เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JAPAN AND MEfindingtheocean
เริ่มต้นยังไงดี
  • หลังจากจบการศึกษา และกลายมาเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเต็มขั้น หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวัน ทำงานทั้งหมดหกวัน วันหยุดสะสมก็มี ลาพักร้อนครบปีก็ได้ วันหยุดเยอะเบอร์นั้นยังไม่ได้ไปไหนเพราะทำงานเกือบ 24 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าสิงเสารีสอร์ทได้คงทำไปแล้ว จากประสบการณ์ชีวิตสมัยเรียนมหาลัยนี่ซ่าอยู่แถวเกาะแถวเขาในไทย พอมาทำงานแค่กระดิกขาออกจากโต๊ะยังยากเลยพี่จ๋า

    ด้วยเวลาที่แสนจะน้อยนิด แต่โรคขี้เบื่อทำให้ขึ้นผื่นคันยิกๆ ต้องออกไปไหนสักที่ไม่งั้นคงละลายเป็นอากาศคาโต๊ะทำงาน ญี่ปุ่นเลยเป็นตัวเลือกที่โคตรง่าย ใครๆก็ไป รีวิวก็เยอะ สบายตัวแน่นอน จัดการลางาน จองตั๋วล่วงหน้า เก็บเสื้อผ้า มุ่งหน้าไปคันไซ


    จริงๆ ทริปนี้เราโคตรคาดหวังไว้เยอะ เพราะนานๆ ทีจะได้มาเที่ยว ละยังเป็นการออกนอกประเทศครั้งแรกอีก ดูจากรีวิว นู้นก็เที่ยววัด นี่ก็อวดของกิน รีวิวสายแดก สายออนเซ็น สายสวนสนุก คือแทบจะรู้ทุกมุมของญี่ปุ่นโดยไม่ต้องอ่านแผนที่ด้วยซ้ำ แต่ความจริงตรงกันข้ามเหมือนกับสุภาษิต สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น รู้ซึ้งก็ตอนนี้เลย

    เราเลือกไปญี่ปุ่นด้วยวิธีที่เราคิดว่ามันประหยัดค่าโรงแรมได้ดี คือการ 'นอนบนเครื่อง' ซึ่งใครจะไปรู้ว่าทุกอย่างจะคลาดเคลื่อนแผนไปไกลมาก แค่เริ่มเรื่องสายการบินหางแดงชื่อดังก็ล่อเครื่องดีเลย์ไป สามชั่วโมง โอ้โหคนก็โวยวายกันเละเลย เราก็หนึ่งในนั้น เพราะเราต้องต่อเครื่องซึ่งถ้าเราไปสาย จะมีเวลาต่อเครื่องแค่ 45 นาที เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ถ้าจะต้องไปติดอยู่ที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์อีกหนึ่งวัน พอไปถึงสนามบินกัวลาก็มัวแต่หลง ด้วยความที่ดึกมากแล้วพนักงานก็คงง่วง บางเคาน์เตอร์มีการเอามะม่วงมาจิ้มเกลือกินกันแก้ง่วง และเราก้ต้องถามทุกเคาน์เตอร์ เราจะเจอกับความหลากหลายของพนักงานแต่ละเคาน์เตอร์ไปเรื่อยๆ เพราะค่อนข้างสับสน ต้องถามทางตลอด


    พอเราไปถึงเกทที่เฉียดชิวไปนิดเดียว คนตรวจตั๋วถึงพูดเชิงบ่นนิดๆ ว่า 
    พี่หน้าเข้ม : คุณมาจากไทยหรอ
    เรา : ใช่ค่ะ เครื่องดีเลย์เกือบมาไม่ทัน
    พี่หน้าเข้ม : คุณโชคดีมากนะ หลายคนไม่โชคดีแบบคุณ ครั้งต่อไปผมแนะนำว่าให้บินตรง อย่าต่อเครื่องจากไทย เพราะคุณอาจไม่โชคดีทุกครั้ง
    เรา : ไม่อีกแน่นอนจ้า

    คือตลอดสามชั่วโมงกว่าตอนอยู่ไทย ฝั่งไทยพูดมาตลอดว่าฝั่งที่ผิด คือ มาเล เค้าไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์อะไรได้ เพราะฝั่งโน้นแจ้งเลื่อนการบินออกอย่างไม่มีกำหนด พอมาถึงมาเลนี่ก็ใส่ไทยเป็นชุดว่าไม่เคยตรงเวลา โยนกันไปมา จนเราไม่อยากหาเวลามานั่งจับผิด และก็ทำให้ได้รู้ว่า ฟังความข้างเดียวนี่ไม่เคยใช้ได้ผล ขนาดฟังความสองข้างยังไม่ได้ผลเลย 

    หลังจากขึ้นเครื่องมาสักพักแอร์จะแจกเหมือนใบสัมพากร เราถามหลายรอบมากว่าไม่ใช่ 1 คนต่อ 1 ใบหรอ เพราะเรามากันสองคน นางก็ยืนยันเป็นเสียงแข็งว่า ' Just only one is enough ' เราเลยได้แต่ทำตามนางไป โดยไม่โต้แย้งอะไรต่อไป 


    กึ่งหลับกิึ่งตื่นจนเช้า สิ่งที่ดีสุดในการเดินทาง เกือบ 24 ชั่วโมงแรก คือ โกโก้ร้อนราคา 50 บาท กับพระอาทิตย์ขึ้นริมหน้าต่างเครื่องบินที่ทำให้ลืมเรื่องวุ่นวาย ไปได้อย่างน้อยก็สองชั่วโมงก่อนถึงที่หมาย จริงๆ ที่ลืมเพราะแสบคอโกโก้หวานมาก 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in