เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Inconceivable | รักอนันต์พันธสัญญาdolpat4real
NerOrm : [ Chapter IV ] Inconceivable
  • Title: Inconceivable | รักอนันต์พันธสัญญา

    Author:  anitana_ & sean.

    Pairing: King Nereus x (Prince) Orm Marius | #NerOrm

    Fandom: Aquaman (2018)


    ติชม คอมเมนท์และเป็นกำลังใจได้ที่ #พันธสัญญารัก







     





    หากแต่ได้พบหน้ากับคนรักอีกสักครั้งเนเรียสก็ยินดีที่จะยอมลดเกียรติของตน ยอมทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังขอเพียงแค่ได้พบออร์มอีกครั้ง.. แค่เสี้ยววินาทีเขาก็ยอม...

     

    องค์กษัตริย์ร่างสูงใหญ่ที่บัดนี้ปลอมกายเป็นเพียงแค่ทหารยามแห่งพระราชวังแอตแลนติสกำลังว่ายน้ำตรงไปยังคุกหลวง อันเป็นสถานที่พำนักชั่วคราวขององค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรแอตแลนติส – เขาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น.. เมื่ออีกนิดเดียวก็จะเข้าไปยืนที่หน้าประตูห้องขังนั้นแล้ว

     

     

    หากพูดได้ ก็คงบอกได้เลยว่าเขาเองก็รู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย เพราะการที่จะกระทำการเช่นนี้มันไม่ใช่วิถีของเนเรียสสักเท่าไหร่.. แต่เพราะออร์ม.. หลายๆสิ่งในชีวิตขององค์กษัตริย์ผู้นี้ที่ไม่เคยคิดจะทำจึงถูกปลดล็อกและพร้อมที่จะทำ.. หากสิ่งนั้นได้ทำให้เขาได้พบกับออร์มอีกสักครั้ง

     

    เนเรียสกำลังรอเวลา.. อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เขาก็จะได้เจอกับออร์มแล้ว

     

     

    เสียงของวัลโก้ดังขึ้นมาจากไมโครชิปที่ติดอยู่หลังใบหูของเขา

     

    เอาล่ะ..ตอนนี้เลยพะยะค่ะฝ่าบาท...”

     

     

     

    เมื่อได้ยินดังนั้น - องค์กษัตริย์เนเรียสจึงว่ายเข้าไปหาทหารของแอตแลนติสที่เครื่องแต่งกายทั้งตัวดูละม้ายคล้ายกับตนทุกประการ.. ทหารคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย และเนเรียสเองก็พยักหน้าตอบรับ

     

    ออร์มนั่งอยู่ตรงนั้น.. ในห้องขังที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันดั่งที่กษัตริย์ออร์แวกซ์ได้ตรัสไว้ว่าองค์รัชทยาทของเขาอยู่สุขสบายดี

     

     

    ให้หลังทหารหนุ่มคนนั้นที่เดินจากไปเสียงกระซิบที่แผ่วเบาจึงเริ่มเอ่ยเรียก

     

    ออร์ม..ออร์ม.. ข้ามาแล้ว..” น้ำเสียงของเนเรียสดูดีใจเมื่อได้พบหน้าของคนรัก .. แต่พระพักตร์ของพระองค์ที่อยู่ใต้เครื่องแบบนั้นกลับเศร้าหมองลงแทบทันตาเห็น - ใบหน้าของออร์มดูซูบตอบ ขอบตาแดงก่ำราวกับเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง นัยน์ตาสีฟ้าคู่งามที่เขาหลงรักกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยความเลื่อนลอย

     

    องค์กษัตริย์แห่งเซเบลที่ยืนอยู่หน้าห้องขังนั้นรู้สึกสงสารคนรักจนแทบขาดใจ.. หยดน้ำตารินไหลเมื่อได้เห็นภาพของคนตรงหน้า

     

     

    ออร์มได้ยินเสียงคุ้นหู.. แต่พอหันไป.. กลับพบกับใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย หากแต่ทหารยามผู้นั้นกำลังเอ่ยเรียกชื่อของเขาด้วยความสนิทชิดเชื้อ องค์ชายหนุ่มสูดจมูก ไล่น้ำตากลับไป ก่อนลุกขึ้นหยัดยืนเต็มความสูง

     

    พระวรกายสูงใหญ่เหยียดตรงต่อทหารผู้นั้น - ก่อนที่เนเรียสจะนึกขึ้นได้ เขารีบแกะชิปที่ติดอยู่หลังใบหูออก เปิดเผยให้เห็นใบหน้าเดิมและชุดกษัตริย์แห่งอาณาจักรเซเบล

     

     

    เนเรียส! ท่าน...” ออร์มแทบไม่เชื่อสายตาของตนเองเลยว่าคนรักของเขานั้นจะมาปรากฏตัวตรงหน้า น้ำตาที่แห้งเหือดไป ไหลบ่าลงมาอีกครั้งเพราะความดีใจ ก่อนร่างงามจะเคลื่อนตัวตรงมายังกระจกกว้างที่คั่นกลางระหว่างเขาทั้งคู่..

     

    วัลโก้ไม่อาจเปิดประตูให้ได้เพราะสัญญาณแจ้งเตือนอาจดังไปถึงกษัตริย์ออร์แวกซ์.. ที่ราชครูทำได้ก็เพียงแค่ตัดต่อภาพภายในและภายนอกห้องขังก็เท่านั้น

     

    แต่แค่นี้มันก็ดีสำหรับออร์มมากเหลือเกิน..

     

     

    มาได้อย่างไรเนเรียส.. ท่านมาหาข้าได้อย่างไรกัน..” ออร์มเอ่ยถาม ฝ่ามือแนบชิดกับกระจกกั้นแสนแน่นหนาที่เนเรียสเองก็ทาบทับฝ่ามือของตนลงมาด้วยเช่นกัน..

     

     

    เหมือนฝันครั้งที่สองเลย..

     

     

     

    ข้ามาคุยกับออร์แวกซ์.. แต่ไม่เป็นผล..” นัยน์ตาคู่นั้นไหววูบด้วยความผิดหวังที่มากล้น หน้าผากจรดลงแนบชิดกับกระจกใส แม้จะอยู่ใกล้กันเพียงแค่กระจกกั้นแต่มันกลับเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน – ฝ่ามือที่วางแนบแปรเปลี่ยนเป็นกำมือแน่น.. อยากจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีทุบกระจกบานนี้ให้แตกสลาย อยากจะกอดออร์มไว้ในอ้อมแขนอีกสักครั้ง.. หยดน้ำตารินไหลแต่สลายไปพร้อมกับมวลน้ำที่พัดผ่าน

     

    ราชครูของเจ้าช่วยให้ข้าปลอมตัวมาหาเจ้า..” เพราะรู้ว่าทุบไปก็คงไม่มีความหมายใด ฝ่ามือใหญ่นั้นจึงวางแนบชิดกับกระจกอีกครั้ง ทาบทับลงบนฝ่ามือที่เล็กกว่าของออร์ม, เขาคุ้นชินกับการได้กุมฝ่ามือนั้นเอาไว้แนบกายแต่บัดนี้ แม้แต่จะสัมผัส ก็ยังทำไม่ได้ .. ทรมานเหลือเกิน ทรมานหัวใจเหลือเกิน.. ที่เขาทำอะไรเพื่อออร์มไม่ได้เลย

     

    ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน.. ออร์ม” เปลือกตาหนาไม่อยากจะหลับลงเพื่อไล่น้ำตาที่เอ่อล้น ไม่อยากจะละสายตา ไม่อยากแม้แต่จะปล่อยให้ภาพตรงหน้านั้นเลือนหายแม้แต่วินาทีเดียว - จ้องมองนัยน์ตาสีฟ้าตรงหน้า เขาอยากจะสัมผัสมันอีกครั้ง แต่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพียงแค่ปาดนิ้วมือผ่านกระจกใสที่แน่นหนา

     

     

    ออร์มเองก็รู้สึกปวดร้าวในหัวใจไม่แพ้กันที่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างเช่นเนเรียสจะต้องหลั่งน้ำตาเพื่อเขา - มือสวยวางไว้ตรงตำแหน่งที่ใกล้กับดวงตาของเนเรียส.. ทำท่าคล้ายจะปาดน้ำตาออกให้ แม้มันจะไม่สามารถทำได้ก็ตามที..

     

    หัวใจของข้าร้องเรียกหาเพียงแต่ท่าน..” ออร์มกล่าว รอยยิ้มสวยปรากฎบนใบหน้างาม แม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่ทรมาน แต่อย่างน้อยออร์มก็ดีใจที่ได้พบกับเนเรียสอยู่ดี

     

    ข้าไม่คิดว่าข้าจะได้เจอท่านอีกครั้งเร็วถึงเพียงนี้ แต่แค่นี้ข้าก็ดีใจเหลือเกิน..”

     

    ออร์มก็ได้แต่หวัง.. ว่าพระบิดาจะทรงโปรดความเมตตาต่อเขาบ้าง.. สักครั้งก็ยังดี..

     

     

    ข้าเองก็มิอาจรู้ได้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกสักกี่หน..” เนเรียสยิ้มทั้งน้ำตา ปลายจมูกแตะชนกับกระจกหนา “แต่การได้พบเจ้าอีกสักครั้งข้าก็ดีใจมากแล้ว..”

     

    ดีใจที่เจ้ายังปลอดภัยและอยู่สุขสบายดี..” เนเรียสยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตาที่เอ่อล้น ส่งยิ้มให้กับออร์ม “ข้าห่วงเหลือเกิน.. กลัวว่าออร์แวกซ์จะทำอะไรกับเจ้าไปมากกว่านี้”

     

    จรดหน้าผากเข้าแนบชิดดั่งที่เขามักทำอยู่เสมอยามที่ได้มีออร์มอยู่ในอ้อมกอด

     

     

    เขาคงไม่ฆ่าแกงข้าหรอกอย่างน้อย.. เขาก็ยังเห็นข้าเป็นลูก” ออร์มเอ่ยเช่นนั้น จรดหน้าผากเข้าหา เงยสบกับดวงตาสีฟ้าที่เขาหลงรักมานานแสนนาน

     

    ท่าน.. ลองฟังสิ่งที่ข้าจะบอกต่อจากนี้ไปได้ไหม..” ออร์มเอ่ยถาม พอเนเรียสพยักหน้าเขาจึงกล่าวสิ่งที่ได้เฝ้าคิดมาทั้งคืน

     

    ข้าจะลองเจรจากับท่านพ่อ.. ยอมโอนอ่อนทำตามสิ่งที่เขาต้องการ อย่างน้อยก็เพื่ออิสระของข้า.. หากข้าได้มันมา.. การจะได้พบท่านอีกครั้งคงไม่ยากเท่าการทำเช่นนี้ ข้า.. ข้าไม่อยากให้ท่านเสี่ยงเพราะข้าอีกแล้วเนเรียส..”

     

     

    เจ้าจะทำอย่างไรล่ะออร์ม.. ขนาดข้าเอง.. ก็ยังเจรจากับเขาไม่ได้ผล..” เนเรียสถอนหายใจ มองใบหน้าของคนรักด้วยความหมดหวัง

     

     

    ออร์มนิ่งอย่างใช้ความคิด เขาต้องรอบคอบเพื่อตัวของพวกเขาทั้งคู่.. “ข้า.. จะขอโทษท่านพ่อที่ข้าไม่เชื่อฟัง จะทำให้เขาไว้ใจข้า.. และปล่อยข้าออกจากคุกนี่ มันอาจจะดีหากเป็นเช่นนั้น อย่างไรเสีย.. ข้าก็ต้องขึ้นเป็นกษัตริย์ ท่านพ่อของข้าคงหาใครอื่นมาแทนเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงหนึ่งเดียวของท่านมิได้หรอก..”

     

    ออร์มว่าช้อนตามองเนเรียสอีกครั้ง..

     

    ส่วนท่าน.. รอข่าวจากข้านะ ข้าจะติดต่อไป.. ทันทีที่ข้าทำได้ ข้าให้สัญญา..”

     

     

    แบบนั้นมันจะฝืนใจเจ้าเกินไปหรือเปล่าออร์ม..” เนเรียสพูด – เขารู้ว่าออร์มกับออร์แวกซ์นั้นก็ไม่ค่อยลงรอยกันเสียเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นออร์มก็ยังคงเป็นรัชทายาทเพียงพระองค์เดียวในกษัตริย์ออร์แวกซ์.. และหากให้พูดตรงๆ.. เนเรียสเองก็คงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วเหมือนกัน

     

    ถ้าเจ้าตั้งใจจะทำเช่นนั้น ข้าก็พร้อมที่จะทำตามคำเจ้าบอก.. ขอแค่ข้ายังได้มองเห็นเจ้าอยู่ในระยะสายตา ข้าก็ดีใจมากแล้ว” รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนพระพักตร์ - ฝ่ามือกร้านลูบผ่านบนกระจกที่คั่นกลาง เสมือนเขากำลังได้สัมผัสออร์ม .. หลับตาลงและแนบศีรษะลงอีกครั้ง หวังเพียงแค่ว่าจะสามารถส่งผ่านความอบอุ่นของตนไปให้ออร์มได้จากตรงนี้

     

     

    ออร์มยิ้มรับหลับตาพริ้ม ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้กระจกนั้นยิ่งขึ้น.. แตะริมฝีปากแนบกับกระจก.. ตรงบริเวณเดียวกันกับริมฝีปากของเนเรียสพอดี

     

    ท่านรีบกลับไปก่อนเถอะนะ ก่อนที่ใครจะรู้ว่าท่านลอบเข้ามาหาข้า..” ออร์มเอ่ยบอกกับคนรัก หากท่านพ่อรู้ในครั้งนี้ คงจะไม่มีความเมตตาปรานีใดๆ เหลืออยู่อีกเป็นแน่

     

    เนเรียสมองใบหน้าคนรัก ตักตวงเอาช่วงเวลาเหล่านั้น เก็บภาพฝันตรงหน้าเอาไว้ในหัวใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.. สายตาเฝ้าหาก่อนจะตัดสินใจตวัดน้ำเคลื่อนตัวออกไปจากคุกหลวง.. โดยที่ออร์มยังคงมองตามคนรักไปจนสุดสายตา..

     

     

     

     

     

     

    เนเรียสว่ายน้ำออกมาจากคุกหลวง - ด้วยแผนที่โฮโลแกรมที่วัลโก้เคยให้ไว้.. จึงทำให้เนเรียสสามารถรู้พื้นที่ภายในของอาณาจักรแอตแลนติสได้แทบทุกพื้นที่

     

    กษัตริย์แห่งเซเบลที่ปลอมแปลงกายเป็นทหารแห่งแอตแลนติสหยุดยืนที่มุมหนึ่งหลังกำแพงทอดยาว- มือใหญ่กร้านยกหยิบไมโครชิปที่ติดอยู่หลังใบหูออกพร้อมกับทำลายมันทิ้ง ก่อนจะเคลื่อนตัวไปยังกองทัพแห่งเซเบลที่ติดตามพระองค์ซึ่งเฝ้ารออยู่หลังกำแพงเมืองแอตแลนติส

     

     

    ข้าหมดธุระแล้ว กลับเซเบลได้..” เนเรียสคว้าเชือกหลังคอของมังกรทะเลทรงพระที่นั่ง ก้าวขาขึ้นนั่งควบ ก่อนจะกระตุกเส้นเชือกบ่วงบาศเพื่อมุ่งหน้ากลับเมืองของตน

     

     

     

     

     

     

    ออร์มกลับมาอยู่เพียงลำพังตามเดิมพร้อมทหารคนใหม่ที่มาเฝ้ายาม ทหารคนนั้นออกจะแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่หน้าห้องขังไม่มีผู้ใดเฝ้า แต่พอเห็นทุกอย่างนั้นเป็นปกติจึงไม่ได้เอะใจอะไรนัก

     

    เจ้า!” สุรเสียงทุ้มนุ่มหากแต่เต็มไปด้วยพลังนั้นเรียกขาน - ทหารยามสะดุ้งเฮือก เพราะถึงอย่างไรแม้จะถูกคุมขังอยู่ภายในห้อง แต่องค์รัชทายาทก็ยังมีท่าทีที่น่าเกรงขามเช่นเดิมมิเคยเปลี่ยน

     

    ไปกราบทูลพระบิดาให้ข้า ว่าข้ามีเรื่องอยากจะตรัสกับพระองค์..”

     

    ทหารยามทำหน้าลังเล ออร์มจึงยิ่งเร่ง

     

    ข้าหนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว หากเจ้ากลัวว่าข้าจะหนีนัก ก็ไปบอกให้คนอื่นกราบทูลพระองค์แทนเสีย”

     

     

     

     

     

     

    ทหารผู้นั้นน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี เขารีบตรงดิ่งไปยังท้องพระโรงอันเป็นที่พำนักประจำขององค์กษัตริย์ออร์แวกซ์กล่าวบังคมทูลทุกถ้อยคำที่ออร์มได้ตรัสไว้

     

    ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทฯ ข้าพเจ้าได้รับสั่งจากองค์รัชทายาทว่า พระองค์ทรงมีประสงค์ที่จะเข้าเฝ้าองค์เหนือหัวพะยะค่ะ..” ทหารผู้นั้นกล่าว ขณะที่คุกเข่าอยู่หน้าบัลลังก์

     

     

    เข้าไปอยู่ในคุกได้มิถึงสามวัน.. เจ้าลูกไม่รักดียังมีอะไรต้องคุยกับข้าอีก” กษัตริย์ออร์แวกซ์ยังคงรู้สึกหัวเสียไม่หาย จากที่ก่อนหน้านี้กษัตริย์เนเรียสเพิ่งทูลขอเฝ้าไปไม่นาน อีกทั้งยังพูดจาสบประมาทเขาเสียขนาดนั้น

     

    ออร์แวกซ์ครุ่นคิดพิจารณาก่อนจะถามทหารผู้นั้นตอบกลับไป “เขาได้แจ้งความประสงค์หรือไม่ ว่าอยากเข้าพบข้าเพราะเหตุผลกลใด” องค์กษัตริย์ตรัสถาม สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

     

     

    องค์รัชทายาทมิได้แจ้งถึงเรื่องที่ต้องการกราบทูลพระองค์พะยะค่ะ” ทหารทูลตอบ - ออร์แวกซ์เองก็เห็นว่าอย่างไรเสีย.. ออร์มก็ยังเป็นลูกของเขาอยู่วันยังค่ำ หากเจ้าลูกคนนี้สำนึกได้เขาเองก็ยินดี

     

     

    งั้นก็ไปพาตัวเขาเข้ามา” เอ่ยสั่ง - นายทหารรับคำ ก่อนจะออกจากท้องพระโรงเพื่อไปยังคุกหลวง

     

    ออร์มตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ ขอให้พระบิดาเมตตาตนอีกสักครั้ง

     

     

     

     

    กษัตริย์ออร์แวกซ์รับสั่งให้องค์รัชทายาทสามารถเข้าพบได้พะยะค่ะ” นายทหารผู้นั้นกล่าวทูลแด่องค์รัชทายาทที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงพระที่นั่งซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง - เจ้าชายหนุ่มลุกขึ้นและเคลื่อนตัวไปยังประตูซึ่งเป็นทางเข้าออกทางเดียวของห้องขังนี้

     

    ทหารรับสั่งเปิดประตู และพาองค์รัชทายาทเข้าพบพระราชบิดาที่รออยู่ ณ ท้องพระโรง – เจ้าชายออร์มยังคงถูกคุมขังด้วยกำไลกดพลังอยู่เช่นเดิมเหมือนกับครั้งแรก

     

     

    มีอะไรก็ว่ามา..” กษัตริย์ออร์แวกซ์เอ่ย เมื่อได้เห็นหน้าของลูกชายที่มาขอเข้าเฝ้า – ออร์มยินดีคุกเข่าลงต่อหน้าพระราชบัลลังก์

     

     

    เงยหน้าขึ้นสบตากับพระราชบิดาของตน “ลูก.. สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป” ออร์มกล่าว ก่อนก้มศีรษะของตนลง.. แต่เขาไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เจ้าชายหนุ่มมีสัมพันธ์รักอันลึกซึ้งกับองค์กษัตริย์เนเรียส - ออร์มไม่มีทางรู้สึกผิดในเรื่องนั้นแน่นอน

     

    ลูกสำนึกผิดในสิ่งที่ไม่เชื่อฟังท่านพ่อ” ใบหน้างามมิได้ปรากฎความอ่อนแอใดให้พระบิดาได้เห็น เพราะรู้ดีว่าน้ำตาของตนนั้นไม่อาจเรียกความสงสารใดจากองค์กษัตริย์ออร์แวกซ์ได้

     

    ลูกพร้อมจะทำตามพระบัญชาของท่านพ่อ.. รับใช้แอตแลนติส และทำสิ่งที่ลูกควรจะทำ”

     

     

    เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือ?” ออร์แวกซ์เลิกคิ้วสูง มองท่าทีของลูกชายที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า “ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้มากแค่ไหนกันล่ะลูกชาย.. ในเมื่อไม่นานนี้ ไอ้คนจากเซเบลที่เจ้าไปนอนกกอยู่บนบกก็เพิ่งมาหยามข้าถึงถิ่น ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้มากแค่ไหนว่านี่มันไม่ใช่แผนการของเจ้า”

     

     

    ออร์มสะอึกเล็กน้อยกับคำพูดของพระราชบิดาที่เพิ่งเอ่ยออกมา แต่เขากดมันไว้ในกำมือของตนเอง “ข้าไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ต้องแก้ตัว ท่านพ่อ.. แต่ข้าพร้อมจะก้าวต่อไปข้างหน้า และพร้อมจะทำตามพระบัญชาของท่านพ่อทุกประการ - ข้าจะทิ้งทุกอย่างที่ผ่านมาไว้เบื้องหลัง..” เว้นแต่เนเรียสผู้เป็นที่รักของเขา ซึ่งออร์มจะเก็บไว้ให้ลึกสุดหัวใจ.. มิมีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้

     

     

     

    องค์กษัตริย์แห่งแอตแลนติสเสมองอย่างพิจารณาอีกครั้ง.. ก่อนลุกขึ้นจากบังลังก์ หยัดตัวเต็มความสูงตวัดสายน้ำเคลื่อนตัวลงไปยังลูกชายเพียงคนเดียวของตนที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าบัลลังก์

     

    ที่เจ้าเอ่ยออกมานั้นคือความสัจจริงแน่หรือ?” เขาเอ่ยถาม จ้องเข้าไปในตาสีฟ้าสวยนั้นเพื่อหาร่องรอยแห่งความพิรุธและไม่มั่นใจ.. แต่ก็ปราศจากแววตาเหล่านั้นในดวงตาของออร์มเลย

     

     

    ทุกคำ.. จากปากข้า ล้วนแล้วแต่เป็นความสัจจริง ท่านพ่อ.. แอตแลนติสคือสิ่งสำคัญ.. ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังในตัวข้า..”

     

     

    งั้นข้าก็จะลองทำตามประสงค์ของเจ้าดูอีกสักครั้ง.. ออร์ม” มือขวาที่กุมข้อมืออยู่ด้านหลัง เอื้อมลงวางบนศีรษะขององค์รัชทายาท ก่อนจะโน้มตัวเพียงน้อยนิดเพื่อแตะบนบ่ากว้าง พร้อมกับกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ

     

    แต่ถ้าหากข้ารู้ว่าเจ้ามีลูกเล่นอื่นใดซ่อนอยู่.. จะไม่มีคำว่าเมตตาอีกต่อไป”

     

     

    ออร์มถึงกับขนหลังคอลุกชันกับน้ำเสียงนั้น.. ทำไมตนจะไม่รู้ล่ะว่าคนอย่างท่านพ่อน่ะ พูดจริงทำจริงถึงเพียงไหน..

     

    ท่านพ่อวางใจได้.. ลูกจะไม่ทำให้ท่านพ่อต้องผิดหวังในตัวลูกอีก..” เอ่ยบอกอีกครั้ง ใบหน้างามก้มลงเพื่อแสดงว่าตนเองนั้นน้อมรับ แม้ความจริงแล้วใต้ใบหน้านั้นจะยังคงแสดงความไหวหวั่นอยู่กลายๆ – แต่ถึงอย่างนั้นออร์มก็ไม่คิดจะต่อต้านการอื่นใดกับกษัตริย์แห่งแอตแลนติสผู้นี้เลย อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานี้...

     

     

    ทหาร! เอาตัวเขากลับไปยังห้องของเขาพร้อมกับปลดกำไลนี่ออกซะ” กษัตริย์ออร์แวกซ์เอ่ยเสียงดัง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่กระนั้นกลับทำให้ออร์มรู้สึกกลัวเสียมากกว่า - เขาเคยเห็นท่านพ่อยิ้มแบบนี้อยู่ไม่บ่อยนักแต่จุดจบของผู้ที่ได้รับรอยยิ้มกลับจบไม่เคยสวยสักครั้ง..

     

     

     

     

     

    ออร์มถูกปลดกำไรกดพลัง และถูกพาตัวกลับไปยังห้องบรรทมของเขาเช่นเคย..

     

     

    มือเรียวสวยลูบไล้ข้อมือไปมา ยามได้กลับมาที่ห้องพักของตนเองนั้นทำให้ออร์มกลับมารู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง เอื้อมมือกดสวิตซ์ไล่น้ำออกจากห้องเพื่อกันทหารเข้ามารบกวน..

     

    เขาไม่ต้องทนอยู่ในคุกมืดนั่นอีกต่อไปแล้ว.. แต่หลังจากนี้จะทำอย่างไร ถึงจะมีโอกาสให้สามารถติดต่อกับเนเรียสได้.. อย่างไรเสียท่านพ่อก็คงให้คนจับตาดูเขาอยู่เป็นแน่..

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in