เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (3)Chaitawat Marc Seephongsai
เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก By Little Thoughts
  • รีวิวเว้ย (1434) เวลาที่สื่อหรือสถาบันจัดอันดับออกมาจัดอันดับ "เมืองน่าอยู่" หรืออีกหลากหลายเมืองที่แล้วแต่สถาบันจัดอันดับจะแสวงหาตัวชี้วัดต่าง ๆ มาใช้งาน เราจะพบว่ากรุงเทพมหานคร มักจะติดอันดับเมืองในอันดับต้น ๆ อยู่ด้วยเช่นกัน หากแต่อันดับที่ติดนั้นโดยส่วนมากเป็นอันดับของเมืองน่าเที่ยว เมืองน่าทำงาน และอีกสารพัดเมืองหากแต่ดันไม่ใช่ "เมืองน่าอยู่" อาจจะด้วยความที่กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่รวมเอาแหล่งงาน แหล่งการศึกษา และอีกหลายกิจกรรมทางสังคมเศรษฐกิจมาบีบและอัดเอาไว้ด้วยกันในเมือง ทำให้กรุงเทพกลายเป็นเมืองลูกผสมของหลากหลายกิจกรรมและหลายกิจกรรมเหล่านั้นก็ถูกให้ความสำคัญและความสนใจ มากไปกว่าการทำให้กรุงเทพมหานครเป็น "เมืองน่าอยู่" น่าประหลาดใจที่หลายคนก็ดูจะไม่ได้สนใจและใส่ใจกับประเด็นเรื่องของความเป็นเมืองน่าอยู่ของกรุงเทพสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่แล้วมุ่งเน้นความสำคัญไปที่เรื่องของกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าที่จะคิดคำนึงถึง "คุณภาพชีวิต" ที่เมืองหนึ่งเมืองจะมอบให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองได้ น่าเสียดายทั้งที่กรุงเทพเองมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาไปสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่ หากแต่ความซับซ้อนและการซ้อนทับกันของปัญหาและขอบเขตอำนาจในเชิงพื้นที่ ทำให้กรุงเทพกลายเป็นทุกเมืองที่เป็นได้ จะขาดไปก็เพียงการเป็นเมืองที่ "น่าอยู่สำหรับทุกคน"
    หนังสือ : เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก
    โดย : Little Thoughts
    จำนวน : 160 หน้า
    .
    "เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก" หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า "The Other Cities" หนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองที่ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง หากแต่ทุกเมืองมีจุดร่วมกันอย่างหนึ่งตรงที่เมืองทุกเมืองที่ปรากฏอยู่ในเล่มของ "เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก" เป็นเมืองที่ถูกออกแบบให้คิดถึงคนที่อยู่ในเมืองเป็นสำคัญ และวางแผนการพัฒนาเมืองเพื่อให้สอดรับและตอบรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในเมือง โดยไม่ละเลยเรื่องของสิ่งแวดล้อม ประวัติศาสตร์ ผู้คนในเมือง และเมืองที่อยู่ใน "เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก" ได้แสดงให้เห็นถึงความไม่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นสิ่งอื่นที่เมืองแห่งนั้น ๆ ไม่ได้เป็น
    .
    เนื้อหาของ "เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก" บอกเล่าเรื่องราวของเมืองทั้งสิ้น 10 เมือง ผ่านเรื่องราวและเรื่องเล่าทั้งจากอดีตของเมือง ปัจจุบันของเมืองและอนาคตของเมือง ที่เปลี่ยนแปลงเมืองหนึ่ง ๆ ให้กลายเป็นเมืองที่คิดถึงคนในเมือง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เมืองที่ปรากฏในเรื่องเล่าของ "เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก" สะท้อนให้เห็นความพยายามของเมืองแต่ละแห่ง ที่จะออกแบบและเปลี่ยนตัวเองสู่การเป็น "เมืองน่าอยู่" สำหรับ "ผู้คนในเมือง" และรวมไปถึงผู้คนที่อยู่ข้างเคียงกับเมืองแห่งนั้น ๆ โดยความน่าสนใจของเมืองแต่ละเมืองที่ปรากฏในเรื่องเล่า เป็นภาพสะท้อนของการเปลี่ยนเมืองเพื่อรักษาคน มากกว่าการเปลี่ยนเมืองเพื่อรักษาและเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
    .
    น่าสนใจว่าเมื่ออ่าน "เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก" จบลง สิ่งที่เราได้รับคือการตั้งคำถามเกี่ยวกับการออกแบบเมือง ว่าเมืองแต่ละแห่งมีชีวิตและลมหายใจของตัวเอง ผู้คนในเมืองเองก็เช่นเดียวกัน หากการออกแบบเมืองที่ทำให้ลมหายใจ ชีวิต ของเมืองและผู้คนสอดประสานกันได้ ดังหลาย ๆ เมืองที่ปรากฏอยู่ใน "เมืองน่าอยู่ที่รู้สึก" ก็คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย เพราะอย่างไรเสียเมืองที่น่าอยู่ก็ขึ้นอยู่กับ "ความคิดและความรู้สึก" ของผู้คนที่อยู่ในเมือง

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in