เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
QZGS Fictionmage
[SF] Hallowe3n #ส่านซิว
  • 00

    มะรืนนี้เป็นวันฮัลโลวีน

    เฉินกั่วรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเยี่ยซิวถามเธอว่าจะแต่งร้านให้เข้าธีมหรือไม่ ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์ที่วัน ๆ มีแต่กลอรี่ในหัวอย่างเยี่ยซิวจะสนใจงานเทศกาล ยิ่งเป็นงานของตะวันตกยิ่งแล้วใหญ่ หญิงสาวเริ่มสงสัยว่าบางทีพนักงานกะดึกของเธออาจจะมีมุมรื่นเริงมากกว่าที่คิด จนเธอรู้สึกผิดขึ้นมาที่มองเขาในแง่ร้ายเกินไป

    แต่เยี่ยซิวก็ดับฝันเธอทันที ด้วยประโยคที่ว่า “กลอรี่มีอีเว้นท์ตั้งแต่คืนวันที่ 30 ถ้าคุณจะจัดร้านวันนั้นผมไม่ว่างช่วยนะเจ้านาย”

    จริง ๆ คือเธอผิดไปที่พยายามมองเขาในแง่ดีเกินไปต่างหาก

    เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก ดีเสียอีกทีเยี่ยซิวออกตัวจะช่วยตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเธอ ถังโหรวและมู่มู่ นัดกันว่าจะออกไปเดินเล่นในเมือง ปีนี้เมือง H จัดงานดึงนักท่องเที่ยวเสียใหญ่โต ในเมืองประดับประดาด้วยไฟหลากสี นอกจากนี้ช่วงกลางคืนของวันที่ 30 มีปาร์ตี้ฮัลโลวีนแบบเปิดที่ให้ทุกคนแต่งตัวแฟนซีออกมาสังสรรค์กันตามถนน ในเมื่อเป็นงานแต่งตัวแฟนซี คนดังอย่างมู่เฉิงจึงสามารถออกมาเที่ยวด้วยกันได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกลัวจะถูกแฟน ๆ  เฟิงซูเยียนมู่รุมทึ้ง

    เฉินกั่วไล่ให้เยี่ยซิวไปขนข้าวของจากห้องเก็บของมาประดับร้าน ช่วยกันตกแต่งอยู่ค่อนวัน ตกเย็นร้านเน็ตซิงซินก็เต็มไปด้วยใยแมงมุมปลอม ๆ ที่ห้อยประดับตามผนัง และฟักทองแกะสลักวางสร้างบรรยากาศตามมุมต่าง ๆ ในร้านดูเข้ากับเทศกาล

                เมื่อหมดธุระ เยี่ยซิวขยับตัวอย่างเกียจคร้าน กลับไปนั่งประจำที่ที่คอมพิวเตอร์ตัวเดิมอีกครั้ง บนหน้าจอโปรแกรมแชทส่งสัญญาณกระพริบเตือน มีข้อความจากซูมู่เฉิงทักเข้ามา

    “พรุ่งนี้พี่ว่างมั๊ย”

    “กลางคืนมีอีเว้นท์ ทำไมหรอ”

    “ช่วงบ่ายไปกับฉันหน่อยสิ”

    “ไม่ชวนเจ้านายกับถังโหรวละ”          

    “ชวนแล้ว แต่สองคนนั้นยังเตรียมชุดไม่เสร็จ”

    เยี่ยซิวเคาะคีย์บอร์ด

    “ตกลง”

  • 01

                  ที่ที่ซูมู่เฉิงชวนเยี่ยซิวไปคือร้านกาแฟที่วางขายเมนูจำกัดเฉพาะเทศกาล เดิมมู่เฉิงจองโต๊ะไว้สามที่ สำหรับตัวเอง เฉินกั่วและถังโหรว แต่เมื่อรู้ว่าชุดของอีกสองคนยังไม่เสร็จ จึงตัดสินใจชวนเยี่ยซิวมาแทน เมื่อถึงคิวพนักงานต้อนรับในชุดผีดูดเลือดก็ส่งยิ้มกว้างโชว์ให้เห็นเขี้ยวปลอมที่ติดไว้อย่างจงใจแล้วเดินตรงรี่เข้ามาบริการ 

    “แฮปปี้ฮัลโลวีน ! ยินดีต้อนรับ สามคนใช่มั๊ยค่ะ”

    มู่เฉิงส่ายหน้า

    “สองคนค่ะ”

    “เอ๋?..” พนักงานสาวหลุดเสียงอุทานเบา ๆ อย่างประหลาดใจ

    เยี่ยซิวเลิกคิ้ว หันหลังกลับไปมองด้านหลัง สงสัยว่ามีใครแอบเดินตามพวกตนเข้าร้านมาหรือไม่ถึงแม้ว่ามู่เฉิงจะปลอมตัว แต่แว่นอันใหญ่ที่เจ้าตัวสวมมาก็ใส่มาแล้วหลายครั้ง ถ้ามีแฟนๆ ทีมเจียซื่อที่จำได้ก็ไม่น่าแปลกใจ ทว่าข้างหลังของทั้งคู่ว่างเปล่า บางทีพนักงานคงดูจากใบจองและไม่ได้มองว่าพวกเขามากันแค่สองคน

                แต่สามคนหรือสองคนก็ไม่ต่างกัน เพราะโต๊ะที่จองไว้เป็นโต๊ะสำหรับสามที่อยู่ดี เยี่ยซิวมองเมนูหลากสีอย่างยอมแพ้ นั่งมองรูปบนเมนูไล่ไปตามเสียงของมู่เฉิง กว่าบริกรชายที่แต่งตัวเป็นพ่อมดจะทวนชื่อขนมที่ยาวเหยียดพิสดารยิ่งกว่าชื่อสกิลในกลอรี่ทั้งสองชิ้นซ้ำจนจบ เยี่ยวิวก็รู้สึกว่าฟังดูคล้ายเขากำลังโดนร่ายคำสาปใส่เสียไม่มีผิด

    ไม่นานบริกรชายคนเดิมก็ถือถาดใส่ขนมกลับมา เขาวางขนมสองจานแรกลงตรงหน้าเยี่ยซิวและมู่เฉิง ในขณะที่บริกรชายกำลังจะวางจานที่สามลงตรงหน้าเก้าอี้ที่ว่างเปล่านั่นเอง เยี่ยซิวก็ร้องขัดขึ้นมา

    “อันนั้นไม่ได้สั่งนะ”

              พนักงานชะงักมือที่กำลังจะวางจาน หันไปมองหน้ามู่เฉิงเพื่อขอคำยืนยัน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็พยักหน้า จึงกล่าวขอโทษแล้วดึงจานขนมจานที่สามคืนไป มู่เฉิงมองตามขนมในจาน เมื่อเห็นพนักงานคล้อยหลังไปแล้วจึงพูดขึ้นมาลอย ๆ

    “ถ้าพี่มาด้วยคงจะชอบจานเมื่อกี้เนอะ”

    เยี่ยซิวนึกถึงขนมจานเมื่อครู่ แล้วพยักหน้ารับ ถูกของเธอ ถ้าเป็นซูมู่ชิวคงสั่งขนมจานนั้น

    “อา แต่ถ้าเขายังอยู่ ฉันว่าวันนี้เขาก็คงไม่มากับเธอหรอก”

    มู่เฉิงหัวเราะ

    “พี่ทั้งคู่นั่นแหละ”

    ตอนที่มู่ชิวยังอยู่ ช่วงเวลาก่อนอีเว้นท์ พวกเขามักนั่งวางแผนกันอยู่ที่หน้าจอกันทั้งวันโดยไม่ออกไปไหน ฮัลโลวีนปีหนึ่ง พอมู่เฉิงทักว่าวันนี้เป็นวันฮัลโลวีน มู่ชิวก็ฉีกยิ้มเอาใจน้อง สัญญาว่าจะหาขนมให้แล้วหันมาเล่นขอขนมจากเขาทันทีโดยไม่คิดแม้แต่จะลุกจากเก้าอี้

    แน่นอนว่าอย่างเขานะหรือจะมีขนม

    นึกถึงตอนนั้นแล้วก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ สุดท้ายเขากับมู่ชิวก็ไม่ได้ไปไหนและขลุกกันอยู่หน้าเกมจริง ๆ แถมกว่ามู่เฉิงจะได้ขนมก็เลยวันฮัลโลวีนไปเรียบร้อย เพราะหลังจบอีเว้นท์พวกเขาก็ต่างสลบไสลหลับยาวจนข้ามวันกันทั้งคู่

              เด็กน้อยขอขนมในวันนั้นโตเป็นสาวแล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าพี่ชายตัวดีจะว่าอย่างไร ถ้ารู้ว่าน้องสาวสุดที่รักมานั่งร้านคาเฟ่ต์หน้าตาน่ารักกับเขาสองต่อสอง

              นั่นสิ

             ถ้ามู่ชิวยังอยู่...

  • 02

    “Trick or Treat!!” เฉินกั่วในชุดแม่มดสาวยื่นถังรูปฟักทองมาตรงหน้า ทั้งสามสาวต่างอยู่ในชุดแฟนซี เฉินกั่วเป็นแม่มด ถังโหลวเป็นมนุษย์หมาป่า ส่วนซูมู่เฉิงเป็นยมทูต เธอซ่อนตัวอยู่ใต้เสื้อคลุมสีดำตัวโคร่ง ในมือถือเคียวเล่มใหญ่เป็นพร้อบประกอบ 

    “เสียใจด้วยเจ้านายมีแต่บุหรี่นะ” เยี่ยซิวล้วงกระเป๋า เอาซองบุหรี่ออกมายื่นให้ดู

    “ไม่สนุกเลย มู่มู่นี่เธอทนอยู่กับคนแบบนี้ได้ยังไงกัน” เฉินกั่วบ่น

    มู่เฉิงหัวเราะ

    “พี่ไม่ให้ขนมระวังจะโดนหลอกเอานะ”

              เยี่ยซิวยักไหล่ ก้มหน้าก้มตากินกับข้าวตรงหน้าต่อ เดิมเขาคิดว่าจะเก็บเลเวลรอระหว่างที่อีเว้นท์ยังไม่เริ่ม แต่เจ้านายที่เป็นห่วงสุขภาพของลูกจ้างมากกว่าเจ้าตัว บังคับให้เขากินข้าวเย็นให้เห็นก่อนที่จะออกไปข้างนอก เรื่องนี้ได้รับการเห็นดีเห็นชอบจากซูมู่เฉิง ถังโหรวจึงอาสาออกไปซื้อกับข้าวจากร้านประจำมาให้ถึงที่

              เยี่ยซิวได้ยินเสียงสาว ๆ คุยกันถึงเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับเยี่ยซิวและมู่เฉิงในวันนี้กันอย่างออกรส หลังจากแวะร้านกาแฟร้านนั้นแล้ว มู่เฉิงยังลากเขาไปซื้อของต่ออีกสองสามร้าน แต่ไม่ว่าจะไปร้านไหน หรือแม้กระทั่งตอนขึ้นแท็กซี่ ทุกคนก็ต่างนับจำนวนคนผิด คิดว่าพวกเขาไปกันสามคนทั้งนั้น

    เสียงของเฉินกั่วดังขึ้นอย่างชัดเจน บ่งบอกว่าอยากให้คนที่ถูกพาดพิงถึงได้ยิน

    “ฮัลโลวันก็เหมือนเช้งเม้งแหละ เป็นวันที่วิญญาณจะมาในโลกมนุษย์คนอย่างเยี่ยซิวถ้ามีใครแค้นจนอกแตกตายเป็นวิญญาณตามติดก็ไม่น่าแปลกใจหรอก”

     เยี่ยซิวส่ายหัว รู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมานิด ๆ

    “....เจ้านายนี่คุณเห็นผมเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย”

    คำถามไม่ได้รับคำตอบ เฉินกั๋วควงแขนมู่เฉิงออกจากร้านไปแล้ว มีเพียงถังโหรวที่ยังหันมาสนใจ เขา

              “แน่ใจนะว่าคุณไม่ต้องการคนช่วยอีเว้นท์คืนนี้”

              เยี่ยซิวส่ายหน้า โบกมือตอบปฏิเสธ

              “เหอ ๆ ไม่ละ พวกเธอไปสนุกกันเถอะ”

  • 03

    เมื่อสามสาวจากไป ความสงบก็กลับมาเยือนบริเวณเคาน์เตอร์หน้าร้านอีกครั้ง คืนนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าอีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่นั่งด้านในเพื่อหลบความหนาวเย็นที่พัดเข้ามาทุกครั้งเมื่อประตูอัตโนมัติหน้าร้านเปิดออก

    เยี่ยซิวเสียบไอดีการ์ดเข้ากับเครื่องอ่าน ยกหูฟังขึ้นสวม ในใจนึกถึงบทสนทนาระหว่างมู่เฉิงกับพวกเฉินกั่วเมื่อครู่

    “ตลกดีที่ไม่ว่าไปที่ไหนวันนี้ก็มีแต่คนทักว่ามาสามคนหรือเปล่า”

    หลอดไฟเหนือกระพริบติด ๆ ดับ ๆ สองสามที ก่อนจะดับพรึ่บทั้งแถบโชคดีที่ไฟไม่ดับทั้งหมด แต่ก็พอทำให้บริเวณหน้าร้านมืดสลัวมีเพียงแสงไฟจากด้านนอกที่ส่องผ่านประตูกระจกเข้ามาให้ความสว่าง

    เยี่ยซิวมองนาฬิกา คำนวณเวลาในใจ ไม่ว่าจะแค่เปลี่ยนหลอดไฟหรือต้องซ่อมสวิตช์ที่เสีย เขาไม่น่าจัดการได้เสร็จก่อนถึงเวลาอีเว้นท์ อย่างไรเสียวันนี้ก็ไม่ค่อยมีคน อีกทั้งดูไม่มีลูกค้าคนไหนจะสนใจเป็นพิเศษ เพราะถึงไฟบนเพดานจะดับไปครึ่งร้านแต่ตราบใดที่คอมพิวเตอร์ยังใช้งานได้ก็ไม่มีใครคิดจะลุกขึ้นมาโวยวายให้เสียเวลา

    ทิ้งไว้พรุ่งนี้ค่อยเปลี่ยนก็ไม่น่าจะเป็นไร

    อาจเป็นเพราะความมืด หรือไม่เครื่องทำความร้อนคงจะดับไปด้วย จู่ ๆ อากาศในร้านดูจะเย็นยะเยือกขึ้นมาผิดไปจากเมื่อครู่

    “ฮัลโลวันก็เหมือนเช้งเม้งแหละ เป็นวันที่วิญญาณจะมาในโลกมนุษย์ คนอย่างเยี่ยซิวถ้ามีใครแค้นที่โดนรีดไถ่วัตถุดิบหรือโดนไล่ฆ่า จนอกแตกตายเป็นวิญญาณตามติดก็ไม่น่าแปลกใจหรอก”

    เยี่ยซิวไม่เชื่อเรื่องผีสาง หรือถ้าพูดให้ถูกเขาไม่ได้สนใจ เขามั่นใจว่าไม่น่าจะเคยทำให้ใครแค้นจนถึงขั้นเป็นวิญญาณหลอน หรือถ้ามีก็น่าจะเป็นผีเกาะหลังจวินม่อเซี่ยวหรือเยี่ยชิวมากกว่าเยี่ยซิว

    ทว่าเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในวันนี้ก็ชวนให้สะกิดใจบางอย่าง

    “ถ้าพี่มาด้วยคงจะชอบจานเมื่อกี้เนอะ”

    “พี่ไม่ให้ขนมระวังจะโดนหลอกเอานะ”

    “มู่ชิว?” ถ้อยคำหลุดรอดไปจากริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ก่อนถูกกลืนหายไปในความเงียบอย่างรวดเร็วดังที่ควรจะเป็น ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ใด แน่นอน เยี่ยซิวรู้ดีเพราะคนที่ควรจะขานรับจากไปแล้วเมื่อเนิ่นนาน

    เขาคงคิดมากไปเอง  

    ชายหนุ่มไหวไหล่ กลับมาสนใจหน้าจอเรืองแสงภาพโลโก้กลอรี่เวอร์ชั่นฮัลโลวีน ประกาศในเว็บบอร์ดประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าอีเว้นท์บอกไว้ว่า ปีนี้ทีมงานจัดเต็มทั้งภาพและเสียง ในช่วงสัปดาห์นี้ นอกจากโลโก้เกมเวอร์ชั่นฮัลโลวีนและภาพตัวละครที่สวมใส่อุปกรณ์ประจำอีเว้นท์แล้ว เสียงต้อนรับเข้าเกมที่เข้ากับเทศกาล ยังมีหลายเวอร์ชั่นและปรากกฏแบบแรนด้อม ขอให้ผู้เล่นจับตามองและตั้งใจฟังให้ดี

    เยี่ยซิวจับตามองจออย่างจดจ่อ จริง ๆ แล้วเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ไอเทมที่จะได้จากอีเว้นท์ยังน่าสนใจกว่าเยอะ

    แต่ถึงกระนั้นทุกความพยายามก็ควรได้รับการชื่นชม

    หูฟังกั้นเสียงจากภายนอก ไร้เสียงใดรบกวน เยี่ยซิวส่งเสียงพึมพำทดสอบไมค์ เขาได้ยินเสียงตัวเองอย่างชัดเจน

    ทว่าจากนั้นเพียงชั่วครู่เสียงของสายลมหวีดหวิวก็ดังลอดเข้ามาทำลายความเงียบ ประตูหน้าร้านเปิดออกแต่ไร้เงาของผู้มาเยือน สายลมจากภายนอกพัดพาใบไม้แดงใบหนึ่งปลิวลอยมาจนถึงบนเคาน์เตอร์ ก่อนที่ประตูจะปิดลงอีกครั้ง ทิ้งไว้เพียงลมหนาวและความเงียบงัน หลอดไฟเหนือหัวของเยี่ยซิวกระพริบติดๆ ดับ ๆ อีกครั้งก่อนจะกลับมาส่องสว่างตามเดิม

    เยี่ยซิวนิ่ง เงยหน้าขึ้นมองหลอดไฟและใบไม้แดงบนเคาน์เตอร์อย่างครุ่นคิด ก่อนจะบิดขี้เกียจคลายความขบเมื่อย จุดบุหรี่มวนใหม่ขึ้นสูบ

    มือขวาจับเม้าส์ มือซ้ายตั้งท่ารออยู่ที่คีย์บอร์ด

    ข้อความและเสียงต้อนรับจบไปแล้ว เหลือเพียงรอให้หน้าจอโหลดเข้าเกมเท่านั้น

    เสียงจากหูฟังเมื่อครู่แม้ติดขัดไม่ชัดเจนและปนด้วยเสียงซ่าราวกับคลื่นวิทยุถูกก่อกวนแต่ภาษาอังกฤษสำเนียงจีนที่ได้ยินกลับฟังดูคุ้นเคย คล้ายเสียงของใครบางคนที่ไม่ได้ยินมานานแต่กลับไม่เคยลืม

    Trick or Treat!!

    แต่ก็นั่นแหละ อย่างที่บอก บางทีเขาอาจจะคิดมากไปเอง

    เมื่อจวินม่อเซี่ยวในหน้าจอชักร่มแสนกลออกมาสะบัดอยู่ในท่าเตรียมพร้อม รอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเยี่ยซิว แววตาที่ง่วงซึมส่องประกาย

    เข็มนาฬิกาขยับซ้อนทับกันที่เลขสิบสอง

    เทศกาลฮัลโลวีนเริ่มต้นขึ้นแล้ว

    -Fin-

  •  Talk

    สวัสดีค่ะ ห่างหายไปจากฟิคฉวนจื๋อนานเลย (จริง ๆ มีในไหอีกสองเรื่อง แต่รู้สึกยังไม่พอใจเลยไม่ได้ลงเสียที) เห็นเป็นวันฮัลโลวีนเลยนึกถึงผี แล้วก็นึกไปถึงพี่ร่มค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงพี่เยี่ยคิดมากไปเอง หรือพี่เขาแวะมาหาก่อนอีเว้นท์ในเกมจะเริ่มจริง ๆ  

    เริ่มเขียนจากข้างล่างขึ้นข้างบน (เราชอบเริ่มจากตรงที่อยากเขียนแล้วค่อย ๆ ถมให้เต็มค่ะ) ไม่รู้ว่ามีแปลก ๆ มั๊ย ส่วนเรื่องปาร์ตี้ฮัลโลวีนเมือง H เสกขึ้นมาจากงานฮัลโลวีนที่ชิบุยะ (ญี่ปุ่น) ค่ะ

    ไอเดียโดนทักว่าคนเกิน มาจากเรื่องจริงของเราเองค่ะ ทั้ง ๆ ที่ไปเที่ยวกันสามคน แต่ตลอดทริปทั้งร้านอาหารโรงแรม แม้แต่เคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน มีแต่พนักงานถามว่าสี่คนใช่มั๊ย

    ได้แต่บอกตัวเองว่าบางทีเพื่อนในจิตนาการอาจจะมีเริ่มมีตัวตนขึ้นมาแล้วก็เป็นได้ค่ะ (...)

    หรือไม่ก็คงเป็นพี่ร่มที่มาเข้าสิงให้ปั่นฟิคออกมาด้วยความเร็วมือที่ตัวเองยังตกใจ

    สุขสันต์วันฮัลโลวีน ถ้าไม่ให้ขนมระวังโดนหลอกนะคะ 

    เมจ : )

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in