เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Tale With MeKindnees
กฎของโรงอาหารในโรงเรียน
  •       จีเป็นเด็กนักเรียนมัธยมต้นที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ตอนกลางเทอมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้มีบริเวณกว้างขวางให้เด็กเล่นได้ทุกมุมของโรงเรียน จีเพิ่งเข้ามาเรียนได้เพียงสามวันเท่านั้นฉะนั้นเขาจึงรู้จักสถานที่ในโรงเรียนยังไม่มากนัก รวมถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ในโรงเรียนอีกด้วย ที่นี่บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีทีเดียว ใต้อาคารเรียนมีต้นไม้วางตามเสาทุกต้น ตรงกลางของอาคารเรียนมีบ่อน้ำเป็นทางยาวซึ่งข้างในบ่อมีปลามากมายอาศัยอยู่ และทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้หลายชนิด ทำให้เด็กหลายคนที่เล่นอยู่บริเวณนั้นไม่อยากขึ้นเรียนเลย


           จีได้เพื่อนใหม่หนึ่งคนเธอชื่อบีม บีมเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูสดใสและเป็นมิตรกับจีที่สุด เขาจึงชอบเล่นกับบีมเป็นพิเศษ เวลาเรียนจีจะนั่งข้างบีมรวมถึงตอนพักเที่ยงทั้งคู่ก็จะลงไปพร้อมกันเสมอ บีมเคยบอกกับจีเรื่องของกฎระเบียบในโรงเรียนนี้ซึ่งมันก็ดูเป็นปกติของโรงเรียนทั่วไปที่จะมีกฎข้อห้ามสำหรับนักเรียน ทว่ามีสิ่งที่ไม่ปกติและจีคิดว่าแปลกก็คือโรงอาหาร สถานที่พักกินข้าวของเด็กนักเรียน นักเรียนที่นี่ดูเรียบร้อยผิดปกติ เวลากินข้าวจะไม่มีใครพูดคุยกันเลย หากพูดก็จะมีเพียงคนใดคนหนึ่งพูดเท่านั้นคล้ายประโยคบอกเล่าเสียมากกว่า ไม่มีการโต้ตอบกันเหมือนที่โรงเรียนเก่าของเขาทำ จีเริ่มสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เขาจะไปโรงอาหารบีมจะไปด้วยเสมอ จีไม่เคยเข้าโรงอาหารคนเดียวเลยสักครั้งในตอนแรกเขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเพราะคิดว่าเขาเป็นเด็กใหม่บีมคงกลัวว่าเขาจะหลง ทว่านี่เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มแล้วที่จีเข้ามาเรียน ซึ่งเขาก็รู้สถานที่ต่าง ๆ ในโรงเรียนหมดแล้ว รวมถึงโรงอาหารแห่งนี้ด้วย ฉะนั้นเขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีบีมอีกต่อไป



    "เราจำสถานที่ได้หมดแล้วนะไม่ต้องมาเป็นเพื่อนก็ได้ เราเกรงใจ"



    "...."



    บีมไม่ตอบอะไรเอาแต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้นท่าทางของเธอเปลี่ยนไป นั่นจึงทำให้เขาสงสัยมากขึ้น



    "มีอะไรเหรอ"



    "เธอคงยังไม่รู้กฎในโรงอาหารใช่ไหม" เธอยื่นกระดาษแผ่นเก่า ๆ ให้เขา เท่าที่เห็นผ่านตาในนั้นมีตัวหนังสือเขียนยาว ๆ อยู่ จียังไม่ทันได้เห็นรายละเอียดข้างในเธอก็พูดกับเขาเสียก่อน



    "เอาไปอ่าน ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็อ่านซะ"



    เขาตกใจกับคำพูดของบีมเพราะสีหน้าของเธอดูจริงจังอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเขาไม่รู้จะตอบอะไรจึงพยักหน้ากลับไป ในขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าโรงอาหารมือเล็กก็ดึงเขาไว้



    "วันนี้ขอไปกินข้าวด้วยอีกวันนะ"



    จีตอบรับคำขอของบีมไปเขาคิดว่าคงแค่วันนี้วันเดียวที่เธอจะมาวุ่นวายกับเขา ความจริงเขารู้สึกขำกับสิ่งที่บีมทำมากกว่า ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ต้องอ่านในกระดาษนั่นเหรอ นี่เขาขึ้นมัธยมแล้วนะไม่ใช่เด็กอนุบาลที่จะเชื่อคนง่าย เขาคิดในใจระหว่างเดินเข้าโรงอาหารไปพร้อมกับเธอ



    หลังเลิกเรียนเมื่อกลับถึงบ้านจีก็ตรงดิ่งขึ้นห้องทันทีเขาโยนกระเป๋านักเรียนที่ด้านในมีหนังสือเพียงสองเล่มลงบนโต๊ะก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบแผ่นกระดาษเก่า ๆ ที่เด็กสาวให้เมื่อกลางวันขึ้นมา ทันทีที่คลี่กระดาษออกเขาก็นั่งลงอ่านข้อความในกระดาษ





    กฎการใช้โรงอาหารของโรงเรียนที่ควรอ่านมีทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้

    หากฝ่าฝืนกฎเพียงข้อใดข้อหนึ่งคุณจะต้องตาย



    กฎข้อที่ 1 ห้ามเข้าไปในโรงอาหารคนเดียวเด็ดขาดทุกครั้งที่เข้าต้องมีเพื่อนไปด้วยเสมอ หากคุณฝ่าฝืนกฎคุณจะพบคุณครูผู้หญิงวัยกลางคน เธอจะคิดว่าคุณโดดเรียน เมื่อเธอเห็นคุณเธอจะวิ่งมาตีคุณจนตาย

    กฎข้อที่ 2 เมื่อเดินเข้ามาในโรงอาหารแล้วให้รีบไปจองโต๊ะทันที หากโต๊ะเต็มให้หาที่นั่งจนกว่าจะเจอโต๊ะว่าง ห้ามเดินไปซื้ออาหารก่อนเด็ดขาดไม่เช่นนั้นคุณจะต้องเดินหาที่นั่งอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะถึงรุ่งเช้าในวันถัดไป โดยมีบางสิ่งจะมาช่วยคุณเดินหาโต๊ะด้วยซึ่งกว่าจะถึงวันใหม่คุณอาจตายแล้วก็ได้

    กฎข้อที่ 3 ขณะสั่งอาหารห้ามสบตากับคนขายเด็ดขาด

    กฎข้อที่ 4 เมื่อคุณไปซื้อน้ำห้ามสั่งน้ำแดงจากร้านน้ำ เพราะมันไม่ได้มีไว้ให้คุณ

    กฎข้อที่ 5 ขณะกินข้าวห้ามพูดโต้ตอบกับเพื่อนร่วมโต๊ะให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพูดคนเดียวเท่านั้น หากมีคนพูดตอบกลับไปคุณจะพบว่าคุณไม่ได้นั่งกินข้าวอยู่แค่กับเพื่อนคุณอย่างเดียว

    กฎข้อที่ 6 หากคุณซื้อขนมเกินหนึ่งชิ้น จะมีเด็กผู้หญิงมาขอขนมจากคุณจงให้ขนมทั้งหมดที่ซื้อมากับเธอ

    กฎข้อที่ 7 เมื่อได้ยินเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดขึ้นกลางโรงอาหาร ให้ก้มหน้ากินข้าวต่อไปห้ามปรบมือและอย่าหันไปมองเด็ดขาด

    กฎข้อที่ 8 หากมีคนมาขอให้คุณช่วยยกของห้ามขึ้นบันไดเก่าในโรงอาหารให้อ้อมไปขึ้นบันไดด้านข้างแทน และอย่าปฏิเสธคำขอความช่วยเหลือเด็ดขาด หากคุณพบอะไรระหว่างทางให้ทำเป็นไม่เห็นสิ่งนั้นจนกว่าจะช่วยเสร็จ

    กฎข้อที่ 9 ห้ามออกจากโรงอาหารเกินบ่ายโมงตรง หากไม่ทันจริง ๆ ให้หลับตาพร้อมกับพูดว่า 'ไว้ชีวิตฉันด้วย' จากนั้นให้ลืมตา คุณจะพบกับคุณครูวัยกลางคนห้ามสบตาเธอเด็ดขาดให้รีบเดินออกจากโรงอาหารทันที

    กฎข้อที่ 10 หากลืมสิ่งของไว้ในโรงอาหารห้ามกลับไปเอาให้ทิ้งไว้ในนั้นจนกว่าจะถึงเช้าวันใหม่



    ถ้าไม่อยากตายจงปฏิบัติตาม!



            กระดาษในมือจีเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจากอาการหวาดกลัวของเขา จีกลัวถึงขนาดที่นั่งนิ่งไม่ขยับตัวไปไหนจนแทบลืมหายใจ เขาตะลึงกับข้อความทั้งหมดในกระดาษแผ่นนี้ได้แต่คิดว่าบีมกำลังเล่นตลกอะไรกับเขาอยู่กันแน่ แล้วตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาทำไมถึงไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับเขาเลย หากกฎในกระดาษแผ่นนี้เป็นเรื่องจริงเขามีโอกาสตายได้ทุกเมื่อ ทว่าโชคยังพอเข้าข้างเขาอยู่บ้าง หากนึกย้อนกลับไปทุกครั้งที่เข้าโรงอาหารบีมจะคอยจัดแจงให้เขาหมดทุกอย่าง และที่ตอกย้ำความชัดเจนของกฎในกระดาษแผ่นนี้ก็คือ ทุกครั้งที่เขาชวนเธอคุยเธอไม่เคยตอบกลับเขาเลยสักครั้งเดียว จีคิดว่าบีมเป็นเด็กมีมารยาทบนโต๊ะอาหารถึงขนาดที่ไม่พูดเวลากินข้าวแต่กลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิดไว้เลย



             กฎบางข้อที่จีตกใจก็คือห้ามสบตากับคนขายจีนึกได้ว่าเขาจะกินแต่ร้านเดิม ๆ จนไม่ทันสังเกตเด็กนักเรียนหรือคนขายจากร้านอื่นและป้าขายก๋วยเตี๋ยวที่เขากินเป็นประจำตลอดหนึ่งอาทิตย์ก็ไม่เคยสบตากันตรง ๆเลยสักครั้งเมื่อถึงคิวเขาก็มองไปที่วัตถุดิบในตู้กระจกใสและสั่งตามที่ต้องการเท่านั้นเพราะเขาเองก็ไม่ได้สนใจคนขายว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร แค่สั่งอาหารก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ ส่วนป้าคนขายก็ไม่เคยมองหน้าเขาเลยเช่นเดียวกัน และโชคดีที่เขาเป็นคนไม่ชอบกินขนมเท่าไรนัก เขาจึงยังไม่เคยเจอเหตุการณ์เหมือนในกฎข้อห้าม ส่วนข้ออื่น ๆ เขาก็ยังไม่เคยได้เจอกับตัว ทว่าเขารู้กฎทั้ง 10 ข้อนี้แล้ว บีมก็คงไม่ได้มากินข้าวกับเขาเหมือนที่ผ่านอีก หากเรื่องทั้งหมดนี้คือเรื่องจริงแล้วเด็กนักเรียนอยู่ที่นี่กันได้อย่างไร จีเล่าเรื่องทั้งหมดที่เขาเจอมาให้พ่อกับแม่ฟังและยื่นกฎของโรงอาหารในโรงเรียนให้พ่อกับแม่ ทว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้สนใจและคิดว่าเขายังไม่ชินกับโรงเรียนใหม่จีจึงต้องจำใจไปเรียนในโรงเรียนแปลกแห่งนี้ต่อไป



             เช้าวันต่อมาจีรู้สึกถึงความผิดปกติที่ไม่เหมือนเดิม บรรยากาศภายในโรงเรียนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ข้อความในแผ่นกระดาษเก่า ๆ ที่บีมให้เขาเมื่อวานยังฝังติดอยู่ในสมองเมื่อจีเดินผ่านโรงอาหารเขารู้สึกเหมือนมีสายตานับร้อยมองมาที่เขาตลอดเวลา จีไม่กล้ามองเข้าไปในโรงอาหารเลยเขากลัวว่าจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น ทว่าหางตาดันเผลอสังเกตเห็นความผิดปกติของคนในนั้น จีเห็นเด็กนักเรียนที่อยู่ข้างในจ้องมาที่เขาในขณะที่ตัวยังคงตักอาหารเข้าปากอยู่ ตอนนี้สติจีเริ่มเตลิดไปไกลแล้ว ด้วยความกลัวเขาจึงรีบวิ่งขึ้นห้องเรียนโดยที่ไม่หันกลับไปมองอีกเลย



               ตลอดเวลาเรียนช่วงเช้าจีไม่เป็นสุขกับการเรียนสักวินาทีเดียวเพราะตั้งแต่ที่เขาอ่านกฎข้อห้ามของโรงอาหารนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปถึงขนาดที่จีคิดว่าเขาคือคนเดียวที่นั่งเรียนอยู่ในโรงเรียนนี้ เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงจีรีบเก็บกระเป๋าแล้ววิ่งลงมาชั้นล่างของอาคารทันที เขาพยายามกดโทรหาบีมทว่าไม่มีการตอบรับจากปลายสายเลย เขาเริ่มสังเกตสิ่งรอบตัวจากบรรยากาศที่ดูสดใสกลายเป็นมืดครึ้มราวกับจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเสียอย่างนั้น ต้นไม้ที่เคยมีสีเขียวขจีเปลี่ยนสภาพเป็นเหี่ยวแห้งเขาควบคุมสติตัวเองไม่ได้อีกต่อไป จีวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเขาวิ่งเข้ามาหลบอยู่ในสถานที่หนึ่งซึ่งกว่าเขาจะรู้ตัวว่าที่นี่คือโรงอาหารก็สายไปเสียแล้ว เขานึกถึงกฎข้อแรกที่บอกไว้ในกระดาษว่าห้ามเข้าโรงอาหารโดยไม่มีเพื่อนเข้าด้วยเด็ดขาด ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เขารู้แล้วว่ากฎทั้งหมดที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้นคือเรื่องจริง โต๊ะในโรงอาหารถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาภาพที่เห็นตรงหน้าคือเด็กนักเรียนนั่งนิ่งราวกับหุ่นกระบอกอยู่ที่โต๊ะ และสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดก็คือเด็กผู้หญิงที่ดูสดใสของเขาตอนนี้เธอยืนอยู่กับคุณครูผู้หญิงวัยกลางคนที่ห่างจากเขาเพียงแค่สองเมตรเท่านั้น



    "ไม่อยากไปกินข้าวกับเราแล้วเหรอจี"



    น้ำเสียงเยือกเย็นทำให้จีร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว นี่ไม่ใช่บีมที่เขารู้จักเลยสักนิด



    "อย่าทำอะไรเราเลยนะ เรากลัวแล้วปล่อยเราไป" น้ำตาจากความกลัวไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของเขาไม่หยุด ภาพที่จีเห็นบีมตรงหน้าเธอไม่มีความสดใสและดูไม่เป็นมิตรอีกต่อไป



    "เราเตือนเธอแล้ว" เด็กสาวแสยะยิ้มน่ากลัวมาให้เขา



    สิ้นเสียงเด็กสาวก็มีเสียงไม้ฟาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นตามมา เสียงโหยหวนของเด็กนักเรียนที่ตายในโรงอาหารกรีดร้องด้วยความทรมานดังจนกลบเสียงร้องของจี ไม่นานนักความทรมานเหล่านั้นก็สิ้นสุดลง...



                  

           
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in