เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JAPAN AND MEfindingtheocean
มองรอบตัวเพื่อไม่หลง
  • หลังจากเครื่องเทียบท่าสนามบินคันไซ ผ่านตม.เข้ามาอย่างง่ายดาย แต่ดันมามีปัญหาอยู่ที่ด่านศุลกากร เนื่องจากเราไปสองคนแต่แอร์ให้ใบกรอกมาใบเดียว ทั้งยังบอกให้ใช้ใบเดียวกัน พอมาถึงจริงๆ เราซึ่งตรวจผ่านแล้ว เดินออกมาด้านหน้าแล้ว พอคนที่มาด้วยมีปัญหาเลยจะเดินเพื่อเข้าไปอธิบาย ก็มีเสียงดังมาจากด้านข้างพร้อมถือกระบองและส่งเสียง "เฮิ่ม !!" ตกใจก้าวถอยแทบไม่ทัน ก็เลยพยายามอธิบายว่าเออนี่มาด้วยกัน ขอรอได้ไหม หน้าตาเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยที่เหมือนเอาโนบิตะมาใส่ชุดสีฟ้าจริงจังในการกันให้เราออกจากพื้นตรวจมากพร้อมบอกว่า นี่ไม่ใช่พื้นที่สำหรับรอ โอเคเราเคารพในการตัดสินใจของคุณ พอเราจะเดินออกไป เค้าก็บอกรอแปปนึงได้ แต่ไม่เข้าไปนะ ละก็หันมายิ้มนิดๆ


    ก้าวขาเข้ารถไฟใต้ดิน และหย่อนตูดนั่งบนโซฟานิ่มๆ วิวด้านหน้าเป็นคู่รักชาวเกาหลีที่เหมือนคู่แต่งงานใหม่ นั่งซบกัน จับมืิอกัน มองดูแหวนหมั้นที่เหมือนเครื่องตีตราจองทั้งคู่ รถไฟกำลังวิ่งอยู่บนสะพานด้านหลังเป็นอ่าวโอซาก้า จังหวะเพลงรักเริ่มในหัวแต่ไม่รู้ทำไมตอนนั้นกลายเป็นเพลง 'When you say noting at all'  ไปซะได้

    ระหว่างทางไปโรงแรม เราต้องเปลี่ยนสายรถไฟประมาณสามครั้ง จากสนามบินสู่ทานิมาชิ เปลี่ยนสายครั้งแรกได้รับความช่วยเหลือจาก นายสถานี เราประทับใจนายสถานีที่ประเทศญี่ปุ่นมาก เค้าทำให้รู้สึกได้ว่าหน้าที่นี้มันสำคัญจริงๆ และทุกคนก็ทำหน้าที่ของตนได้อย่างเข้าใจ

    ก่อนจะถึงการเปลี่ยนสถานีครั้งต่อไป ด้วยความที่เราไม่แน่ใจเลยสะกิดคนคนที่นั่งข้างๆ เราหน้าตาดูเป็นคนญี่ปุ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่เราคิดผิดถนัดเค้ามากันสามคนซึ่งเป็นคนจีน พอเรายื่นแผนที่ให้ดูเค้าไม่พูดอะไรสักคำ ลุกจากที่นั่งไปยืนอ่านป้ายสถานีที่เรียงรายด้วยความทุลักทุเลนิดหน่อย หันไปปรึกษากับพี่ผู้หญิงและแม่ ทั้งสามคนเปิดอินเตอร์เน็ตและช่วยกันหาอย่างแข่งขัน พี่ผู้หญิงก็บอกเราว่า 'ลงป้ายหน้าได้เลยนะ แล้วก็ไปเปลี่ยนสถานีครั้งอีกครั้ง'


    ก่อนลงทั้งสามคนหันมายิ้มให้และพูดว่า 'ขอให้พวกคุณโชคดี' โคตรเป็นความรู้สึกที่จุก และเสียสติไปพร้อมกันทีเดียวได้เลย ภาพคนจีนที่เคยเจอในประเทศไทยแทบจะลบออกจากสมองไม่ทัน การได้เห็นคนจีนในมุมที่ต่างออกไป มันช่วยย้ำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น และกลับไปย้อนมองดูตัวเองมากขึ้นเช่นกัน

    ตอนลงสถานีทุกคนโบกมือลายิ้มให้กัน ก่อนที่เราจะต้องไปต่ออีกสถานีเพื่อที่จะถึงที่หมาย ทานิมาชิ ดังอยู่ในโสตประสาทตลอดเวลา ตอนนั้นเราพยายามดูแผนที่แล้วแต่ไม่เข้าใจจริงๆ ซึ่งมันเหลืออีกแค่สถานีเดียวเท่านั้น เราเลยถามคุณลุงคุณป้าที่เดินออกมาพร้อมกัน พอยิงคำถามไปคุณลุงพอเราขึ้นและลงลิฟท์ตัวเดิมประมาณสี่รอบและวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นพร้อมพูดภาษาญี่ปุ่นใส่รัวๆ  คือลุงพยายามจะช่วยเรามากจริงๆ จนสุดท้ายลุงเองก็คงไม่รู้เราเห็นนายสถานีพอดี เค้ายื่นแผนที่และวงกลมจุดหมายของเราให้ ทำให้เรามาถึงที่ด้วยความช่วยเหลือของผู้คนตลอดทาง 

    เราขึ้นมาสู่โลกด้านบนด้วยความรู้สึกเหมือนออกจากเขาวงกตได้ รถไฟใต้ดินญี่ปุ่นคือไม่ได้ใต้ดินแบบธรรมดาชั้นเดียวแบบบ้านเรา ที่นี่ใต้ดินแล้ว ก็ยังใต้ดินได้อีก ทำให้เราค่อยข้างสับสนว่าต้องไปชั้นไหน กว่าจะออกมาได้ทั้งเรียกได้ว่าเป็นการรับน้องที่สมกับเป็นญี่ปุ่นมากๆ 


    เราเดินข้ามถนนมาขนาดเปิดกูเกิลแมพยังหลง เลเวลในการดูแผนที่เป็นศูนย์มาก แผนที่บอกเดินสองนาทีีถึงมันคงใกล้มาก แต่เราก็ยังไม่ถึงสักทีจนทนไม่ไหว มองหาตัวช่วย โชคเป็นของคุณลุงใส่สูทหน้าตาใจดีเดินผ่านมา เรารีบยื่นแผนที่ให้ดู เค้ายิ้มรับและเริ่มชวนเราพูดคุย พอเค้าจับแผนที่ได้ก็บอกว่าเดี๋ยวเราเดินไปด้วยกัน ผมเดินไปส่งเอง 

    พอเค้าเดินมาส่งคือเราขอยอมรับว่าง้าวมาก จริงๆ ไม่ต้องข้ามถนนอะไรทั้งนั้น เดินจากสถานีรถไฟและตรงไปอย่างเดียวสองนาทีก็ถึงแล้วจ้า โบกมือคำนับขอบคุณลุงที่ยอมเสียสละเวลาที่แสนไร้สาระกับเรา หลังจากถึงที่พักก็ล้างหน้าล้างตาคลายความล้า แต่ก็ยังเข้าห้องไม่ได้ ทางโรงแรมให้ฝากกระเป๋าไว้ เราเลยออกไปหาอะไรกิน เจอร้านอุด้งที่ดูคึกคักดีเราเลยเข้าไปบ้าง


    เจ้าของร้านส่งเสียงขอบคุณลูกค้าเก่าที่กำลังเดินทางออกไป และทักทายลูกค้าใหม่ที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมๆกัน เค้ายุ่งมากแต่ก็ยังยิ้มให้ลูกค้าไม่ขาดสาย เข้าไปในร้านมีทั้งคุณลุงคุณป้า และพนักงานออฟฟิศมานั่งกินอาหารเที่ยงรวมๆ กัน เราสามารถนั่งรวมกับโต๊ะไหนก็ได้ ด้วยความงงๆ และเจ้าของร้านยุ่งๆ ป้าที่นั่งซูดอุด้งเสียดังก็วางตะเกียบลงและเดินมาทางเรา พร้อมกับหยิบเมนูให้และเดินมาชี้เหมือนให้เราดูว่าต้องสั่งแบบไหนแล้วก็กลับไปนั่งที่โต๊ะตามเดิม เราสั่งอาหารเสร็จก็เอาชามไปนั่งกินกับป้าคนเดิม 


    เราสังเกตว่าพอทุกคนในร้านกินเสร็จก็เอาจานไปเก็บเอง คนที่ทำหน้าที่ล้างจานและเก็บเงินในคราวเดียวพร้อมกันก็จะส่งเสียง 'อาริงาโตะโกไซมัต' เราทำตามคนอื่นๆ เค้าส่งเสียงขอบคุณพร้อมกับยิ้มให้

     
    กลับที่พักด้วยท้องที่อิ่ม ความรู้สึกที่ดี อาบน้ำ นอนพัก หาข้อมูลตามล่าเนื้อย่างตามรีวิวต่างๆ ที่บอกกันอย่างหนาหูว่าต้องไปกินเนื้อย่างที่โกเบ เราจึงขอพักเอาแรงก่อนไปปลายทางอีกครั้ง
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in