ชื่อหนังสือ : #วันที่เหมาะกับขนมปังซุปและแมว
ผู้เขียน : มูเระ โยโกะ
ผู้แปล : สิริพร คถชาคระ
สำนักพิมพ์ : Sandwich publishing
.
#ถ้ากังวลไปเสียทุกเรื่องเราจะทำอะไรไม่ได้เลยนะ
เล่มนี้เล่าเรื่องของอากิโกะพนักงานบริษัทเป็นบรรณาธิการอายุ50กว่า ที่จู่ๆหัวหน้าให้เธอย้ายไปทำงานฝ่ายบัญชีซึ่งเธอรู้สึกไม่ชอบเท่าไร เธอจึงตัดสินใจลาออกมาเปิดร้านต่อจากแม่ของเธอที่เสียไปแล้ว รูปแบบร้านของอากิโกะเป็นอะไรที่มินิมอลมาก โทนสีออกแนวเอิร์ธโทน มีขายเพียงซุป ขนมปัง แซนวิส
ในชีวิตอากิโกะมีแค่แม่และแมวชื่อทาโระ ความรู้สึกตอนอ่านเรื่องนี้คือรู้สึกได้เลยว่าอากิโกะเป็นคนที่โคตรจะมินิมอล ไม่ใช่แค่นิสัยของอากิโกะนะที่ทำให้เรารู้สึกถึงความเรียบง่าย เนื้อเรื่องที่เขียนก็เรียบง่ายคือโคตรจะญี่ปุ่นแต่ในความเรียบง่ายก็ยังมีเรื่องพ่อของอากิโกะที่ยังคงคาใจและชวนให้ติดตามว่าสรุปแล้วพ่อของอากิโกะคือใคร
แต่ในเรื่องก็จะมีบางช่วงที่ทำให้เราเดือดแทนอากิโกะเหมือนกันนะ ทำไม ทำไม เธอไม่สวนกลับป้าร้านกาแฟที่รู้ดีไปเสียทุกเรื่อง ป้าข้างบ้านที่แท้ทรู แล้วไหนจะเพื่อนแม่ที่โคตรจะมนุษย์ป้าทำเหมือนห่วงใยแต่ก็พยายามจะสืบหาความจริงที่แม้กระทั่งเธอก็ไม่รู้ คือโอ๊ยยยยโคตรหงุดหงิด???
ถ้าถามว่าพาร์ทไหนของหนังสือที่ทำให้เราใจเหี่ยวไปเลยคงเป็นในพาร์ทของ"ทาโกะ" สำหรับอากิโกะมันเป็นความผูกพันที่รู้สึกมากกว่าคนในครอบครัวเสียอีก การที่เรามีเค้าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เรื่องที่คุยไม่ได้กับคนเราก็ยังมีเค้าให้ได้ระบายความไม่สบายใจออกไปได้บ้าง
แต่ที่เราชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้เลยคือนิสัยและความมุ่งมั่นของอากิโกะ นิสัยที่ถึงแม้ใครจะพูดยังไงเธอก็น้อมรับฟังเอาไว้ แต่เธอจะไม่สูญเสียตัวตนเพราะคำพูดของคนอื่น เธอมีความพยายามมุ่งมั่นในทางที่เธอเลือก
เราชอบตอนนึงในหนังสือที่เป็นความคิดของอากิโกะเขียนว่า 'คนเราย่อมมีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ หากร้านเธอจะถูกจัดไว้ในหมวดไม่ชอบก็เป็นเรื่องธรรมดา สิ่งที่เธอยอมไม่ได้ที่สุดคือการไม่ชัดเจนต่อความรู้สึกตัวเองต่างหาก'???
ฝากติดตามเพจเราด้วยน๊า?
https://www.facebook.com/fernerydiary/
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in