เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
everyday 99Immie Borwornwiwat
เคยคิดไหมคนเราเกิดมาทำไม
  • เคยคิดไหมคนเราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร มีจุดประสงค์อะไร ทำไมดูเหมือนทุกคนเกิดมาพร้อมเป้าหมายในชีวิต? คาดหวังที่จะทำบางอย่างทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดทั้งปวงทำไปเพื่ออะไร มันเป็นสิ่งที่ฉันคิดอยู่ตลอดเวลา ไม่เข้าใจมนุษย์เราเอาเสียเลย แถมยังไม่เข้าใจตนเองเสียด้วย

    เอาจริงๆฉันไม่รู้ฉันเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่ออะไรด้วยซ้ำ แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันถ่ายทอดออกมาได้ดี

    ไม่เคยรู้ว่าจบมาแล้วอยากทำงานอะไร อยากมีชีวิตอย่างไร ไม่เคยคาดหวังถึงอนาคตอันยิ่งใหญ่หรือมองหาความฝันอย่างใครๆ รู้สึกเพียงปัจจุบันนั้นน่าเบื่อ มันซ้ำไปซ้ำมา วกวน จำเจ ...ถ้ายังเรียนอยู่ วันๆก็คงแค่ไปเรียน กลับบ้าน นอน ไปเที่ยวบ้าง แต่ก็กลับมานอนแล้วเริ่มวันใหม่อย่างเดิม ถ้าทำงาน... ก็ตื่นเช้าไปทำงาน กิน กลับบ้าน นอน วน วน วน เป็นวัฎจักรที่น่าเบื่อไม่ต่างกัน

    ร้อยทั้งร้อยของมนุษย์เป็นแบบเดียวกัน

    ร้อยทั้งร้อยของมนุษย์ คาดหวัง

    และร้อยทั้งร้อยนั้นมองไปที่อนาคต

    มันน่าขันนะ... หลายครั้งฉันนั่งเฉยๆในที่สาธารณะสักแห่ง ทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน และเฝ้ามองแต่ละคนที่เดินผ่านไปมา... ฉันเห็นอารมณ์ของพวกเขา ความรู้สึกของพวกเขา ความคาดหวังและเป้าหมายของพวกเขา เด็กคนหนึ่งเดินเร็วผ่านหน้าฉันไป หอบหนังสือกวดวิชาไว้ที่อก เป้าหมายของเขาคือการทำเกรดดีๆ และในขณะเดียวกัน ตัวของเขาก็กำลังเป็นความคาดหวังของพ่อแม่ของเขา

    มานั่งคิดๆ ดู ถ้าเขียนได้แบบนี้แล้วพูดได้แบบนี้ด้วยคงจะเท่น่าดู

    ความจริงการมโนว่าตัวเองเป็นนักเขียนก็คือนักพูดนะ

    นักเขียนเปรียบเสมือนผู้พูดคนหนึ่ง สำหรับผู้พูดนั้น ในบางครั้งการกล่าววาจาอาจไม่ได้ใคร่คิดให้ดี ในขณะที่นักเขียนต้องพิจารณ์ครั้งแล้วครั้งเล่ากว่าจะปล่อย ‘คำพูด’ ของตนสู่สายตานักอ่าน การเป็นนักเขียน เราสามารถถ่ายทอดความคิดความอ่านหรือจินตนาการได้ดั่งนักเล่าเรื่อง หากแต่นักเล่าเรื่องหรือนักพูดอาจต้องกล่าวถ้อยคำเดิมให้ผู้ฟังนับครั้งไม่ถ้วน  ในเวลาที่ต่างกัน ในวันที่ต่างกัน ขณะนักเขียนสามารถตีแผ่เรื่องราวและถ้อยคำของตนได้ในครั้งเดียว นักเขียนเป็นเหมือนคนดูข้างสนาม สนามที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เรื่องราวฟาดฟันกันมากมาย แต่เราไม่เพียงดูเฉยๆ เราเก็บเกี่ยวเรื่องราวและบ่มเพาะออกมาเป็นถ้อยคำที่สามารถเผยแพร่ให้คนที่ไม่ได้ดูสามารถเข้าใจความเป็นไปในสนามได้

    การพูดสิ่งมีคุณค่าอาจใช้เวลาเพียงสิบนาที แต่การเขียนเพื่อให้ผู้คนอ่านเพียงสิบนาทีอาจใช้เวลาเป็นเดือน ไม่เพียงแค่เราได้ไตร่ตรองความคิดตนตลอดเวลา แต่นักเขียนที่ดีนั้นจะรับความคิดของคนอื่นมาไตร่ตรองด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือ บางครั้งคำเขียนไม่เพียงแต่ให้ความเพลิดเพลินหรือแสดงทัศนคติ แต่อาจจะให้ผู้อ่านได้มองเห็นอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาได้มองโลกกว้างขึ้นและเพิ่มขึ้นอีกมุม โดยส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวัน ความคิด หรือคุณธรรม

    ฮั่นน่อว... พูดจาดีมีสาระกับเขาก็เป็นนะคะเรานี่

    แต่จริงๆ ไม่ต้องยัดความคิดอะไรมาให้ฉันหรอก เกรงใจว่ะ ไม่รับ

    แถมบางทีเขียนอะไรไปแล้วก็ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้เหมือนกันเนอะ

    เช่นข้อความที่ส่งคุยกันในไลน์ไง

    มันน่าจะมีปุ่ม Undo ก่อนที่อีกฝ่ายจะอ่าน อะไรแบบนี้

    เขาว่ากันว่า...

    ยิ่งคุณไขว่คว้าตามหาความสุขมากเท่าใด คุณจะไม่มีวันพบเจอมัน

    นั่นเพราะส่วนใหญ่ความสุขมักเกิดขึ้นกับสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวคุณ

    ไม่ใช่สิ่งที่คุณพยายามชะเง้อมองหา

    นักจิตวิทยาบอกว่าถ้าคุณอยากนอน ไม่อยากทำอะไร

    ส่วนหนึ่งนั่นหมายถึงคุณกำลังรู้สึกเศร้า

    ไม่แน่อาจมีคนมากมายกำลังเศร้าอยู่

    นี่ไม่ได้กวนตีนนะ บางทีคนเราต้องสำรวจใจตัวเองลึกๆ ว่าเรากำลังเศร้าอยู่หรือเปล่า


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in