พอบ้านสร้างเสร็จครอบครัวซึ่งมีภรรยาและลูก2คนเข้าอาศัย  ส่วนผู้จัดการก็ไปๆมาๆ ระหว่างที่ทำงานกับบ้าน  ช่วงกลางดึกครอบครัวจะเห็นสิ่งแปลกๆเช่น  มีผู้ชายร่างสูงใหญ่มายืน  ดำทะมึนหน้าตาโหดเหี้ยมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อปลายเตียงบ่อยๆและบางครั้งลูกลงมา ลูกๆซึ่งนอนอยู่บนชั้น3  เดินลงบันไดมา เพื่อจะไปเอาน้ำดื่มจากชั้น 1  ก่อนจะถึงชั้น1 ลูกมองผ่านช่องลม เห็นกระต่ายสีขาววิ่งเล่นที่พื้นในครัว  ทั้งๆที่ครอบครัวไม่เคยเลี้ยงกระต่าย และประตูบ้านปิดสนิทไม่มีสัตว์ใดๆเข้ามาได้  และมีการเจ็บป่วยของคนในครอบครัวหลายครั้ง

คุณนายตัวจริงของผู้จัดการ เดินอยู่ดีๆก็เหมือนมีคนผลักลื่นหกล้มจนกระดูกต้นขาหัก   ต้องให้หมอผ่าตัดใส่บานพับเหล็กที่ต้นขาทั้งสองข้าง  กลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้   ทาวเฮ้าส์มีทั้งหมด6ห้อง  อีกรรมกรใฝ่สูง  ได้ตัวผู้จัดการไปครอบครองและยังไม่หนำใจเดินเข้ามาที่ทาวเฮ้าส์ห้องติดกันและส่งเสียงพูดดังๆกับผู้จัดการเพื่อให้คุณนายเกิดความช้ำใจ  ทั้งๆที่ท่านป่วยหนัก  ทนไม่ไหวต่อเสียงดังแต่แหบหยาบคายของมัน    จึงให้ลูกไปบอกให้มันไปที่อื่น   มันก็ดื้อด้านไม่ยอมไป  จนผู้จัดการสั่งให้ไปมันจึงยอม   

ผู้จัดการกับคุณนายทะเลาะกันอย่างรุนแรงด้วยฤทธิ์ของคุณไสย  ทำให้ผู้จัดการเกลียดคุณนายเหมือนเป็นศัตรู  จะไปอยู่กับอีสารเลวเป็นส่วนใหญ่  หลานคุณนายตัวเล็กๆได้ยินเสียงคนด่าหยาบคาย  แว่วอยู่ในหูตลอดเวลาสร้างความรำคาญอย่างยิ่ง  พาไปหาหมอก็หาโรคไม่เจอ  จึงต้องไปพึ่งพระ  ทำพิธีขับไล่ผี  เด็กจึงหายเป็นปกติ 

ลูกสาวคุณนาย เครียดมากที่แม่ป่วย  และมีเหตุการณ์ที่น่ากลัวเกิดขึ้นบ่อยครั้งจึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าพ่อเสือ  ท่านนั่งทางใน  หลับตาสมาธิ   เพียงแต่บอกสถานที่ท่านก็สามารถใช้ญาณทิพย์มองเห็นอย่างทะลุปรุโปร่งว่ามีสิ่งที่ไม่ดีฝังใต้บ้าน  ท่านก็นัดวันที่จะไปช่วยเหลือ  พอถึงวันนัด  ท่านมาพร้อมกับ  ลูกศิษย์รูปร่างบึกบึน  2 คน   คนทรงเจ้าพ่อเสือ  สวดมนต์บริกรรมคาถาแล้วก็ชี้ไปตรงมุมบ้านให้ลูกศิษย์เจาะพื้นปูนซึ่งมีความหนาประมาณ 1 คืบ  ท่านใช้แผ่นฮู้ล้วงลงไปใต้พื้นดินและพูดว่ามันเดินหนี  ท่านล้วงลึกลงไปเรื่อยๆจนสุดแขน  พร้อมทั้งสวดมนต์รัวๆถี่ยิบ  จึงจับขึ้นมาได้  เป็นขวดน้ำมันพราย ที่ใส่รูปปั้นขี้ผึ้งหญิงชายกอดกัน  แล้วท่านก็เดินไปรอบบ้าน  ทำเช่นเดียวกันทั้งหมดรวม 4 มุมบ้าน  นำขวดอุบาทว์ใส่ถุงมัดอย่างหนาแน่นไปโยนทะเล

ท่านสั่งว่าดูแลบ้านและครอบครัวให้ดีไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น  สิ่งต่างๆเหล่านี้มันไม่มีตัวตน  ยากต่อการรักษา  ถ้าปล่อยไปนานๆคนในครอบครัวอาจจะต้องเสียสติ  เป็นบ้าคลั่งและเกิดอันตราย  ถึงมันฝังไม่ได้มันก็อาจจะป้ายตามประตูส่วนต่างๆของบ้าน   หลังจากที่เจ้าพ่อเสือปัดเป่าสิ่งเลวร้ายให้แล้ว  ครอบครัวของคุณนายก็อยู่กันด้วยความเป็นสุข  

ส่วนกรรมกรตัวนั้นก็ยังคงปฎิบัติการชั่วร้ายอีกต่อไป  พอผัวมันซึ่งมีอาชีพขี่สามล้อรู้ว่าเมียไปมีกิ๊กก็อุส่าต์ขี่สามล้อไปตามถึงไซต์งานซึ่งห่างจากบ้านผัวประมาณ 14 กิโลเมตร  พอผัวไปถึงเมียก็ต้อนรับขับสู้อย่างเต็มที่  ด้วยการเลี้ยงอาหารอย่างดีเต็มโต๊ะ  จนถึงตอนเย็นผัวก็ขอกลับบ้าน  ผัวมีรูปร่างกำยำล่ำสัน  ขี่รถไปห่างจากแคมป์ประมาณครึ่งกิโลเมตร ก็ตกน้ำตายซึ่งน้ำลึกแค่เอว  หลายคนที่เห็นศพบอกว่าไม่น่าจะจมน้ำตายได้  คงเป็นเพราะถูกยาสั่งในอาหาร  เพราะผู้ตายมีอาการหน้าตาบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด  ทรมาน  แล้วนอนชักตายไปตามยาวของคลองตื้นๆ  กรรมกรมันขจัดเสี้ยนหนามชิ้นใหญ่ได้อย่างแนบเนียน 

ช่วงที่มันขี่มอเตอร์ไซค์จากแคมป์ไปเผาศพผัว  มันแต่งตัวเต็มที่  ใส่ทองหยองเต็มตัวล้นไปจนถึงข้อเท้า  เพราะชีวิตของมันไม่เคยมีทองคำใส่  ระหว่างทางที่เปลี่ยวมีโจรมาจี้ทองคำและรถมอเตอร์ไซค์ของมันไปหมด  กรรมเริ่มทำงานแล้ว  มันถูกโจรซ้อมจนฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว  

ลูกสาวคุณนายกำลังตั้งท้องได้4เดือน  ผู้จัดการไปตลาดนัดเอาผักบุ้งสีแดงยอดอ่อนๆมาแกงส้มให้ครอบครัวซึ่งลูกสาวกินเพราะคิดว่าพ่อซื้อมาให้   หลังจากกินแกงส้มได้ไม่กี่ชั่วโมง  ลูกสาวก็มีอาการตกเลือด  เข้าโรงพยาบาลหมอฉีดยากันแท้งอย่างดีให้ก็ช่วยไม่ได้  ทำให้แท้งลูกที่ขอมาจากเจ้าพ่อเสือ  พอร่างกายแข็งแรงก็ไปหาเจ้าพ่อเสือใหม่  ท่านถามว่าไปกินอะไรผิดมาจึงแท้งลูก  เธอก็เล่าให้ฟังว่ากินแกงส้มผักบุ้ง  เจ้าพ่อเสือบอกว่ามีสิ่งที่ไม่ดีอยู่ในผักบุ้ง   ทีหลังจะกินอะไรก็ขอให้ระมัดระวัง  แล้วท่านก็ให้ลูกมาใหม่บอกว่าคนนี้แข็งแรง  เฉลียวฉลาด  หลังจากนั้นประมาณ1เดือนเธอก็ตั้งท้องลูกคนใหม่  ไม่มีอาการแพ้ท้องเลยสักนิดเดียว  สามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานได้ไกลๆ  พอลูกคาดคั้นถามพ่อว่าเอาผักบุ้งมาจากไหน  พ่ออ้อมแอ้มตอบว่ากรรมกรอุบาทว์ซื้อมาฝาก  ลูกบอกว่าทำไมพ่อไม่บอกหนูก่อน  หนูจะได้ไม่กิน  ทำให้ต้องสูญเสียลูกชายไป  จนอยากจะฆ่ามัน  แต่ก็เป็นห่วงว่าถ้าติดคุกก็ไม่มีใครเลี้ยงลูกคนใหม่

ช่วงที่อยู่กับผู้จัดการมีเงินทองใช้อย่างฟุ่มเฟือย  มันชวนผู้จัดการเล่นหวยงวดละ 1 แสนทุกงวดไม่เคยถูก  ผลสุดท้ายเงินก็หมดตัว  ทำให้ผู้จัดการจนลง  มันก็ต้องหาเช้ากินค่ำ  ขายข้าวเกรียบว่าวบ้าง  ถั่วต้มมันต้มบ้าง  เล็กๆน้อยพอประทังชีวิตไปวันๆ   ลูกสาวมันไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด  ลูกแข็งแรงดีหลังจากนั้น3วัน  ลูกสาวมันก็เป็นลมตายเพราะกินส้มมุด (คล้ายมะม่วงเวลาสุกมีกลิ่นหอม ว่ากันว่าแสลงลม )  มันกำลังรับกรรมที่มันทำไว้กับคนอื่น  ต้องเสียลูกอันเป็นที่รักเช่นเดียวกับที่มันทำไว้กับเขา   อยู่ไปไม่นานผู้จัดการก็เสียชีวิต  ส่วนตัวมันก็เป็นโรคร้ายหลายโรค  กลิ่นตัวเหม็นเน่าเหมือนศพเพราะชอบเล่นของ  จึงกลับเข้ามาหาตัวเอง  ปัจจุบันสภาพของมัน  รูปร่างผอม  หน้าดำคล้ำ  หลังโก่งงอเหมือนแม่มด  แต่ก็ยังต้องนั่งปิ้งข้าวเกรียบว่าวที่ร้อนๆ  ทั้งวันเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น