เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกของ ferneryFernery diary
The morning flight กับธนชาติ
  • THE MORNING FLIGHT TO SAD FRANCISCO

    หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มที่2ของคุณธนชาติ!!!


    เป็นหนังสือเล่มเดียวที่เราฝากเพื่อนซื้อในงานหนังสือตุลาปี63 ตอนแรกคิดว่างานหนังสือครั้งนี้"กูจะไม่ซื้อหนังสือมาเพิ่มกองดองอีกแล้วจร้า พอ!!!"

    แต่วันนั้นเป็นวันที่ช่างน่าเบื่อจำไม่ได้ว่าวันไหน ไถ่ทวิตไปเจอ 'พบกันที่งานหนังสือกับหนังสือรวมเรื่องสั้นของเบ๊น ธนชาติ' วี๊ดดดด!!!

    ไดเรคหาเพื่อนแอ้เลยจร้า "แอ้กูเอาเล่มนี้เล่มเดียวงานหนังสือปีนี้เมิงไปวันไหนจัดส่งมาให้กูที่หัวเมืองใต้เลย" แล้วเพื่อนก็จัดมาให้

    ตอนได้มาช่วงนั้นอินกับการเมืองคิดว่าถ้าหยิบมาอ่านจิตใจกูต้องไม่เป็นสุขแน่555++(เพราะเล่มที่แล้วตอนอ่านมีความสุขมากชอบมาก)

    เป็นคนอ่านหนังสือตามอารมณ์ตัวเอง ถ้าช่วงไหนเศร้าๆนอยๆก็จะชอบอ่านแนวเศร้าหม่นหมองผู้ปกครองไม่รัก5555++ออกแนวๆของมันมีอยู่แระต้องเติม!!

    เลยคิดว่าเก็บไว้อ่านตอนปลายๆปีช่วงวันเกิดตัวเองอากาศดีดี สิ้นปีเทศกาลเยอะคงทำให้จิตใจเบิกบานพร้อมรับความสุขกับหนังสือที่ชอบ หึ!!!แต่เป็นไงหล่ะ อิห่านนนนโควิดมารอบสอง!! ซึมอ่ะดิ??

    สรุปกูไม่รอแระความสุข งั้นไม่ได้อ่านสักที ไปค่ะ!!!

    เชี่ย!!!เปิดมาก็เติมของให้ชั้นเลยจร้า "กลางปีที่แล้วผมคลำเจอก้อนเนื้อบางอย่างบริเวณศรีษะ" ? คิดในใจตอนอ่านประโยคนี้จบคือ "อ่านเล่มนี้จบชั้นจะไดเรคไปหาเค้าว่าอาการเป็นไงบ้างเลยนะ" สรุปสบายดีจร้า ชั้นไม่ต้องไดเรคไปถามเค้าแระ?

    พอๆเวิ้นมานานแระ ไม่ได้รีวิวสักที ด้วยความเล่มที่แล้วชั้นอ่านรวดเดียวจบเลยจร้าเพราะมันสนุก ชั้นก็เลยมีความคิดว่าชั้นกลับไปอ่านเล่มก่อนหน้านี้ใหม่ดีกว่า "You sadly smile in the profile picture"กลัวเล่มนี้สนุกจนอ่านจบเร็วอีก?

    สรุปเล่มนี้เราไม่สามารถอ่านจบรวดเดียวได้ว่ะ เพราะว่า คนอื่นอ่านอาจจะตกผลึกทางความคิด แต่สำหรับคนขี้เสือกแบบชั้นจ้า ชั้นหยุดอ่านเพราะมานั่งคิดว่า "เอ๋!!!ใครว่ะ5555+" คือรวมทุกดราม่าดาราบันเทิงจิกกัดการเมืองทุนนิยมความเหลื่อมล้ำต่างๆ อ่านจบตอนก็มีแหละที่ชั้นมานึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งของคนอื่นและที่เจอมากับตัว แหมๆก็มีบ้างแระที่ตกผลึกความคิด?

    ก็ยังคงความร้ายกาจ!!!เหมือนเดิมอ่านแล้วแบบแสบๆคันๆ บางเรื่องให้ความรู้สึกเหมือนเวลาเราคุยกับเพื่อนอยู่ดีดีเพลินๆแต่เอ๊ะ!!เมิงหลอกด่ากูเหรอ ชอบการใส่ประเด็นการเมืองเข้ามาให้รู้สึกว่าเออกูขอบ่นเมิงสักหน่อยแล้วกัน ชอบ!!!?

    บางตอนก็ให้ความรู้สึก"เออว่ะ!!" มาคิดดูทุกวันเราก็เป็นแบบนี้นะ ถ้าไม่มีโซเชียลเราจะมีเรื่องคุยกันมั๊ยว่ะ บางครั้งเราก็เป็น กับเพื่อนถ้าไม่ได้มีเรื่องแบบต้องระบายหรือเครียดจริงๆ เอาเป็นว่าโทรไปแค่คิดถึงมันอ่ะ อัพเดทชีวิตตัวเองไม่ถึง15นาทีหรอก3-4ชั่วโมงที่เหลือเรื่องเพื่อนคร้าาา5555++ ก็ชีวิตเรามันไม่หวือหวานิ???

    ที่ชอบอีกอย่างคือยังคงใช้ชื่อจริงในเรื่องสั้น อรชุดา พลอยไพลิน อ่านไปแล้วให้ฟีลเหมือนฟังละครวิทยุสมัยก่อนดี555 เหมือนเวลาแม่เราเจอเพื่อนเรียกชื่อเพื่อน "อ้าว!!!กนกพรมาธุระอะไรที่นี้" แต่ลองซิลองเป็นรุ่นชั้น "อ้าว!!!เนตรนภามาธุระอะไรที่นี้" คือมันฟังแล้วแบบตอแหลม๊าก!!!เมิงห่างเหินมาก555++ คือในกลุ่มเพื่อนสนิทถ้าเมิงเรียกชื่อจริงกูนะคือเมิงจะขึ้นต้นประโยคหลอกด่าค่ะ555+

    เออแต่ก็สงสัยนะว่าไปหาชื่อจริงมาจากไหน อย่าบอกนะว่าไปซื้อหนังสือตั้งชื่อมาเด้อ!!5555++

    เล่มนี้ก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องงานแต่งเหมือนฝั่งใจอะไรป่าวว่ะ555+ถ้าใครที่เคยอ่านเล่มก่อนมาแล้วพอมาอ่านเล่มนี้แกจะตกผลึกว่า'เวลาเค้าถูกเชิญไปงานแต่งคนแบบนี้จะไปด้วยอารมณ์ไหนว่ะ555+' ตอนเค้าตัดเค้กในใจคือต้องมีสักแว้บอ่ะที่คิดว่า ขอเชิญเจ้าบ่าวใช้มีดตัดเค้กจวงแทงเจ้าสาวได้เลยคร้าบบ ?โว้ยยยยย!!!

    บางตอนก็ลุ้นจนขมิบตูดตามแล้วเนี๊ยะ!!!อีพลอยไพลิ๊นนนนนตัดสินคนเก่ง!!!อิดอก??? บางตอนอ่านจบก็เผลอด่าอิผี!!!อินพชัย ตอนโอมากาเสะอีสานก็แซ่บจนอุทานอิสัสสสสสส!!!เชฟคือหลอกหลอนมากเมิงยังตามมาเสริฟกูอีกเหรอ? ไลฟ์โค้ชก็ไม่รอดนะคะดิชั้นบอกไว้เลย?มีซีนเยอะด้วยอิผี!!รู้ดีนัก long-term goal ๆ พ่อง!!

    แต่ที่ชอบที่สุดเลยคงเป็นตอน A Minimal House อ่านจบปุ๊บสลดค่ะสลดเลย!!! หมดกันความฝันบ้านสไตล์Minimal หน้าต่างกระจกไม่มีเหล็กดัดกั้น มุมอ่านหนังสือชิคๆโล่งๆกระจกบานใหญ่รับแสงแดดผ่านผ้าม่านสีขาว หมดกันเหม่อเป็นวิญญาณล่องลอยเลยจร้า5555++ เกลียดด!!

    ใครชอบอ่านเรื่องสั้นหักมุมแดกดันแสบๆคันๆอกหักรักคุดเศร้าจนเหม่อ ดับฝัน ลองอ่านซิค่ะ แล้วจะชอบ?


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in