มินาโกะสังเกตได้ว่าเช้านี้ยูริไม่สามารถจดจ่อสมาธิกับการซ้อมสำหรับงานกาล่าคืนนี้ได้เลยจะพูดให้ถูกก็คือยูริทำตัวผิดปกติมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว อดีตบัลเลริน่าสาวมองอย่างเป็นกังวลเมื่อเห็นยูริกระโดดพลาดอีกครั้ง ถ้าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ จึงเรียกยูริให้พักโดยไม่ฟังเสียงประท้วงของชายหนุ่มเลย
“เมื่อคืนทะเลาะกับวิคเตอร์ใช่มั้ย”มินาโกะซักยูริทันทีที่อยู่ตามลำพังกันสองคนยูริได้แต่พยักหน้าแกนๆพลางเล่าเรื่องราวที่เขากับวิคเตอร์ทะเลาะกันให้ผู้ที่เขาเคารพเหมือนแม่คนที่ 2 ฟัง
“ผมยอมรับว่าผมอยากได้คำชมเชยจากวิคเตอร์หลังจากทำสไปรัลนั่นได้สำเร็จ...” ชายหนุ่มบีบมือตัวเองบนตักแน่น พลางแค่นหัวเราะ
“ทั้งๆที่ผมอุตส่าห์พยายามเพื่อเซอร์ไพรส์วิคเตอร์ แต่เขากลับไม่ดีใจเลยสักนิดแถมยังต่อว่า เหมือนกับว่าความพยายามของผมมันไม่มีความหมายอะไรเลย จนอดไม่ได้ที่จะมีความคิดแย่ๆ มาว่าที่เขาไม่พอใจเพราะเขาไม่อยากให้ผมชนะเขาหรือเปล่า”
"โธ่เอ๋ย...พ่อคุณของครู” มินาโกะรั้งศีรษะของยูริให้มาซบที่ไหล่ ยูริคงรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้นมากจริงๆ
“ผมเกลียดตัวเองที่มีความคิดแบบนี้แต่ผมห้ามความคิดนั้นไม่ได้” ชายหนุ่มโอบแขนรอบเอวบางของมินาโกะแน่น ไหล่หนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นสั่นเทิ้มราวกับพยายามสะกดอารมณ์ที่กำลังท่วมท้นอยู่ "ผมต้องทำยังไงดีครับ ครูมินาโกะ"
“ฟังนะยูริ...มันไม่ได้มีอะไรผิดหรอกที่เธอจะขัดคำสั่งวิคเตอร์ ถ้าสิ่งที่ทำผลลัพธ์มันออกมาดี มันก็แค่เป็นสัญชาติญาณของนักกีฬาที่อยากจะชนะการแข่งขัน” มินาโกะถอนหายใจยาวพลางลูบศีรษะของยูริเบาๆ
“แต่ความสัมพันธ์ของพวกเธอควรอยู่บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ และความเคารพซึ่งกันและกัน ที่วิคเตอร์ต่อว่าเธอนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะเธอไม่เคารพการตัดสินใจของเขา ที่เธอขัดคำสั่งของเขาก็เหมือนเธอไม่เชื่อใจเขา ถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้เรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของพวกเธอก็จะพังทลายลงไปในที่สุดเธอเข้าใจมั้ย” มินาโกะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลนั้น
“ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยตอนนั้นผมคิดแต่ว่าทำยังไงถึงจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองที่เคยทำเอาไว้ให้ได้” ยูริขยี้ผมสีเข้มของตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด “ให้ตายเหอะ ผมนี่มันโง่จริงๆ เลย”
“เธอไม่โง่หรอกยูริ อีกเหตุผลหนึ่งที่วิคเตอร์ดุเธอก็เพราะเขาแคร์เธอมากยังไงล่ะ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะชนะรายการนี้แต่ถ้าเกิดเธอบาดเจ็บหนักขึ้นมาจริงๆ เธออาจจะหายไม่ทันการแข่งชิงแชมป์โลกก็ได้ซึ่งนั่นหมายความว่าความพยายามของเธอและวิคเตอร์ที่ทุ่มเทมาตลอดทั้งปีก็จะสูญเปล่า"
ยูริร้องร้องโอดหลังจากฟังมินาโกะพูดจบ "แล้วผมจะง้อวิคเตอร์ยังไงดีเนี่ย"
มินาโกะหัวเราะร่วนพลางตบไหล่ "ถ้าเธอยังคิดไม่ตกว่าจะง้อวิคเตอร์ยังไงก็เริ่มซ้อมต่อกันได้แล้ว!"
*****************
ยูริโอะมองวิคเตอร์ที่กำลังโลดแล่นอยู่บนลานน้ำแข็งอย่างเป็นห่วง ทั้งๆที่ตอนนี้อีกครึ่งชั่วโมงก็จะสี่ทุ่มแล้ว หมอนั่นยังไม่เลิกซ้อมอีก
"นี่ก็ค่ำมากแล้วเธอกลับบ้านไปกับลิเลียก่อนเถอะยูริเดี๋ยวฉันจะปิดริงก์เอง" ยาคอฟพยักเพยิดไปที่ลิเลียที่รอเขาอยู่ตรงประตูทางออกเด็กหนุ่มหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาดุจัดของยาคอฟจะทำให้เขายอมทำตามแต่โดยดี
ยาคอฟมองศิษย์เอกที่ไถลสเก็ตอย่างสะเปะสะปะก็ได้แต่ถอนหายใจ แสดงว่ามีเรื่องทุกข์ใจอยู่สินะถึงได้มาระบายกับลานน้ำแข็งแบบนี้
เสียงกระแอมดังขึ้นไม่เบานักทำให้วิคเตอร์หยุดการสเก็ตแล้วไถลสเก็ตมาหาชายผู้เป็นโค้ชที่ข้างริงก์
"แค่นายเป็นแชมป์โลกห้าสมัยก็ไม่ได้หมายความว่านายจะเป็นโค้ชที่ดีได้หรอกนะวิทย่า" ยาคอฟพูดเสียงเรียบพลางยื่นกระบอกน่้ำดื่มให้ชายหนุ่ม
"ท่าทางกรรมจะตามทันผมแล้วสินะ..." วิคเตอร์ถอนหายใจเมื่อนึกถึงบทสนทนาอันเผ็ดร้อนระหว่างเขากับยูริเมื่อเช้า... ชายผมสีแพลตินัมแค่นหัวเราะเสียงขม “บางทีอาจจะจริงอย่างที่คุณเคยด่าผมก็ได้ว่า คนที่คิดถึงแต่ตัวเองอย่างผมจะเป็นโค้ชใครได้ยังไงกัน”
**************************
เพราะดูเหมือนจะมีเรื่องให้คุยอีกนาน ยาคอฟจัึงชวนวิคเตอร์ไปคุยต่อที่สแน็คบาร์ใกล้ๆ ย่านที่พวกเขาอยู่ ซึ่งอีกฝ่ายออกปากว่าจะเป็นคนเลี้ยงเอง
"ยูริเป็นคนที่ขี้ขลาดกว่าที่คิด ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่อ้อนวอนขอให้ผมมาเป็นโค้ชให้เขาแท้ๆ" วิคเตอร์กระดกวิสกี้ดื่มจนหมดแก้ว "แถมดูเหมือนเขาจะไม่เคยเชื่อใจผมเลยสักครั้ง"
ดวงตาสีเขียวของยาคอฟอ่อนแสงลง มือหนาหยาบกร้านของชายชราลูบหลังของศิษย์รักด้วยความเอ็นดู
*****************
เช้าแล้ว...วิคเตอร์ยังคงนอนมองเพดานอยู่บนที่นอน... เพราะยาคอฟสั่งให้เขาหยุด วันนี้จึงไม่ต้องไปที่ริงก์แต่เช้าเหมือนทุกวันที่มีการฝึกซ้อม ชายหนุ่มมองนาฬิกา งานกาล่าของงาน 4CC ที่เกาหลี น่าจะเริ่มราวๆ ช่วงเช้าของที่นี่... คงอีกไม่นานแล้วสินะ
เมื่อคืนทั้งคืนเขาพยายามทำตามที่ยาคอฟบอก เขาหยิบเอาความไม่เข้าใจทั้งหมดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงบัดนี้ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งที่คั่นกลางระหว่างเขากับยูริ
"'คนเราจะเข้าใจคนอื่นได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าใจตัวเอง' อย่างน้อยที่ยาคอฟพูดมามันก็ถูกต้องสินะ" วิคเตอร์แค่นหัวเราะ
หลังจากวางอัตตาของตัวเองลง เขาก็คิดว่าเขาเริ่มที่จะเข้าใจอะไรๆมากขึ้นแล้ว เขายอมรับว่าเขารักยูริจนหมดหัวใจ แต่ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่กล้าพูดออกไปเพราะอัตตา และกลัวที่จะถูกยูริปฏิเสธ เขาจึงเลือกที่จะปล่อยให้ทุกอย่างมันคลุมเครือเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวานที่เขาเห็นยูริสามารถชนะและดัดแปลงฟรีโปรแกรมโดยไม่ต้องพึ่งเขา ซึ่งนั่นไปสั่นคลอนความเชื่อมั่นของเขา ว่ายูริไม่จำเป็นต้องมีเขาคอยเคียงข้างอีกต่อไปแล้วก็ได้
วิคเตอร์ถอนหายใจพลางจ้องแหวนทองบนนิ้ว ไม่ว่ายูริจะรู้สึกเช่นใดกับเขา มันก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไปแล้ว ได้แต่หวังว่าถ้าหากโชคชะตาและพรหมลิขิตมีจริง เขากับยูริคงได้เผยความในใจอย่างหมดเปลือกกันได้เสียที
*****************
เสียงออดหน้าประตูอพาร์ทเมนต์ดังขึ้นถี่ๆ เหมือนมีคนแกล้งกด วิคเตอร์ขมวดคิ้วเรียวอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินไปมองที่จออินเตอร์คอมว่าใครกันที่มากดออดแบบไร้มารยาทแบบนี้แต่เช้า
“อ้าว ยูริโอะเองเหรอ” ชายหนุ่มกดปลดล็อคประตูจากเครื่องอินเตอร์คอม ไม่กี่อึดใจเด็กหนุ่มผมทองก็เดินปึงปังเข้ามาในอพาร์ทเมนต์ของเขา
“คิดยังไงถึงปิดมือถือหา?” ไม่พูดเปล่าเด็กหนุ่มเจ้าของฉายารัสเชียนแฟรี่ (แต่เจ้าตัวอยากให้เรียกว่าไอซ์ไทเกอร์ของรัสเซียมากกว่า) นั่งปุอยู่บนโซฟาแล้วกดเปิดสมาร์ททีวีในห้องนั่งเล่นอย่างถือวิสาสะ
“ต่อให้นายทะเลาะอะไรกับเจ้าคัทสึด้งก็ไม่ควรปิดมือถือสิ ชาวบ้านที่ไหนเค้าจะติดต่อนายได้กัน” แสนรู้จริงนะ.... วิคเตอร์ค่อนขอดผู้มาใหม่ในใจ
“ก็วันนี้เป็นวันหยุดของฉันนี่นา” วิคเตอร์ในชุดลำลองแบบสบายๆ พูดเสียงอ่อนพลางรินนมใส่แก้วให้ยูริโอะ และกาแฟสำหรับตัวเขาเอง “ว่าแต่ที่มาหาฉันแต่เช้านี่มีธุระอะไรเหรอ?”
“ทีวีบ้านลิเลียเสีย แถมวันนี้ฉันได้พักด้วยก็เลยว่าจะมาดูงานทีวีที่บ้านนายแทน” ยูริโอะรับแก้วนมจากวิคเตอร์มาจิบพลางชี้รีโมทไปที่สมาร์ททีวีที่ตอนนี้บนจอเป็นภาพการถ่ายทอดสดรอบนิทรรศการของการแข่งขัน 4CC วิคเตอร์หัวเราะเบาๆ กับความท่ามากของยูริโอะ
"แล้วก็นี่! เพราะนายมัวแต่ปิดมือถือเลยตกข่าวสินะ" คนแก่กว่ารับแท็บเล็ตจากจากยูริโอะมาแบบงงๆ เมื่ออ่านหน้าเว็บเพจที่หน้าจอซึ่งเป็นข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันเมื่อวานนี้ คิ้วสีทองคำขาวขมวดมุ่น เมื่อในเนื้อข่าวย่อหน้าหนึ่งพูดทำนองว่ายูริมีความเสี่ยงที่จะมีอาการบาดเจ็บที่หลัง
"หมอนั่นมันบ้า ทั้งๆ ที่ฉันเคยเตือนแล้วว่าร่างกายหมอนั่นแก่เกินกว่าจะทำท่าแบบนั้นได้ก็ยังจะทู่ซี้ทำ"
"นี่แสดงว่าเธอรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรกเหรอ?" วิคเตอร์ทำตาโตใส่นักสเก็ตรุ่นหลาน ยูริโอะที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดปากออกไปก็ได้แต่ทำไก๋เหมือนเมื่อกี้ไม่ได้พูดอะไร
"เงียบเหอะน่า... งานจะเริ่มแล้ว"
ก่อนที่วิคเตอร์จะได้ซักฟอกยูริโอะไปมากกว่านี้ สัญญาณถ่ายทอดสดเริ่มงานกาล่าพอดี วิคเตอร์มองเด็กหนุ่มข้างๆ อย่างคาดโทษ เอาเถอะ... เห็นแก่ความน่ารักที่วันนี้มาอยู่เป็นเพื่อนเขา เขาจะยกประโยชน์ให้จำเลยไปสักวัน
******************
หลังจากพิธีกรประกาศรายชื่อนักกีฬาและคิวการแสดงของผู้ชนะในแต่ละประเภทเสร็จแล้ว บรรดานักกีฬาทั้งหลายก็พากันกลับเข้าห้องแต่งตัว เพื่อรอการแสดงในคิวของตัวเองตามที่ได้ซักซ้อมกันไว้ เนื่องจากวิคเตอร์ไม่ได้มาด้วยกับเขาในงานนี้ ยูริเลยต้องสเก็ตเพลง Stammi Vicino (Stay close to me) เพียงคนเดียว (จริงๆ ยูริตั้งใจจะสเก็ตเพลงนี้คนเดียวอยู่แล้ว แต่วิคเตอร์อยากสเก็ตคู่กันตอน GPF เฉยๆ)
ที่ห้องแต่งตัวนั้นยูริแชร์ห้องพักกับพิชิต ซึ่งพิชิตได้ที่ 3 ของการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์นี้เขาแพ้เจเจไปแค่ไม่กี่จุดทศนิยมแค่นั้นเอง
"เฮ้ ยูริ หลังนายเป็นยังไงบ้าง" พิชิต จุฬานนท์ ถามอดีตรูมเมทสมัยยังฝึกอยู่ดีทร้อยท์ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอากำปั้นทุบบริเวณบั้นเอวของตัวเองเบาๆ
"ไม่เป็นไรมากหรอก แค่มันตึงๆ เฉยๆ น่ะ" ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าความเจ็บนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเช้าเขาไปหาหมอประจำสนามดูแล้วซึ่งก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงมาก พักแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ก็หาย และห้ามเล่นสเก็ตหรือทำอะไรที่กระทบกระเทือนกล้ามเนื้อที่เจ็บด้วย
แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรต่อ ไอเย็นเฉียบพลันก็ทิ่มแทงเข้ามาที่บั้นเอวข้างหลังพร้อมกับเสียงฟู่ จนยูริเผลอร้องด้วยความตกใจ เมื่อหันไปพบว่าเป็นนิชิโกริที่ในมือมีสเปรย์ลดอาการปวดกล้ามเนื้ออยู่
******************
"ถ้าเจ็บหลังก็ควรจะบอกกันทันทีสิ จะได้ช่วยกันดูอาการ ไม่ใช่อมพะนำแล้วแอบย่องไปหาหมอแบบนี้" นิชิโกริบ่น ก่อนที่จะหยิบแผ่นยาแก้ปวดมาแปะให้ตรงบั้นเอวของยูริที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น "ต่อให้หมอที่นี่บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ฉันว่านายต้องกลับไปให้หมอตรวจที่ญี่ปุ่นอีกรอบก็น่าจะดีนะ"
"ไม่ได้หรอก ฉันยังมีอะไรบางอย่างที่จะต้องทำหลังจากเสร็จงานนี้" ยูริแย้งขึ้นมาทันที
"ธุระอะไรของนายกันวะ สำคัญขนาดที่จะต้องรีบไปขนาดนั้น" นิชิโกริขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "แล้วจะให้ฉันบอกวิคเตอร์เรื่องนี้มั้ย"
"อย่าเพิ่งบอกวิคเตอร์ ฉันจะบอกเขาเอง" ยูริตอบเสียงเรียบก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองเพื่อนวัยเด็กของตัวเองด้วยสายตามุ่งมั่น
"นิชิโกริ.... ฉันมีเรื่องจะปรึกษานาย"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in