เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ลูค ไวท์ ผจญภัยห้วงนิทราKGUNTION
มนุษย์หมาป่า (1)
  • ความมืดพรางกายสัตว์ร้ายไว้มิดชิดอสูรกายหน้าขนแผ่กระแสความอำมหิตจนลูครู้สึกได้ถึงการถูกคุกคาม ประหนึ่งรับรู้ว่าเหยื่อของมันเริ่มไหวตัวไม่มีอะไรป้องกันมันจากเขา ไม่เหมือนคราวก่อนบนระเบียงห้องพักชั้นทองแดง


    เสียงความคิดหาทางออกให้กับสถานการณ์อันเลวร้ายตีกันยุ่งในหัวของลูคก่อนที่เด็กหนุ่มผู้โชคร้ายจะถูกกระโจนเข้าใส่อย่างแรงจนตัวกระเด็นไปกระแทกกับโต๊ะทดลองเหล็กจนกองหนังสือที่พะเนินสูงอยู่ข้างๆ ล้มคว่ำฝุ่นตลบเป็นแถบราวโดมิโน่ล้ม


    เขาเอามือกุมลิ้นปี่ที่เจ็บจุกจนแสบก่อนจะยันตัวยืนเด็กหนุ่มเหลียวไปเห็นขวดแก้วบรรจุของเหลวสีเขียวไข่กาตกอยู่บนพื้นห้องข้างโต๊ะทดลองที่ล้มระเนระนาดจุดประกายแผนเอาตัวรอดให้กับเด็กหนุ่ม


    สิ่งของมีน้ำหนักดังแหวกอากาศตามมาด้วยเสียงแก้วแตกเขาเขวี้ยงขวดน้ำยาเคมีใส่เข้าที่ใบหน้าของสัตว์ร้ายอย่างจังจนมันสะบัดหัวไปมาอย่างแรง 


    มันใช้กรงเล็บถูไถจับจมูกที่ยืดยาวก่อนจะเริ่มหายใจพะงาบทางปากราวกับคนเป็นภูมิแพ้อากาศใบหน้ารกรุงรังด้วยขนหยาบสีดำหันขวับมาทางเขา และเริ่มดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นห้องส่งเสียงร้องดังราวกับกำลังขาดอากาศหายใจ


    ลูครีบคว้าโอกาสซอยเท้ายิกวิ่งตรงไปยังบันไดเหล็กก่อนสายตาจะสะดุดเข้ากับประตูเหล็กเก่า ๆ บานหนึ่งซ่อนตัวอยู่หลังกองหนังสือตั้งพะเนินสูงเอียงแต่ทรงตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์


    ความคิดแล่นเข้าหัวราวกับรถแข่งวิ่งกรูเข้าสู่เส้นชัยในวินาทีตัดสินแพ้ชนะเด็กหนุ่มเปลี่ยนแผนการกระทันหันรีบวิ่งรี่ตรงไปยังประตูเหล็กเก่าบานนั้นแทนเสียงหัวใจเต้นระรัวจนอกสั่นสะท้านในวินาทีที่พบว่าบานประตูเปิดออกแค่คืบเดียวไม่เพียงพอแม้แต่จะสอดนิ้วมือเข้าไปได้ 


    ลูคเริ่มออกแรงกระแทกไหล่ยกเท้าขึ้นถีบใส่บานประตูเป็นครั้งคราว แต่กลับไร้ผลเหมือนว่ามันถูกบางสิ่งกั้นไว้จากอีกด้านหนึ่ง 


    เสียงย่างเดินบนพื้นเหล็กของมนุษย์หมาป่าดังสะท้อนก้องไปทั่วห้องเรียกความสนใจของเขาจากประตูตรงหน้า สัตว์ร้ายกลับมายืนขึ้นได้อีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบเขาเห็นแววตาแดงก่ำอาฆาตแค้นวาวโรจน์อยู่ในมุมมืดอีกฟากของห้องก่อนที่มันจะพุ่งกระโจนเข้าใส่เขาอีกเป็นครั้งที่สองด้วยความเร็วปานฟ้าผ่า!


    สัญชาติญาณกระซิบบอกให้เขาเบี่ยงตัวหลบเกือบไม่ทันอสูรหน้าขนพลาดเป้าโหม่งหัวของมันใส่บานประตูอย่างแรงจนเดินโซเซดูคล้ายเจ้าซิลเวอร์เมื่อตอนวิ่งเอาหัวโหม่งหน้าแข้งของซิดจ์ประตูเหล็กล้มโครมลงไปกองแน่นิ่งอยู่บนพื้นพร้อมกับลูคที่กระโดดตัวลอยวิ่งหนีด้วยความเร็วเต็มฝีเท้าเหมือนกวางแอนทิโลป


    แสงสว่างจากกระบอกไฟฉายส่องสว่างทางเดินมืดมิดหลังบานประตูเสียงฝีเท้าวิ่งดังเป็นจังหวะถี่สะท้อนก้องทั่วผนังปกคลุมด้วยใยแมงมุมและเศษดินหิน เขากำเครื่องแก้วในมือแน่นก่อนจะไอค่อกแค่กออกมาเพราะฝุ่นละอองในอากาศเข้าปาก


    มัวแต่ทำบ้าอะไรของแก ไปจับมันมาให้ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นหรือตาย!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเบอมิวด์แผดไล่หลังมาจากห้องทดลองก่อนที่เสียงย่ำเดินบนพื้นหินของมนุษย์หมาป่าจะดังขึ้นตามมาพร้อมกับนัยน์ตาแดงก่ำคู่หนึ่งออกวิ่งไล่


    ทางเดินหินใต้ดินพาเขามาสู่ทางตันลูคสาดแสงไฟจากกระบอกไฟฉายไปรอบตัว เขาเห็นคันโยกเก่าเกรอะสนิมติดอยู่บนผนังหินด้วยความลนลานเด็กหนุ่มรีบงัดมันลง เสียงกลไกดังขึ้นเหนือหัวชวนให้เขาแหงนมอง จู่ๆ บันไดลิงก็ร่วงลงมาตรงหน้า


    ไม่รู้มันจะพาฉันไปที่ไหน แต่ไม่ว่าที่ไหนก็ดีกว่าตายอยู่ในทางใต้ดินนี่...


    เขาเอื้อมมือขึ้นปีนป่ายบันไดเหล็กสนิมกรังขึ้นไปอย่างไม่นึกเกรงกลัวว่ามันจะพังถล่มลงมาเสียงกรงเล็บขูดกับสนิมที่เคลือบขั้นบันไดลิงไว้ดังเนือง ๆ อยู่ข้างล่างไม่มีทางเป็นสิ่งอื่นได้นอกจากมนุษย์หมาป่า เขาคิดในใจมือปีนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งด้วยความเกรงกลัวสัตว์ร้าย จนในที่สุดก็ถึงปลายทางมีเพียงแต่เพดานที่มืดมิด


    อย่าบอกนะว่าฉันต้องปีนกลับลงไป...


    เขาเงี่ยหูฟังได้ยินเสียงสายลมลอดผ่านมาจากที่ไหนสักแห่ง สายตากวาดไล่สังเกตไปรอบ ๆไม่นานก็รู้ถึงต้นตอของเสียงลม


    หรือมันจะเป็นประตู...


    แสงสว่างของดวงจันทร์ฉายพาดผ่านตัวเขาตกกระทบลงไปถึงพื้นหินเบื้องล่างเขาเห็นมนุษย์หมาป่ากำลังปีนไต่บันไดเหล็กห่างออกไปไม่ถึงสิบขั้นเด็กหนุ่มรีบกระโจนออกจากประตูกลแล้วก็ต้องตกละลึงเมื่อพบว่าประตูลับพาเขามาสู่จัตุรัสเสี้ยวจันทร์


    ไม่มีเวลามากพอจะให้คิดอะไรต่อลูครีบวิ่งกลับไปยังปากซอยซูเคร่ เขาเลี้ยวออกจากรูปปั้นรัชมาฮาล โรเซเรียที่ตั้งเด่นหราอยู่ตรงหน้า พลางคิดถึงเพื่อนอีกสองคนว่าป่านนี้พวกนั้นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง


    มาทางนี้เร็วเข้า!” เสียงซิดจ์และเบ็นจามินตะโกนเรียกเขาดังมาจากตรอกแคบๆ แห่งหนึ่ง


    พวกนายปลอด...” เขาเอ่ยเสียงสั่นด้วยความดีใจที่ได้เจอหน้าเพื่อนซี้ทั้งสอง


    นั่นมัน!” เบ็นจามินร้องเสียงหลงแทรกขึ้นมาเสียก่อนลูคหันมองตามนิ้วมือของเพื่อนเขาเห็นมนุษย์หมาป่ากำลังปีนขึ้นมาจากประตูกลหลังรูปปั้นที่เปิดอ้าไว้มันหันขวับมามองทั้งสามก่อนจะเริ่มออกวิ่งด้วยเท้าทั้งสี่ตรงมารวดเร็วเสียยิ่งกว่าตอนอยู่ในทางเดินแคบใต้ดิน


    เงาสะท้อนดวงจันทร์ในแอ่งน้ำขังบนพื้นถนนแตกกระเซ็นด้วยฝีเท้าทั้งหกข้างเสียงฝีเท้ากระทบท้องถนนเหล็กเส้นเล็กดังเป็นจังหวะตัดเฉือนความเงียบราวป่าช้าของซอยซูเคร่เสียหมดสิ้นในเวลาราวตีสามท้องถนนเปล่าเปลี่ยวไร้ซึ่งผู้คนไม่มีใครเป็นสักขีพยานเห็นเหตุการณ์อันน่าเหลือเชื่อนี้เลยแม้แต่คนเดียว


    จะเกิดอะไรขึ้นกับฟอร์ทอีสต์ หากชาวเมืองพบเห็นมนุษย์หมาป่าตัวเป็น ๆ เดินป้วนเปี้ยนไปมาบนท้องถนน ยิ่งถ้าพวกเขารู้ว่ามนุษย์หมาป่าตัวนี้ข้องเกี่ยวกับตระกูลแกรนด์โกสต์ จะเกิดอะไรขึ้น...


    ลูคคิดพลางเหลียวกลับไปมองมนุษย์หมาป่ากำลังวิ่งใกล้พวกเขาเข้ามาเรื่อย ๆ


    ป้ายร้านลูนคาเฟ่ขยับขึ้นลงอยู่ตรงหน้าตามจังหวะเท้าวิ่งลูคเห็นชินกับแอนกำลังนั่งอยู่ริมฝั่งถนนหนึ่งในนั้นกำลังโบกมือทักทายทั้งสามอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่


    หนีเร็ว!” ซิดจ์ตะโกนโหวกเหวกเสียงดังลั่น


    เสียงหวีดร้องแหลมของเด็กสาวดังขึ้นตามมาติดๆ ก่อนเจ้าของเสียงจะวิ่งกระเจิงกลับเข้าไปในบ้านก่อนเป็นคนแรกพร้อมกวักมือเรียกและร้องบอกให้พวกเขาเข้ามาหลบในบ้าน 


    เด็กสาวรีบรัวคำถามใส่ทันทีที่ปิดประตูและลงกลอนเรียบร้อยแล้วตอนนี้เธอจะดูสติแตกกว่าใครอื่น


    เรื่องพวกนั้นเอาไว้ก่อนเถอะเอาเป็นว่าตอนนี้เราไปตามอาจารย์โจชัวก่อนดีกว่าฉันไม่คิดว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นจะปล่อยเรารอดไปได้ง่าย ๆ หรอก” เบ็นจามินเอ่ยเสียงยังไม่หายหอบดีนัก


    ฝนตกอีกครั้งอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยท่ามกลางเสียงฝนกระหน่ำเม็ด ลูคได้ยินเสียงเห่าหอนของสัตว์ร้ายดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ


    โจชัวปรากฏตัวที่ชานบันไดพร้อมกับหนังสือเล่มหนายังคาอยู่ในมือไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าอาจารย์คงกำลังนั่งไล่ตรวจงานส่งทั้งเทอมของเด็กทั้งมหาลัย


    พวกเธอมาทำอะไรกันดึกดื่นป่าน…”


    โจชัวพูดยังไม่ทันจบซิดจ์ก็โพล่งขึ้นขัดด้วยความร้อนรน แย่แล้วครับอาจารย์ มนุษย์หมาป่าอยู่ข้างนอกแล้วครับ!”


    ผมว่าเรารีบโทรหาตำรวจก่อนดีกว่าครับอาจารย์” ชินเอ่ยก่อนทำทีว่าจะเดินไปยังโทรศัพท์ตั้งโต๊ะใกล้กับชั้นวางหนังสือทว่าโจชัวเดินไปขวางเขาเอาไว้


    ตำรวจงั้นเหรอ... ครูไม่เข้าใจ พวกเธอจะเรียกตำรวจไปทำไม” อาจารย์หนุ่มพูดหน้างง


    เสียงกระจกแตกเพล้งดังบาดหูพร้อมกับร่างหนึ่งปรากฏกายขึ้น ตรึงความสนใจจากทุกชีวิตในห้องไว้ราวใยแมงมุมดักแมลงสัตว์ร้ายยืนหลังค่อมอยู่กลางเศษกระจกที่ร่วงกราวอยู่เต็มพื้นขนเปียกโชกด้วยน้ำฝนของมันส่งกลิ่นเหม็นสาบรุนแรงจนลูคต้องบีบจมูกหนี 


    เด็ก ๆ รีบไปที่บันได! แอนพาทุกคนไปห้องนอนพ่อแล้วล็อกประตูด้วยกุญแจอยู่กับตัวลูกแล้วใช่ไหม” อาจารย์หนุ่มร้องบอกพร้อมกับขว้างหนังสือเล่มหนาใส่หัวมนุษย์หมาป่าเข้าอย่างจังเบี่ยงเบนความสนใจ เปิดโอกาสให้เด็ก ๆยกขโยงกันวิ่งขึ้นบันไดหนีขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน


    ลูคไม่เคยมีโอกาสได้ขึ้นมาบนชั้นสองของบ้านฮันเตอร์มาก่อนชั้นสองของบ้านดูไม่ต่างไปจากชั้นหนึ่งเลยแม้แต่น้อย ขั้นบันไดขนาบข้างด้วยชั้นหนังสือฝังตัวอยู่บนผนังวอลเปเปอร์ลายตารางหมากรุกสีขาวดำพื้นเกลื่อนกลาดด้วยเล่มหนังสือที่วางซ้อนกันอย่างไม่เป็นระเบียบคนอย่างอาจารย์โจชัวน่าจะเข้ากันกับครอบครัวลีได้ดีเสียงร้องครวญครางของโจชัวดังขึ้นจากชั้นหนึ่ง ปลุกลูคจากห้วงคิด


    พ่อ!” แอนร้องเสียงแหลมก่อนจะโอดโอยขึ้นเสียงดังเมื่อเจ้าตัวเดินสะดุดกองหนังสือและล้มลงหวิดตกบันได โชคดีที่ลูคคว้าแขนเธอไว้ได้ทัน 


    มันต้องได้ยินเสียงพวกเราแล้วแน่เลย” เบ็นจามินพูดเสียงตื่น


    คิดว่างั้น” เขาพูดพลางพยุงเด็กสาวไว้แน่นซิดจ์เห็นเช่นนั้นก็รีบปรี่เข้ามาช่วยพยุงด้วยอีกแรง


    ห้องพ่ออยู่ซ้ายมือนะ” แอนเอ่ยเสียงตะกุกตะกักเพราะเดินขากะเผลก


    ลูคเหลียวมองรอบทั่วโถงทางเดินชั้นสองประตูเหล็กลายตารางหมากรุกสีขาวดำตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงข้ามกับชั้นหนังสือลวดลายเดียวกันทุกคนรีบกรูไปยืนมุงกันอยู่หน้าประตูเพื่อรอเด็กสาวไขกุญแจห้อง


    ลมฝนพัดพากิ่งต้นไทรกระแทกใส่หน้าต่างบานกลมดังเป็นจังหวะหนักราวกับเสียงยักษ์เคาะชวนให้เขารู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่ประตูปลดล็อคดังกึก เพื่อน ๆก็รีบกรูกันเข้าไปในห้องนอนของอาจารย์โจชัว โดยมีลูคเดินรั้งท้ายกลุ่ม


    เสียงกรี๊ดจากปากแอนดังแสบหูเขากลายเป็นเป้าสายตาของนัยน์ตาฉายความตระหนกทั้งแปดดวงบนใบหน้าซีดเผือดของเพื่อนทั้งสี่ที่อยู่ในห้องนอนกันหมดทุกคนแล้ว ชั่วพริบตาลูครู้สึกหน้ามืด ตัวเบาหวิว แขนขาหมดเรี่ยวแรง ความรู้สึกเจ็บร้าวขึ้นที่ไหล่ก่อนจะเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อสัตว์ร้ายพ่นลมหายใจเหม็น ๆ รดลำแขน เขาก็นึกภาพที่น่าสยดสยองนี้ออกได้สัตว์ร้ายหน้าขนกำลังฝังเขี้ยวแหลมลงบนหัวไหล่ของเขาอยู่ 


    เสียงโครมดังขึ้นจากข้างหลังพร้อมกับใครบางคนกระแทกร่างของมนุษย์หมาป่าออกห่างจากตัวเขา เมื่อสัตว์ร้ายปล่อยคมเขี้ยวออกจากเนื้อเลือดก็เริ่มไหลนองเป็นทางเงาดำของบุรุษผู้หนึ่งกำลังประคองพาเขาเดินเข้าไปในห้องมืดซึ่งก่อนหน้านี้เขาเห็นมันเป็นเพียงชั้นหนังสือ


    ห้องมืดสลัวอึมครึมไร้ซึ่งแสงสว่างจากไฟประดิษฐ์มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านบานหน้าต่าง เพียงน้อยนิด พอให้เห็นบรรดาภาพวาดสีน้ำมันและอุปกรณ์ศิลปะที่วางเกลื่อนอยู่ทั่วทั้งห้อง


    พันแผลไว้ก่อน มันคงช่วยได้ไม่มากแต่ก็ดีกว่าตอนนี้” เสียงสุดแสนคุ้นเคยกระซิบขึ้นข้างหูของเขา


    สายฟ้าฟาดเสียงดังเปรี๊ยงลูคใจเต้นสะดุด เขาไม่ได้ตกใจเสียงฟ้า แต่เพราะแสงวับวาบของธรรมชาติพิโรธฉายให้เห็นใบหน้ามุ่นกังวลของโนเอลไวท์ ผู้เป็นพ่อกำลังจัดแจงพันผ้าห้ามเลือดอย่างขะมักเขม้น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in