อาทิตย์นี้มีวันหยุดยาวตั้งแต่วันเสาร์ถึงวันนี้ จริงๆถ้าตามปฏิทินนิวซีแลนด์คือถึงแค่เมื่อวานแต่วันนี้โรงงานแถมให้ เพราะเป็นวันชดเชยวันปีใหม่จีน ก่อนหน้านี้จองคิวสอบใบขับขี่รถยนต์ไปแล้ว ได้ฤกษ์สักที ตั้งแต่ปีที่แล้วที่โดนคุณตำรวจสาวสุดสวยปล้นใจก็ยังไม่ได้ไปทำสักที จนเอาหว่ะ มันต้องทำแล้วหล่ะ จัดการจองเสร็จสรรพ ก็คือได้คิวประมาณกลางเดือนนี้ อะพอมันมีวันมากำหนดแบบชัดเจน ก็เริ่มเหมือนมีตัวกระตุ้น ตั้งแต่เมื่อคืนก็คือหาอ่าน หาดูวิธีการต่างๆว่าจะเป็นแนวไหนอะไรยังไง เอาจริงเราไม่ได้เป็นคนขับรถเก่งอะไรก็แค่ขับได้อาศัยขับมานานกับการชินเส้นทาง และเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไรเลยเวลาขับรถ ไม่อยากจะพูดคำนี้เลยว่าก็ประเทศไทยอะเนอะ มันไม่ใช่แค่เราขับดีละรอดไง คือแบบเพื่อนร่วมทางเอ้ย อะไรเลย ต้องแม่งมานั่งเดาใจกันอีก เรียกว่าอะไรดี กฏในการใช้ถนนกับผู้คนที่ใช้ถนนมันไปคนละทางกันเลย เอาจริงแค่ข้ามจังหวัดการขับขี่คือต่างกันแล้ว ไม่มีนะคำว่ามาตราฐานเดียวกัน
พอเรามาถึงนี่ยิ่งไปกันใหญ่ คือคนส่วนมากทำตามกฏแบบเคร่งมาก และเรามาจากเมืองแบบ ไปก่อนเลยจ้าววว ไม่ได้สนใจว่าตามกฏหมายใครควรให้ทางใคร ความเอื้อเฟื้อของคนเหนืออะเนอะ แต่พอมีที่นี่ไม่ได้ไง จะมาไปก่อนเลยจ้าววว ไม่ดูสี่ดูห้าไม่ได้ ต้องทำตามกฏถึงแม้ว่าเราอยากจะเป็นผู้หญิงใจงามยอมให้คนทางซ้ายมือไปก่อนมากแค่ไหนก็ตาม คือเอาจริงปรับตัวเยอะมากพอสมควรกับการขับขี่และยังติดนิสัยขับขี่แบบไทยมาใข้ที่นี่อยู่เลย
พอยิ่งอ่านยิ่งหาข้อมูลในเน็ต มันยิ่งแบบอยากลองของอยากลองขับอะ อยากมีคนนั่งไกด์ข้างๆแบบคอยบอกเทคนิคไม่ก็ข้อผิดพลาดที่เราทำ และสิ่งที่ไม่ควรทำต่างๆ เราจะได้เอาไปแก้ไขนู้นนี่ เพราะถ้าเป็นไปได้ก็อยากผ่านตั้งแต่รอบแรก แต่เท่าๆที่อ่านมาคือน้อยคนมากที่จะผ่านตั้งแต่ครั้งแรก โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เอาใบขับขี่ของชาติตัวเองมาสอบเทียบแบบเรา (ปล.อันนี้คือเรียกว่าปลอบใจตัวเองล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ได้ไปสอบ55555555555555) ก็เลยเช้านี่ทำให้เกิดการอยากหาคอร์สสั้นๆ สักชั่วโมงสองชั่วโมงให้ได้ลองสนามดู และการค้นหาติวเตอร์ของเรานั้นก็ทำให้เราเจอเรื่องฮาๆสไตล์เราอีกแล้ววววว
พอคิดได้ว่าหาคอร์สดีกว่าก็เข้ากูลเกิลเลยค้นหา "โรงเรียนสอนขับรถในโอ๊คแลนด์ " ขึ้นมาเยอะพอสมควร ไม่รู้อะไรดลใจคลิกไปที่เวปนี้อ่านๆดูเออน่าสนใจน่าเชื่อถือดูเป็นมืออาชีพดีนะ ลองโทรหาดีกว่า ด้วยความที่เราใจร้อนด้วยอยากจะจองวันนี้เรียนวันนี้เลย พอได้คุยกับคุณลุงก็บอกว่าได้เลยวันนี้ประมาณสามโมงครึ่งนะ บลาๆๆ เราโทรหาตอนประมาณสิบเอ็ดโมงก็หาอะไรทำฆ่าเวลาไปจนสามโมงครึ่ง ลุงโทรมาหาบ้านไม่เจอ ตอนนี้ลุงอยู่หน้าร้านเบเกอรี่เราเลยบอกอ่อใกล้บ้านเลยเดี๋ยวหนูออกไปยื่นรอหน้าบ้าน
จังหวะแรกที่เห็นเลยคือ รถคือรถปกติ มันควรจะเป็นรถแบบที่มีสติกเกอร์ติดแบบโรงเรียนสอนขับรถทั่วไปไม่ใช่หรอหว่ะ อีกใจก็เอาน่าอย่าด่วนตัดสินแค่เพราะรถไม่มีสติกเกอร์ พอลุงจอดรถและลงจากรถมาเจอเรา มึงคำว่า frist impression เพิ่งเข้าใจลึกซึ้งก็วันนี้เลย ลุงใส่เสื้อกล้ามสีขาวฟิวเสื้อตราห่านบ้านเราที่ผ่านการซักล้างมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยที กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ จังหวะนั้นเลยใจคิดแบบเอาแล้วววกุเสียเงินเปล่าแน่ๆ ลุงถามจะใช้รถเราหรือรถลุง เราเลยบอกใช้รถตัวเองจะได้ชินมือ ลุงได้ๆงั้นขอเตรียมกระดาษก่อน จังหวะลุงก้มหาของในรถตัวเอง กกน สีดำก็โผ่ลมาทักทาย มันจะเป็นเรื่องปกติมากๆถ้ากกนนั้นไม่ใช่จีสติง
ตัดภาพมาตอนขับเลย ลุงก็ให้ขับไปตามถนน เราเลยบอกเราสอบที่ศูนย์นี้ๆนะ ปกติเค้าพาไปสอบขับเส้นไหนหรอ ลุงบอกจำไม่ได้อะ แต่ไม่เป็นไรขับเส้นไหนก็เหมือนกันเนอะ................... มันไม่เหมือนกันโว้ยยยยคืออยากรู้ว่าเค้าสอบเส้นไหนจะได้ไปฝึกเส้นนั้นเอาให้ชินทาง หลังจากนั้นคือสติไม่มีละ ฟิวใจมันฟ่อไปแล้ว เราจองแค่หนึ่งชั่วโมง แค่แม่งรู้สึกว่าเป็นหนึ่งชั่วโมงที่ยาวนานมากกกกกกก พอใกล้จะครบชั่วโมงเราเริ่มยิ้มได้ในใจ พร้อมกับปากบอกว่าเลี้ยวขวาเลยนะ คือเส้นกลับบ้าน ลุงบอกไม่ๆเลี้ยวซ้ายลุงแถมให้ยี่สิบนาที
...............................................
ไม่ต้องมาถงมาแถมมมมมไม่เอาววววว อันนั้นคือพูดในใจแต่มือคือสาวพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายอยู่ หลังจากความทรมานนั้นสิ้นสุดลง คุณลุงก็ได้ให้กระดาษที่ลุงเขียนด้วยลายมืออันสวยงามบนกระดาษรีไซเคิล เนื้อหาในกระดาษนั้นคือสิ่งที่เราอ่านเจอจากในเวปกรมการขนส่งเหมือนกันเกือบทุกประการแต่เป็นเนื้อหาที่ผ่านการสรุปเอามาแต่ใจความสำคัญ และนามบัตรสุดคลาสสิก ที่ฉีกให้เราด้วยความเอ็นดู
ก่อนจากกันเราเลยบอกว่า I hope not to see you again
ลุงทำหน้าเสียๆบวกงงๆ ลุงไม่เก็ทมุข เลยรีบอธิบาย It means I'm failed that's why we have to meet again
ลุงขำ Ok Darling then hope not to see you again but keep my business cards just in case
ปล.แต่ลุงไมได้แย่เลยนะในเรื่องของการสอนว่าควรขับอะไรยังไงตรงไหนบ้างที่ควรเน้นย้ำ คือลุงแกก็เต็มที่เท่าที่ลุงจะทำได้ แต่ด้วยความที่เราคาดหวังว่าลุงจะต้องดูเป็นมืออาชีพกว่านี้ และเวลาชั่วโมงเดียวบวกกับเรากำลังเสียสติกับการแต่งกายของคุณลุงนั้น มันเลยให้ความรู้สึกว่าไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร นอกจากกระดาษและนามบัตร (ขอขยี้อีกทีมันตรึงตาตรึงใจจริงๆ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in