเขามาเคาะห้องเธอตอนบ่ายแก่ เมื่อเธอเปิดประตู เขาเห็นน้องสาวตัวน้อยใต้เสื้อยืดตัวโคร่งสกรีนลายว่าไปตายซะปิตาธิปไตย บนพื้นห้องมีหนังสือวางเกลื่อน เธอสวมแว่น ดวงตากลมมีขอบตาดำคล้ำ ผมที่รวบเป็นมวยกลับดูฟูฟ่อง และมีใบหน้าอ่อนล้าสุดขีด
“เธอไม่ได้ออกจากห้องทั้งวันเลยเหรอ” เกล็นก้าวขาข้ามกองกระดาษไปที่หน้าต่าง มองเธอที่เดินตุปัดตุเป๋กลับไปนั่งจ๋องหน้าจอคอมพิวเตอร์ “พระเจ้า ห้องนี้อับแสงอาทิตย์จริง ๆ ” สองมือแหวกผ้าม่านออกรวดเร็ว ทันใดนั้นแสงอาทิตย์ส่องเข้ามา ทุกคนหรี่ตาเพราะความสว่างที่แทรกมาในความมืดฉับพลัน เด็กสาวนั้นดูแย่ที่สุด เธอก้มเอาหน้าซบกับหัวเข่า ปากก็ถากถางไปด้วย
“ทั้งชีวิตฉันได้รับแสงอาทิตย์มามากพอแล้ว ขอบคุณ”
“วันนี้ได้กินอะไรบ้างหรือยัง” มาร์คซัก
“กินแล้ว”
“อะไร”
เธอพยักพเยิดหน้าไปที่แก้วบนโต๊ะ
“น้ำเปล่าเหรอ”
“ชา”
เกล็นเอ็ดเธอ “อลิสา”
อลิสาถอนหายใจพรืด เอาเท้ายันกับขาโต๊ะแล้วหมุนเก้าอี้เป็นวงกลม แสร้งทำเป็นเปิดพจนานุกรมไปเรื่อยเปื่อย แดเนียลยืนมองอยู่นานเห็นท่าไม่ดีจึงวางกล่องอาหารลงที่โต๊ะ “พี่ซื้อบะหมี่เป็ดมาให้ กินก่อนอย่าปล่อยให้เย็น” จากนั้นจึงวางอีกอัน “นี่เค้กแครอท”
แดเนียลคงเข้าใจเธอดีกว่าใคร อลิสาจริงจังกับงานหนังสือของเธอมาก ออกจะมากเกินไปหน่อย เวลาเครียดกับเรื่องงานเธอจะไม่แตะอาหารแทบทั้งวัน แต่หลังจากที่งานเสร็จเธอจะกินเหมือนพายุโหม แดเนียลเองก็เป็นแบบเดียวกัน
“แดนนี่…” เด็กสาวเงยขึ้นมองหน้าเจ้าหนุ่มตัวโย่ง แดเนียลหัวเราะแผ่วเบาตอนเธอเอื้อมมือมาบีบมือเขาก่อนจะทำท่าเหมือนสวมแหวนให้ที่นิ้วนาง “ฉันรักพี่จัง เรามาแต่งงานกันเหอะ”
เกล็นถอนใจ “ให้ท้ายกันอยู่นั่น”
มาร์คถอนหายใจเช่นกัน เพราะตอนนี้ดูเหมือนหางของเจ้าหมาแดนนี่จะกระดิกแรงเกินเสียไปแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in