โอ้ววว เราสามม...จะไปเวียดนามมมมม..ที่แสนสวยงามมม..มม
โอ้ววว เราสามม...จะไปเวียดนามมมมม..ที่แสนสวยงามมม..มม
อีฟมีนิสัยชอบมีการสื่อสารประหลาดๆ ด้วยอะไรประหลาดๆ กับสิ่งที่ไม่น่าจะประหลาด
ครั้งหนึ่ง อีฟเคยสอนเราให้คุยกับนกด้วยการส่ายตูดและพยักหน้าในเวลาเดียวกัน
ครั้งนี้ อีฟพยายามสร้างสรรค์เพลง เพื่อมาร้องประกอบระหว่างทริป (อ้อ เพลงนี้ถูกแต่งขึ้นเมื่อครั้งที่พวกเราสามคนตัดสินใจจะไปเวียดนามด้วยกัน โดยยังไม่ได้ชวนแม่และพี่ต้า)
และความเหี้ยของอีเพลงนี้คือแม่งมีอยู่ท่อนเดียว แถมยังเฉิ่มเหี้ยๆ แต่มันเสือกร้องจนติดหู
สำหรับใครที่มาเวียดนามแล้วคิดที่จะเที่ยวมากกว่าหนึ่งจังหวัด ทางการขนส่งที่นี่มีบริการ Sleeping Bus หรือรถนอนให้เราได้โดยสารกัน มี Agency ทัวร์ให้เราเลือกหลากหลายเจ้า
มาถึงตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า ช่วงที่เราเตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัททัวร์แต่ละที่ โดยอาศัยการอ่านรีวิวไปเรื่อยๆเนี่ย ก็หาว่าเค้าใช้บริการเจ้าไหนกันเป็นส่วนใหญ่ เป็นการหาข้อมูลที่เหมือนง่าย แต่ยากชิบหายสำหรับคนที่ไม่เคยไปเวียดนาม เพราะแม่งโคตร Random แต่ละรีวิวจะมีวิธีการเลือกใช้บริษัททัวร์แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง รีวิวนี้เลือกของอันนี้ รีวิวนั้นลือกของอันนู้น แต่รีวิวนู้นบอกว่าอันนั้นไม่ดี เหมือนการโดนแม่ใช้ให้ไปซื้อผงซักฟอก แต่เราเสือกซักผ้าไม่เป็น ก็ได้แต่ยืนงงๆ ในดงแฟ๊บ
อยู่หน้าแผนกผงซักฟอก แล้วคิดในใจดังๆว่า..
สรุปแล้วกูควรเลือกใช้อันไหนละ?
สุดท้ายเราก็สรุปกันอย่างสิ้นหวังว่า ก็ค่อยไปดูหน้างานแล้วกัน อันไหนดูโอเคตอนนั้น ก็อันนั้นแหละ
ง่ายๆ สไตล์คนมีแบบแผนหรอกนะ อะคริ
....
พอไปถึงวันจริง พวกเราก็มุ่งมั่นอย่างมากเพื่อที่จะเปรียบเทียบให้ได้ว่า สรุปกูควรเลือกอันไหน
โดยทั้งหมดทั้งมวล สรุปได้ประมาณนี้ครัช
ถนนฟามงูเหลาที่เรานั่งจากสนามบินมาลงเนี่ย เป็นย่านที่มีบริษัททัวร์อยู่ในละแวกนั้นเยอะพอสมควร ที่นั่นจะมีบริษัททัวร์ใหญ่ๆอยู่ 3 บริษัทหลักด้วยกัน ได้แก่
1. Vietsea
เท่าที่อ่านมา ความดีงามของ Vietsea คือเขามีรถหลายรอบ มีห้องน้ำให้อาบน้ำและรับฝากของ จึงเหมาะมากสำหรับใครที่อยากเที่ยวที่โฮจิมินห์ก่อน ช่วงกลางวันก็มาซื้อตั๋วและฝากของไว้ที่นี่ แล้วตกเย็นก็มาอาบน้ำ จากนั้นก็รอขึ้นรถรอบดึก เพื่อที่จะได้ไปถึงตอนเช้า ประหยัดค่าโรงแรมไปได้หนึ่งคืนเต็ม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์เลย - www.vietseatourist.v
2. The Sinh Tourist
ที่นี่มีแพคเกจทัวร์ One day Trip ไว้เที่ยวชมแต่ละเมืองด้วย แนะนำว่าให้ซื้อไว้ตั้งแต่โฮจิมินห์ (ซื้อหนึ่งวันล่วงหน้า) แล้วบอกที่พักโรงแรมของเราไว้ พอถึงเวลาจะมีรถขับมารับหน้าโรงแรมแล้วขับพาไปเที่ยวที่นั้นๆเองตามแพคเกจที่เราซื้อ แล้วก็ขับกลับมาส่งเราที่โรงแรม ซึ่งสะดวกมาก และเราก็ได้เลือกซื้อแพคเกจทัวร์ที่มุยเน่ของที่นี่
ตารางเวลาออกรถ - The Sinh Tourist Bus Schedule
ที่ตั้งสำนักงาน - The Sinh Tourist Offices
3. Futa Bus Line
อีกหนึ่ง Agency ทัวร์ธรรมดาๆไม่มีอะไรมากมาย แต่เราเลือกซื้อตั๋วรถนอนจากโฮจิมินห์ไปมุยเน่กับที่นี่ เพียงเพราะมีรอบเวลาที่เหมาะเหม็งกับเรา เท่านั้นแหละ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์เลย - https://futabus.vn/en-US
ตารางเวลาออกรถ - Futa Busline Schedule
ที่ตั้งสำนักงาน - Futa Busline Office
เนื่องจากทั้งสามเป็นบริษัทใหญ่ที่คนนิยมใช้กันเยอะ เทียบกันแล้ว ตัวรถค่อนข้างสะอาดและกว้างใหญ่พอๆกัน แต่ก็จะมีข้อแตกต่างเล็กๆน้อยๆ ที่ดูเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกมากที่สุดของเรา ในระหว่างสามบริษัท นั่นคือ ระยะเวลาออกรถ อารมณ์ประมาณ การเลือกดูรอบหนังว่าเราสะดวกที่จะดูรอบไหนของวัน ก็ซื้อรอบนั้น
.
.
จบ.
ยังหรอก! จบเรื่องซื้อตั๋วรถนอนแล้ว ยังไม่ได้หมดแค่นี้ รถนอนยังมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ในตัวรถอีก
จุดเด่นของ Sleeping Bus คือ มีเบาะที่เอน เหยียดขาได้ และมีผ้าห่ม
แน่สิ!... ขึ้นชื่อว่ารถนอน กูก็ต้องได้นอนสิมึง!
ราคา
รถนอนจากโฮจิมินห์ไปมุยเน่ ของ FUTA Bus Lines : 120.000 vnd/ คน
เราโดยสาร Sleeping Bus จากโฮจิมินห์ ไปมุยเน่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. โชคดีมากที่เรามากันห้าคน จึงสามารถเหมาที่นั่งแถวหลังได้ทั้งหมด เราจึงขึ้นรถไปพร้อมกับความรู้สึกที่พร้อมจะนอนเต็มที่ พอขึ้นบนรถมาก็จัดข้าวจัดของ ทำตัวเองให้ลงตัวกับที่นอนรถให้เรียบร้อย บิดซ้ายนิด บิดขวาหน่อย
อะ โอเค เข้าที่ละ นี่รถที่นี่เค้าใส่น้ำหอมปรับอากาศเป็นกลิ่นบลูเบอรี่หรอ..อา..ดีจัง กลิ่นเหมือนพวกลูกอม หมากฝรั่งเลย เตะจมูกไปนิด เบาแอร์ลงหน่อย หะ หะ…
เหี้ย!
หมากฝรั่ง!
มะ..หมากฝรั่งเคี้ยวแล้ว!
คืออีหมากฝรั่งที่ว่าเนี่ย เป็นเศษหมากฝรั่งเคี้ยวแล้วก้อนควายๆแปะอยู่บนเบาะข้างๆบริเวณที่หนุนหัว ทำตัวเป็นเจ้าถิ่นสร้างอาณานิคมวงกว้างๆหนึ่งก้อนใหญ่เป็นของตัวเอง..บนเบาะนอนกู!
!G$%^&_)*^^% ๖+!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
(กรีดร้องแบบไม่มีเสียง)
หลังจากที่รู้ว่าโดนหมากฝรั่งยึดอาณาเขตของเบาะนอนตัวเองไปส่วนหนึ่งของพื้นที่ เราจึงต้องจัดท่านอนตัวเองใหม่เพื่อไม่ให้ปลายผมตัวเองไปลุกล้ำอาณาเขตหมากฝรั่ง ตอนนั้นเองที่ทำให้เรานึกขึ้นได้ถึงสัจธรรมของโลกใบนี้ว่า เราไม่ได้อาศัยอยู่แค่เพียงกลุ่มเดียวบนโลกใบนี้ หรือแม้กระทั่งบนรถคันนี้ กระซิกๆ
ทำใจสักพักก็กลับมาตั้งท่าจะนอนอีกครั้ง คิดปลอบใจไปเรื่อยเปื่อยว่ามันคงจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วหละมั้ง แล้วก็เหมือนโลกท้้งใบได้ตอกย้ำสัจธรรมการอยู่ร่วมกันบนโลกให้เราอีกครั้ง
ด้วยอัลบั้มชุดเต็ม พร้อมอ๊อปชั่นเสริม เพิ่มเส้น พิเศษใส่ไข่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเด็กเล่นกัน ทารกร้องไห้ คนนอนกรน คนคุยกัน คนเมารถ เสียงถุงก๊อบแก๊บ ควบคู่ไปกับหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วข้างๆเบาะนอน
…
ไม่เป็นไร เราเอาหูฟังมา กูต้องทวงอธิปไตยของตัวเองคืนบ้าง กูจะนอน!
แต่การไม่ฟัง กับการนอนก็คนละเรื่องกันนะ
เพราะหลังจากนั้น เรานอนไม่หลับหวะ…. สัส!
คือนอนด้วยความระหวาดระแวงหลังหัวตัวเองว่าจะไปโดนพี่เคี้ยว (ชื่อหมากฝรั่ง - เราตั้งให้เอง)
นอกจากพี่เคี้ยวจะก้อนโตแล้ว พี่เคี้ยวยังมีกลิ่นบลูเบอรี่เป็นอาวุธชีวภาพ ที่ใช้ระบบลมแอร์ในรถเป็นแรงช่วยผลักดันกลิ่นมาเตือนเราว่า 'นี่~ พี่เคี้ยวอยู่นี่~'
ตัดภาพไปที่อีฟ ที่ก็ดูเมารถสิ้นสภาพอยู่อีกด้าน โดยมีคุณแม่นั่งเป็นเพื่อนอยู่อีกฝั่ง..ดูท่าอีฟจะผจญเวรกรรมคนละขุมกับเรา ทุลักทุเลพอกันเลย ไม่กวนละกัน
หันมาที่เพื่อนมิ้นท์ ผู้ใช้มาตรการสละยานแม่ นอนหลับไปเฉย หลับไปแบบ เอาเล้ยยย เชิญพวกมึงสองคนเผชิญชะตากรรมบนรถนอนกันให้เต็มที่เลย กูถอดจิตละ กูหลับ บัย~
แต่ทว่าร่างกายก็ตอบแทนความตั้งใจของเราด้วยการ ...หิว
เออ เอาเข้าไป มาหิวอะไรตอนนี้! มึงหิวไม่เกรงใจสถานการณ์ก็ช่วยเกรงใจร่างกายตัวเองนิดนึงนะ...
ใครก็ได้สาปแช่งให้กูหลับซักทีสิว้อย..
เอาหละ พอกำลังจะข่มตาหลับได้ ...รถก็จอดพัก -- เฮ้อ ก็ต้องตื่นอีกไง
เราก็เลยเดินพุ่งทะยานลงไปหาของกินประทังท้องน้อยๆของเรา จนได้ซาลาเปามาหนึ่งลูกยักษ์ เดินกลับขึ้นรถอย่างภาคภูมิ
แต่ก็ไม่ทันได้ผยองพองใจมากนักอะนะ เพราะมีเสียงดังขึ้นมาซะก่อน
คนขับ: ….฿ู๗KN&*TTGUL*&^
เรา: ? (พยายามทำหน้าตัวเองให้ดู งงและโง่ที่สุด)
คนขับ: ๗YGO(*@#^& !!!!!!
เรา: W...What?
คนขับ: &)OKLP๗YGO(*@#^& !!!!!! (มือชี้ที่ถุงซาลาเปาแล้ว ส่ายหน้า ไม่ๆๆ)
โอเค เดาว่า ไม่ให้เอาของกินขึ้นมาบนรถ..
เรา: (ทำท่าผูกถุงมัดเรียบร้อย แล้วพยักหน้า โอเคๆๆ)
คนขับ: (เดินจากไป…)
อื้อ...ไม่ให้เอาขึ้นมากินบนรถสินะ...สงสัยพี่เค้าคงไม่อยากให้มีอะไรไปยึดอาณาเขตบนรถเขาเพิ่มนอกจาก พี่เคี้ยวเบอรี่ก้อนนั้น….อื้อ ก็ได้ เรายังอยากทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีอยู่
ไม่กินก็ไม่กิน…(จริงๆแล้วกลัวพี่เค้าฟาดด้วยล้อรถ)
หลังจากพักรถ อย่าคิดว่าจะกลับมานอนต่อบนรถได้อย่างสงบสุข เพราะตลอดทางคนขับรถจะบีบแตรเกือบทุกๆ สองนาที เป็นเสียงแตรที่กระชากได้ทั้งสติและหัวใจ ดังและสนั่นบรรลัยสะเทือนรถทั้งคัน
คือแตรมึงทำหน้าที่เป็นแตรได้มืออาชีพมาก มากกว่านี้น่าจะใช้เป็นอาวุธได้ เราทำได้แค่ข่มตานอนประชดเสียงแตร และสิ่งรอบด้านต่อไป
...สี่ชั่วโมงผ่านไป ไวก็เหี้ยละ...
สรุปหลับไปได้แค่งีบเดียว..กับการนั่งบนรถนอนตูดบานๆ
มิ้นท์ตื่นมาด้วยอารมณ์ประหนึ่ง เช้านี้ที่สดใส
มิ้น: อ้าวว..ฝนตกด้วยหรอเนี่ย
เรา: ...ก็เออสิ
มิ้น: อยู่ไหนแล้วเนี่ย (บิดขี้เกียจ)
เรา: ใกล้ถึงแล้วแหละ
มิ้น: (หันมายิ้ม ใบหน้าเอิบอิ่ม เหมือนเพิ่งเกิดใหม่ มีความสุขในวันพักผ่อนเหลือเกินนน)
เรา: …
มิ้น: นี่มิ้นท์หลับไปหรอเนี่ย (หาว)...กี่..โมง..แล้ว..เนี่ย (หาวว)
อีฟ: เมารถจะแย่
…
…
กรรมกูแท้ๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in