ด้วยข่าวสารที่มากล้นในยุคปัจจุบัน ทำให้มีข่าวน่าสนใจข่าวหนึ่งตกหล่น ซึ่งผมเห็นสำนักข่าวหลายแห่งไม่ได้พูดถึงมากนัก นั่นคือ กฎการซื้อขายนักเตะรูปแบบใหม่ของพรีเมียร์ลีก 

ปัจจุบันเราทราบกันดีว่า ตลาดซื้อขายหน้าร้อนจะปิดการซื้อขาย 31 สิงหาคม แต่อาจจะมีโยกไปต้นเดือนกันยายนบ้าง ถ้าหากวันดังกล่าวเป็นวันหยุดของธนาคาร แต่กฎการซื้อขายครั้งใหม่คือ ตลาดค้านักเตะอังกฤษจะปิดการซื้อขายก่อนเกมนัดแรกของพรีเมียร์ลีกจะบังเกิดขึ้น

สมมติว่า ฟุตบอลอังกฤษเปิดฤดูกาลวันที่ 12 สิงหาคม ทีมที่มีคิวเตะก่อนเกมวันนี้ที่ 12 จะต้องทำการซื้อขายนักเตะให้เรียบร้อยภายใน 17.00 น. ของวันพฤหัสบดีก่อนเปิดฤดูกาล  แต่หากทีมจากลีกอื่น เช่น ลาลีกา หรือบุนเดสลีก้า ต้องการซื้อนักเตะจากพรีเมียร์ลีกสามารถทำได้ เพราะกฎการซื้อขายนั้นกำหนดขึ้นเฉพาะทีมในฝั่งพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ซึ่งตอนนี้หลายทีมในพรีเมียร์ลีกชักเย่อกันยกใหญ่ว่า 'แนวคิด' น่าซื้อหรือควรเมิน 

แน่นอนว่า ประเด็นนี้มีทีมที่ 'เห็นด้วย' และ 'ไม่เห็นด้วย' ครับ

ฝั่งเจอร์เก้น คล็อปป์ บอกว่า เห็นด้วย ที่การซื้อขายควรปิดก่อนเกมนัดแรกจะบังเกิด เพราะบรรดาทีมที่มีนักเตะถูกหมายปองเยอะ จะยิ่งปั่นป่วนหากรอให้ถึงวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย บางทีมไม่ได้คาดฝันว่าจะต้องสูญเสียนักเตะคนสำคัญในช่วงต้นฤดูกาล บางทีมมีการเตรียมทีมไว้แล้วเรียบร้อย จู่ๆ ต้องเสียนักเตะสำคัญมันอาจส่งผลต่อสปิริตภายในทีม ไปจนถึงเชปด้านฟุตบอล

แน่นอนว่า สิ่งที่คล็อปป์ พูดออกมานั้น ถูกยกตัวอย่างจากเรื่องจริงในกรณีฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซึ่งลิเวอร์พูลไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่า เนย์มาร์จะย้ายทีม พอเกิดการย้ายทีมสะท้านโลก ก็เหมือนลิเวอร์พูลถูกรางวัลที่หนึ่งที่ไม่อยากได้ กลายเป็นว่าบาร์ซ่าตามเทียวไล้เทียวขื่อจะเอาคูตินโญ่ร่วมทัพฝ่ายเดียว ทางฝั่งลิเวอร์พูลเองก็คิดไม่ตกจะหาใครมาแทน แถมฤดูกาลก็กำลังจะเปิดม่านแล้วด้วย ซึ่งลิเวอร์พูลเองก็เคยเจอปัญหาประมาณนี้จนต้องเกิดสภาวะ 'Panic Buy' คือ ซื้อตัวมั่วซั่วจนไม่ได้ดูรูปแบบของทีม ในกรณีแอนดี้ แคร์โรลล์ เป็นต้น (เพียงแต่รอบนั้นเป็นการซื้อขายเดือนมกราคม ซึ่งผมว่าไม่ต่างกันมากอยู่ดี)

ทางฝั่งโชเซ่ มูรินโญ่เองก็เห็นด้วยกับการปิดตลาดซื้อขายที่เร็วกว่าปกติ โดยมูรินโญ่มองว่า การที่นักเตะคนหนึ่งใส่เสื้อของทีมหนึ่ง สัปดาห์ต่อมาย้ายไปสวมเสื้อของอีกทึมหนึ่งมันเป็นเรื่องตลก แต่ละทีมควรมีความพร้อมการจัดการทีมตั้งแต่ปิดฤดูกาลมากกว่าที่จะมาทุ่มบ้าคลั่งในช่วงท้ายก่อนปิดตลาด

นอกจากนี้มูรินโญ่ยังบอกด้วยว่า ถ้าว่ากันตามตรงจะมีสักกี่ทีมที่สามารถคว้านักเตะเก่งๆ จากพรีเมียร์ลีกได้ ซึ่งมันไม่เกิดขึ้นทุกฤดูกาลหรอกที่นักเตะจากพรีเมียร์ลีกจะโดนทีมใหญ่ๆ ตามล่าตัวในช่วงท้ายการซื้อขายนักฟุตบอล 

ในมุมมูรินโญ่ผมพอเข้าใจได้ครับ เนื่องจากว่า บิ๊กบอสชาวโปรตุกีสของแมนฯยูฯ เป็นคนที่เตรียมพร้อมการซื้อขายนักเตะในฤดูกาลใหม่ๆ ก่อนที่ฤดูกาลนั้นจะจบลงด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละครับใช่ว่าจะมีทุกทีมที่เตรียมความพร้อมได้ดีเท่ากับมูรินโญ่

ที่น่าสนใจคือ เวลานี้ผมยังไม่เห็นเสียงจากฝั่งที่ 'ไม่เห็นด้วย' สักเท่าไหร่ ซึ่งผมขอคาดเดาว่า ท็อตแน่มฮ็อต สเปอร์ส อาจไม่เห็นด้วยกับกฎนี้ เพราะที่ผ่านมาไก่เดือยทองใช้เวลาในช่วงท้ายการซื้อขายหน้าร้อนได้อย่างคุ้มค่ามาก 

ตามความเห็นผมนะครับ คิดว่าการซื้อขายนักเตะควรเสร็จสิ้นก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งผมเห็นด้วยกับประโยคของมูรินโญ่ที่บอกว่า นักเตะคนหนึ่งในสัปดาห์ก่อนเล่นให้กับทีมนี้ สัปดาห์ถัดมาย้ายทีมมาเล่นให้กับอีกทีมหนึ่ง 

ทว่าปัญหามันก็มีอยู่ว่า การซื้อขายหน้าร้อนตามปกติแล้วก็มีเวลาเพียงเดือนสองเดือนเท่านั้น เริ่มจากวันแรกที่นักเตะสามารถย้ายได้อย่างเป็นทางการ คือ 1 กรกฏาคมของทุกปี จนถึง 31 สิงหาคม ซึ่งหากมีการเริ่มใช้กฎใหม่การซื้อขายนักเตะจะเหลือเพียงแค่เดือนครึ่งเท่านั้น ครั้นจะบอกว่า ช่วงเดือนมิถุนายนก็สามารถเตรียมทีมซื้อนักเตะได้นี่นา อันนั้นมันก็ใช่ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า เอาเข้าจริงนักเตะ (และโค้ช) มีเวลาพักผ่อนเต็มๆ แค่เดือนเดียว ก็คือ เดือนมิถุนายนนั่นแหละครับ พอกรกฎาคมก็ต้องเตรียมเข้าแคมป์ฝึกซ้อม เตะปรีซีซันแล้ว ฉะนั้นมิถุนายนก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักในการเจรจาซื้อขาย 

ผมคิดว่า เรื่องนี้ต้องตกผลึกกันอีกมากครับ เช่น การซื้อขายที่สั้นลงกว่าเดิม 15 วัน จะเป็นยังไง ไหนจะต้องคุยเรื่องตลาดซื้อขายหน้าหนาวจะคงเดิมไว้หรือไม่ รวมถึงประเด็นนี้ผมคิดว่า ต้องคุยกับลีกอื่นๆ ด้วยว่าจะนำร่องใช้กฎนี้กันไหม เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบ