เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
thanatransThanawan
[แปล] ซอนอู: "ผมรู้สึกถึงความรักมากที่สุดเมื่อแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา"
  • สัมภาษณ์คัมแบค ENHYPEN ‘MANIFESTO : DAY 1’ 
    2022.07.16

    ต้นฉบับ: ที่นี่
    แปล EN-TH: @ksnmyboi

    ซอนอูดูน่ารักไม่น้อยเลยในระหว่างที่เขาพูดด้วยอารมณ์และความกระตือรือร้นเต็มที่  เขาดูน่ารักไม่ใช่เพียงเพราะแค่สีหน้าและวิธีการพูด แต่มาจากวิธีที่เขามองเห็นความงามของตัวเองและทุกสิ่งรอบตัวเขา
  • เห็นว่าคุณพึ่งเปลี่ยนคติประจำใจเป็น "จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข"

    ซอนอู: ความคิดของผมเมื่อก่อนคิดว่าไม่ว่ายังไงก็ตามแค่ทำงานหนักเพื่อทำตามความฝันและเป้าหมายของตัวเอง แต่พอผมได้มารู้จักผู้คนเยอะขึ้น และได้ขึ้นสเตจตั้งแต่มาเป็นไอดอล ตอนนี้ผมคิดว่าสิ่งที่ผมอยากทำนั้นเป็นจริงแล้ว ผมรู้สึกว่าอยากจะดูแลตัวเองขึ้นมานิดนึง ตั้งแต่เดบิวต์ ผมเลยคิดถึงความสุขของตัวเองมากขึ้น ผมอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเติมเต็มไปด้วยความสนุกมากขึ้นครับ

    สิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขในช่วงนี้คืออะไร? ใน ม็อกบังทัวร์ EN-loG คุณดูมีความสุขมากเลย (หัวเราะ)

    ซอนอู: (หัวเราะ) ครับ พอคิดย้อนกลับไป ผมมีความสุขเพราะได้ลองทำสิ่งใหม่ที่ตัวเองอยากทำ ดังนั้นผมคิดว่านั่นเป็นความสุขแบบหนึ่งที่ผมรู้สึกตอนนั้น และก็ไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกครั้งถึงแม้ผมจะกินแบบเดิม ผมเป็นคนใจไม่แน่นอนที่ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าอะไรที่ทำให้ผมมีความสุขอะครับ ผมเลยอยากหาอะไรทำเพื่อทำให้ตัวเองมีความสุขอยู่ตลอด ช่วงนี้ก็พยายามหาสิ่งใหม่ ๆ สนุก ๆ น่าสนใจทำดู ถึงแม้ผมจะทำงานอยู่ครับ

    บางทีการโพสต์รูปธรรมชาติรอบตัวที่คุณถ่ายเองและไม่พลาดที่จะหาความสุขจากสิ่งเล็กน้อย ก็เป็นวิธีหาความสุขสำหรับคุณเหมือนกัน ตอนคุณไปเยอรมนีก็ทำแบบนั้น และพอกลับมาเกาหลี คุณก็ได้ทำวีไลฟ์อธิบายสิ่งที่เห็นและความรู้สึกของวิวริมถนนที่นั่นอย่างละเอียดเลย

    ซอนอู:
    (หัวเราะ) ยอมรับเลยครับว่าผมตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศ ผมเลยอยากทำทุกอย่างที่ทำได้ที่ผมเอ็นจอยในเวลาสั้น ๆ ครับ ถึงแม้เพลงป็อปทั้งหมดที่เปิดจากเพลย์ลิสต์ผมตอนที่กำลังถ่ายรูปจะดีมาก ๆ แล้ว และวิวก็สวยมากเลยนะครับ นานมาแล้วที่ผมรู้สึกมีความสุขแบบนั้น ผมเลยอยากบันทึกความทรงจำนั้นไว้ ผมทำให้ตัวเองพอใจนะครับ แต่ก็อยากจะแบ่งปันความทรงจำตอนนั้นให้เอนจีนด้วย เพราะผมชอบพูดคุยกับคนอื่นและแบ่งปันความรู้สึกของตัวเองอย่างกระตือรือร้นครับ

    คุณใช้คำว่า "พึงพอใจ" ตอนที่คุณฉีดน้ำหอมก่อนเข้านอน รู้สึกว่าคุณน่าจะเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศมากเลย

    ซอนอู: โอ้! ใช่เลยครับ! ถึงแม้ผมจะไม่ใช่คนที่วางแผนทุกอย่างก่อนเสมอ แต่ผมก็แอบเครียดตอนที่มันไม่ได้เป็นไปตามที่ผมคาดหวัง เอาจริงนะครับ ยกตัวอย่างตั้งแต่สมัยประถม ถ้าผมคิดไว้ตอนเช้าวันนี้ว่าหลังเลิกเรียน ผมจะกลับบ้านมาดูหนัง 1 เรื่องระหว่างกินรามยอน ผมก็จะทำ ตอนนั้นเป็นเวลาสำหรับผมคนเดียว และผมแน่ใจว่าคงสนุกและทำให้ผมมีความสุขได้ ผมเลยใช้เวลาทั้งวันตั้งตารอที่จะทำมันและรู้สึกว่ามั่นใจที่จะทำด้วย อะไรแบบนั้นครับ ผมพึ่งรู้ว่าเหตุผลที่ผมตามหาความสุขก็เพราะว่าผมรู้ว่าตัวเองมีความสุขแค่ไหนเมื่อทำสิ่งที่ต้องการครับ
  • เหมือนนั่นเป็นวิธีฝึกรักตัวเองของคุณเลย น่าทึ่งมากที่คุณมักจะคอยสังเกตและชื่นชมใบหน้าตัวเองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความน่ารักทุกครั้งที่ทำวีไลฟ์ (หัวเราะ)

    ซอนอู: ที่จริงก่อนผมเดบิวต์ ผมคิดว่าตัวเองสดใสที่สุด หล่อที่สุดในโลกนะครับ (หัวเราะ) ผมรักใบหน้าของตัวเองมาก จนชอบดูตัวเองในกระจกและรู้สึกพอใจกับตัวเองตอนนั้นมากเลยครับ แต่ก็ไม่ได้ทำบ่อยมากเท่าเมื่อก่อนแล้ว ทั้งสิ่งรอบตัวทั้งรูปลักษณ์ของผมเปลี่ยนไปตั้งแต่เดบิวต์ เป็นงานของผมที่ต้องได้พบเจอกับคนมากมายและอยู่บนหน้าจอ ผมเลยต้องดูดี และทำตัวให้เฟอร์เฟกต์ แต่บางทีผมก็คิดว่าใช้ชีวิตตามมาตรฐานตัวเองไม่ได้นะครับ


    คุณรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากตั้งแต่เดบิวต์แรก ๆ เลยเหรอ?

    ซอนอู: ผมคิดว่าจริงที่รายการไอแลนด์จบไปเมื่อ 2 ปีก่อนนั้นบอกทุกอย่างแล้วครับ ชัดเจนว่าทุกคนเปลี่ยนแปลงกันไปหลังจากที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ผมเองก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเยอะมากเหมือนกันครับ ตอนนั้นผมยังใหม่กับทุกสิ่งเลย ดังนั้นผมก็จะพูดแค่ "แน่นอน!" "โอเค" "ได้เลย!" แต่ตอนนี้ผมแบบ "โอเค เข้าใจแล้ว" ผมว่าเสียงตัวเองก็เปลี่ยนไปทางนั้นด้วยครับ รู้สึกว่าเสียงตัวเองต่ำลงมาก แต่ถึงแม้เสียงจะเปลี่ยนไป ผมก็ยังร้องไฮโน้ตและร้องเพลงได้หลายแบบเลย น่าทึ่งไหมล่ะครับ?

  • คุณสามารถดูอัลบั้มเป็นบันทึกการเติบโตและสิ่งที่คุณเปลี่ยนไปในช่วงนั้นได้เหมือนกันนะ

    ซอนอู: ผมก็เคยคัดตัวคอนเซ็ปต์เอ็มวีของแต่ละอัลบั้มออกมาคิดทุกอย่างเกี่ยวกับมันนะครับ วางแผนเฉพาะเลย แบบว่าจะทำอันนี้ตรงนี้ จะโชว์อันนั้นตรงนั้น แต่อัลบั้มออกมาคนละช่วงเวลา ดังนั้นลุคของผมเลยเปลี่ยนไปโดยธรรมชาติครับ และสุดท้ายผมก็ต้องเปลี่ยนไปสักทางอยู่ดีไม่ว่าผมจะต้องการหรือเปล่า แทนที่จะตั้งใจหาอะไรมาแสดงให้ดู ผมก็เป็นตัวของตัวเองและได้เห็นพัฒนาการของตัวเองมากขึ้นด้วยเมื่อได้ย้อนมาดูอีกครั้ง ตอนที่ผมถ่ายงาน ผมเลยพยายามไม่คิดมากว่าสิ่งที่ผมอยากแสดงอะไรให้เห็นมากที่สุดคืออะไร และผมก็หวังว่าเอนจีนจะมองมาที่ผมและคิดว่า โอ้ ซอนอูตอน 16, 17,18 เป็นแบบนี้นี่เอง

    พูดถึงท่อนพรีคอรัสของเพลงไตเติลใหม่ “Future Perfect (Pass the MIC)" ที่เป็นเสียงคุณ วิธีที่คุณแสดงออกมา คิดว่าวิธีที่คุณตีความและแสดงออกมาคงเป็นสิ่งสำคัญมากเลย

    ซอนอู: เอาจริงนะครับ ท่อนนั้นเป็นไฮไลต์เลย (หัวเราะ) แต่ตอนอัดเสียงยากมาก มีท่อนแรปยาวก่อนท่อนนี้ แล้วจู่ ๆ ก็ บูมม จังหวะช้าลง โน้ตก็...อธิบายยากอะครับ และท่อนนั้นก็เป็นท่อนที่ปล่อยให้อารมณ์ไหลไป ดังนั้นเลยการเรียนรู้ทักษะที่ต้องใช้เลยยากนิดนึงครับ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำเพลงแนวนี้ด้วย ไม่คุ้นชินเท่าไหร่ แต่ผมก็ฝึกซ้อมตลอดและรู้สึกถึงมันผ่านร่างกาย ตอนนี้ผมคิดว่าอารมณ์และสไตล์ของผมก็ค่อย ๆ แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว มีอีกหลายท่อนที่ผมต้องเติมเต็มผ่านการแสดงทางสีหน้าท่าทาง แต่นั่นก็เป็นความสามารถพิเศษของผมครับ (หัวเราะ) ผมศึกษาตัวเองในกระจกบ่อย ๆ อีกครั้ง ตั้งใจทำท่าทาง ส่งสายตา แสดงออกทางสีหน้าพร้อมกับถามตัวเองไปด้วยว่าทำแบบนี้ถูกแล้วหรือยัง และถ้าผมทำถูกแล้ว ผมก็หวังจริง ๆ ว่าเอนจีนจะชอบนะครับ

    รู้สึกว่าได้ยินเสียงคุณสื่ออารมณ์ตอนที่ได้ฟังเพลงอื่นในอัลบั้มด้วย ได้ยินว่าฝึกร้องเยอะเลย
    ซอนอู: ผมฝึกหนักเฉพาะช่วงโปรโมตอัลบั้ม ผมอยากจะร้องเพลงที่ผมชอบได้ดี ๆ ครับ ผมเลยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะร้องเพลงทั้งเพลง แล้วก็ไปอัดเสียง ตอนนี้ขอบคุณสิ่งที่ตัวเองทำไปครับ ผมทำในสิ่งที่ผมทำไม่ได้ในตอนแรก ทำให้ตอนนี้ผมร้องเพลงได้หลายช่วงเสียงตอนอัดเสียงเลยครับ

    สิ่งคุณตื่นเต้นที่สุดในช่วงโปรโมตนี้คืออะไร?

    ซอนอู: พวกเราเดบิวต์ในช่วงโรคระบาด เราก็เลยไม่ได้สัมผัสถึงความรัก กำลังใจ การสนับสนุนที่มาจากผู้คนมากมาย ตอนนี้ผมได้สัมผัสความตื่นเต้นที่ได้เจอผู้คน 40,000 คนในเยอรมนีแล้ว ผมตั้งตารอมากที่จะได้สัมผัสประสบการณ์นี้อีกครั้งจากเอนจีนและผู้ชมท่านอื่น ช่วยให้ผมได้แสดงด้านใหม่ ๆ ของตัวเองทั้งหมดเลยครับ (หัวเราะ)

  • ​เป็นที่แน่นอนว่าคุณมั่นใจมากในเสน่ห์และความสามารถที่นอกเหนือจากสิ่งที่คุณทำได้ตามธรรมชาติด้วย มีคอมเมนต์นึงในวีไลฟ์พูดถึงตอนคุณเป็นเอ็มซี และคุณบอกว่า "ผมพร้อมที่จะทำ ผมทำได้ทุกอย่างครับ เพราะนั่นคือตัวผม"


    ซอนอู: 
     สิ่งสำคัญเลยคือผมรู้จักตัวเองดีครับ ผมรู้ทุกสิ่งที่ผมชอบ ผมอยากทำอะไร สิ่งที่ให้พลังผมคืออะไร จะก้าวไปลุคที่เท่กว่าเดิมได้ยังไง และขอบคุณสิ่งนั้น ผมเลยพร้อมที่จะทำทุกอย่างอยู่ตลอด สิ่งที่เป็นข้อยกเว้น มีครับ คือผมไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกที่ผมจะรู้สึกในแต่ละวันได้

    ปกติคุณชอบบทบาทไหนเหรอ? ตอนที่คุณเป็นกรรมการในตอนโต้วาทีรายการ EN-O’CLOCK ที่คุณมีความสุขมากจนตะโกนว่า "โอ้ เย้! กรรมการ!"

    ซอนอู: สิ่งนี้อาจจะดูเซอร์ไพรส์ แต่ผมสนใจที่จะเป็นคนที่ดูแลคนอื่นมากกว่าที่ผมคิดครับ (หัวเราะ) ตลกดี ใช่ไหมครับ? (หัวเราะ) บางคนมองผมแล้วคิดว่าผมยังอายุน้อย เหมือนเด็กเลย แล้วก็แค่น่ารัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ผมแน่นอนครับ แต่ผมอยากเป็นศูนย์กลางเผยแพร่อิทธิพลให้กับคนอื่น เพราะหลายคนก็จะต้องการผม มองหาผม ซึ่งนั่นทำให้ผมภูมิใจครับ และผมสามารถพูดได้ว่า "อ่าฮะ! คุณต้องการผม และผมก็จะช่วยในสิ่งที่คุณต้องการทั้งหมด!" และก็ช่วยพวกเขาครับ แน่นอนว่าผมรู้สึกว่าได้รับการเติมเต็มอย่างไม่น่าเชื่อที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ดังนั้นผมแทบไม่ค่อยจะปฏิเสธใครเลยที่มาขอความช่วยเหลือจากผม แถมบางทีผมก็เศร้าถ้าเขาไม่มาขอให้ผมช่วยอะครับ (หัวเราะ)

    คุณได้บทบาทสำคัญในรายการ EN-O’CLOCK ตอนที่ทำ EN-CAFE การที่รับฟีดแบ็กเรื่องเครื่องดื่ม รอต้อนรับลูกค้า ดูแลสิ่งต่างที่กำลังเกิดขึ้นและสิ่งอื่น ๆ ที่เมมเบอร์บอกให้ทำ คิดว่าชัดเจนแล้วว่าวิธีที่คุณพูด วิธีที่คุณปฏิบัติที่มาจากความใจดี ความร่าเริง และการที่คุณใส่ใจในรายละเอียดนั้นเป็นสิ่งสำคัญในบทบาทในวงของคุณเลย

    ซอนอู: ขอบคุณมากเลยนะครับที่เห็นตรงนั้น (หัวเราะ) ผมชอบมากที่จะได้เจอผู้คนใหม่ ๆ หาสิ่งใหม่ ๆ น่าสนใจทำ ซึ่งผมเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบและเข้าใจผู้คนกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีเลยครับ (หัวเราะ) ผมเองก็อยากลองทำงานพาร์ทไทม์มาตลอด โดยเฉพาะที่คาเฟ่ครับ ทำให้ผมตั้งใจทำและทำได้ดีด้วย ผมชอบม๊ากมากเลยครับ

  • ดูเหมือนคุณจะสนุกที่ได้เป็นดีเจรายการวิทยุเพื่อสื่อสารกับเยาวชน EBS Listen [หมายเหตุ: สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน]

    ซอนอู:
     ครับ ผมรักเลยครับ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้มาเป็นดีเจรายการวิทยุ แต่ตอนนี้ได้ทำแล้ว สนุกมากเลยครับ แต่ผมก็คิดว่ายากนิดหน่อยที่จะเป็นดีเจที่ดีของแขกรับเชิญ ผมต้องรู้จักว่าพวกเขาเป็นแบบไหน บุคลิกนิสัยเป็นยังไง ผมจะได้ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ และหลายสิ่งที่เปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับพวกเขาตอบคำถามผมยังไง แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่ผมต้องใส่ใจรายละเอียด ผมเลยเข้าใจการที่คุณต้องสัมภาษณ์ตอนนี้ครับ (หัวเราะ) ไม่ง่ายเลยที่ต้องหาข้อมูลผู้คนให้เพียงพอที่จะเอามาถามคำถามดี ๆ ได้เช่นกันครับ

    คุณใส่ใจคนอื่นเก่งมากเลย แล้วในทางกลับกัน คุณต้องการอะไรจากความสัมพันธ์ที่คุณมี การพูดด้วยอารมณ์เหรอ?

    ซอนอู:
     ผมแสดงออกทุกอย่างตามที่ผมรู้สึกครับ แบบว่าถ้าผมชอบอะไรสักอย่าง ผมก็จะพูดว่าผมชอบ ถ้าไม่ชอบ ผมก็จะบอกว่าไม่ชอบ ตอนผมมีความสุข ผมก็จะแสดงให้เห็นว่าผมมีความสุข อร่อยหรือไม่อร่อย ผมบอกหมดเลยครับ แต่การที่ผมชอบแสดงออกมาโดยตรง ผมรู้สึกถึงความรักมากที่สุดครับโดยเฉพาะเมื่อแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้นครับ เลยเป็นเหตุผลที่ผมชอบคนที่มีรีแอคชันเยอะ ๆ ครับ ทางกลับกัน ถ้าผมเห็นคนที่ไม่ค่อยมีรีแอคชันกับอะไรเท่าไหร่ ผมก็สงสัยครับว่าทำไมเขาถึงไม่รีแอค แล้วก็เข้าหาเขาก่อนเลยครับ (หัวเราะ)

  • บอกได้เลยว่าการที่มีแฟนคลับนั้นสำคัญกับคุณมาก ๆ เช่นเดียวกับการที่คุณได้รับความรักและความสนใจจากพวกเขาด้วย

    ซอนอู:
     ใช่เลยครับ! ผมอยากได้รับความสนใจจากคนอื่นเยอะ ๆ ครับ เลยเป็นเหตุผลที่ผมขอบคุณทุกคนที่มาหาในแฟนไซน์หรือคอมเมนต์ในวีเวิร์สหรือโซเชียลมีเดียอื่น ผมรู้ดีว่าการแสดงความรักและความสนใจของคุณให้ใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะช่วงนี้ ผมเลยคิดว่าทำการแสดงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ จะทำให้เอนจีนรู้สึกแบบนั้นต่อไป เป็นเรื่องดีสำหรับผมและเอนจีนเหมือนกัน ผมคิดว่าความสัมพันธ์ไอดอลกับแฟนคลับเป็นอะไรที่ดีต่อกันทั้งคู่ครับ ผมหวังว่าจะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้กับเอนจีนให้ได้นานที่สุด จนในอนาคต เราสามารถเจอกันริมถนนและแค่พูดว่า "เป็นยังไงบ้าง? มีอะไรกินหรือยัง? ผมจะไปทางนี้ แล้วคุณจะไปไหน?" แบบเป็นเพื่อนกัน ธรรมดา ๆ ครับ (หัวเราะ)

    คุณบอกว่าคุณฝันอยากเป็นไอดอลเพราะคุณชอบตอนที่คนอื่นสนใจคุณ แล้วคุณเอ็นจอยกับการเป็นไอดอลไหม?

    ซอนอู:
     มองจากภายนอก คุณจะเห็นแต่ด้านสวยงามของไอดอลเวอร์ชันที่สมบูรณ์แล้วครับ เป็นซูเปอร์สตาร์ที่เปล่งประกาย เต้นอยู่บนเวทีอย่างดุดัน ผมก็เคยมองแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่พอได้มาลองเป็นเอง ผมถึงได้รู้ว่าไม่มีอะไรง่ายแบบนั้นเลย ถ้าให้ผมพูดตามจริง ผมมีความสุขอยู่ตลอดเวลาไม่ได้นะครับ ผมมีสิ่งที่กังวลอยู่อีกเยอะ แต่เหตุผลทั้งหมดที่ผมยังยืนหยัดและเดินหน้าต่อไปเพราะผมเห็นอนาคตอันน่าทึ่งรออยู่ข้างหน้า ผมมั่นใจเรื่องนี้มาก ผมไม่เคยเสียดายหรือมีสิ่งที่อยากได้คืนมา จะมีอนาคตที่ไม่ดีรอผมอยู่ไหมถ้าผมทำงานหนักขนาดนี้? ผมสงสัยว่าก็เป็นไปได้นะครับ (หัวเราะ) อนาคตจะต้องน่าทึ่งอย่างแน่นอน ผมจะทำให้ได้ครับ

    ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ คอมเมนต์ติ-ชมได้เลยตามสบายนะคะ เราตามอ่านทุกคอมเมนต์เลย
    ขอบคุณมาก ๆ ค่าาา แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะคะ♥
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
trainee_stan (@trainee_stan)
ขอบคุณที่แปลให้นะคะ????
Thanawan (@tthanawan_pr)
@trainee_stan ขอบคุณมาก ๆ เช่นกันนะคะ ?‍♀️?‍♀️