หลังจากที่ฟาดปูเค็มและขนมหวานไปแล้ว เราก็พร้อมจะเดินทางไปยัง Jiyugaoka กันต่อ
เรากับพี่เดินกลับไปยังสถานี Shinagawa แล้วนั่ง Keihin-Tohoku Line ไปลงสถานี Oimachi พอถึงแล้วก็แปะบัตรกวิ้นเดินออกไปนอกสถานีเพื่อเปลี่ยนไปนั่ง Tokyu Oimachi Line ซึ่งสถานี Oimachi เป็นต้นสายพอดี
ระหว่างทางเจอตู้ที่มียาคูลท์ด้วย เลยกดมาลอง 2 ขวด 90 เยน (ควักเหรียญ 10 เยนทั้งหมดที่มีออกมาหยอด) อืม อร่อยดี เหมือนบ้านเราเป๊ะ 55555
ว่าแต่ Jiyugaoka มีอะไร ?
ถ้าพิมพ์คำว่า Jiyugaoka ใน google เราจะเจอพ่วงต่อด้วยคำว่า Sweet Forest ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวบรวมร้านเค้กน่ารัก ๆ ไว้หลายร้าน (ราคาก็เช่นกัน) เมื่อค้นข้อมูลไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอว่าย่านนี้จะเป็นย่านที่มีแต่ร้านรวงน่ารัก ๆ มีของชิค ๆ เก๋ ๆ ขนมน่ากินเต็มไปหมด
และก่อนจะมาเที่ยวเพื่อนเราก็เคยบอกว่า "เธอต้องชอบย่านนี้แน่ ๆ"
ความคาดหวังสูงปรี๊ดเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่ทำให้เราอยากมา Jiyugaoka คือร้าน Popeye Camera เป็นร้านอัดรูปที่ขายกล้องและของกระจุกกระจิกเกี่ยวกับการถ่ายภาพเต็มไปหมด และนอกจากนี้เรายังอยากไปกินข้าวห่อไข่ร้าน Rakeru อีกด้วย
ตอนที่ไปถึง ท้องยังอิ่มมาก เลยไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี (พออิ่มแล้วก็ขี้เกียจอีก) เลยเดินดูหน้าสถานีก่อนจะได้ยินเสียงแก๊ง ๆ เป็นสัญญาณบอกว่ารถไฟกำลังจะผ่านมาแล้วนะ เราเลยบอกพี่ว่าขอวิ่งไปดูแป๊บนึง
เวลาเห็นแผงกัั้นรถไฟลงมาชอบวิ่งไปดู ไม่รู้เป็นอะไร แค่รู้สึกว่าชอบตอนเวลารถไฟวิ่งผ่านถนนแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ปกติเวลารถไฟผ่านตรงยมราชนี่บ่นแล้วบ่นอีก 55555555
พอใจกับรถไฟแล้ว พี่เราก็บอกว่าไปห้าง Peacock กันหน่อย ตรงนั้นเคยเป็นโรงเรียนโทโมเอ (โรงเรียนที่โต๊ะโตะจังเคยเรียน) แต่ว่าโรงเรียนถูกไฟไหม้ไปเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนี้เลยกลายเป็นห้างฯ แทน
ว่าแล้วก็เดินไปตามพิกัดที่หามา ยืนมองดูข้างนอกอย่างเดียว ไม่ได้เข้าไป
หลังจากนั้นก็เดิินเล่น ทอดน่องไปเรื่อย ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะทอดน่องหรอก แต่ร่างกายมันเพลีย ๆ สะสมมาหลายวันเลยเดินกันได้ช้า 55555
ร้านน่ารัก ๆ เต็มไปหมด เดิน ๆ สักพักก็เริ่มขี้เกียจ เลยไปหาร้านป๊อบอายดีกว่า
ภายในร้านมีของกระจุกกระจิกเต็มไปหมด แต่ราคาไม่ค่อยกระจุกกระจิก เราเลยได้แต่มอง ทั้งที่ก่อนจะมาตั้งใจจะซื้อ Camera Strap แท้ ๆ (เรามันปอดแหกเอง)
เดินออกมาจากร้านก็เดินไปหาร้านข้าวห่อไข่ต่อ ปรากฏว่าเดินไปถึงหน้าร้านแล้วยังไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด เอายังไงดี ถ้าจะรอจนหิวก็คงไม่ไหว เลยตัดใจ ถ่ายรูปหน้าร้านแล้วเดินเล่นต่ออีกสักพัก
หลังจากนั้นก็เดินวนไปวนมาแล้วกลับมานั่งหน้าสถานี ความจริงแล้ว Jiyugaoka มันก็เป็นสถานที่ที่ดีนะ เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่เราไม่ตื่นเต้นกับมันเท่าที่ควรเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะว่าเราใช้ความตื่นเต้นไปกับ Komachi-Dori แล้วมั้ง พอมาที่นี่เลยรู้สึก อ๋อ... มันก็เป็นอย่างที่คิดเลย บวกกับร่างกายทีี่อ่อนล้าด้วย เลยรู้สึกเอื่อยเฉื่อยเป็นสล็อธเมื่อย
แผนต่อไปของเราก็คือนั่งรถไฟไป Akihabara เพื่อหาของเล่นอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับ Neko Atsume เพราะเสียเงินให้ตู้คีบไปเยอะแล้วยังไม่ได้อะไรมาเลยสักอย่าง พวกเราคิดว่าอากิบะน่าจะตอบโจทย์ อย่างน้อยมันคงจะมีกาจาปองให้หมุนบ้าง....
พอถึงสถานี เราเดินออกมาเจอ AKB48 Cafe และเจอคนเหมือนกำลังถ่ายรายการอะไรสักอย่างกันอยู่
เดินออกมาอีกฝั่ง เอ๊ะ... อะไรเหลือง ๆ อีกแล้ววะ คุ้นจัง
มองซ้ายมองขวา ไปไหนก่อนดี ไม่คิดว่าจะมาเลยไม่ได้เตรียมตัว
เดิน ๆ มั่วเข้ามาตึกนึง มารู้ทีหลังว่าที่นี่คือ Radio Kaikan เจอแกงกะหรี่วันพีซ
และแล้วก็เจออออออออออออออออออออออออออออออออออ
หยอดไปได้นิดนึง เหรียญหมด เลยเดินไปถามพนักงาน เขาพาเดินมาตรงตู้แลกเหรียญ โอ้โห ทำไมมันช่างสะดวกต่อการเสียเงินเช่นนี้นะ
หลังจากนั้นก็แวะไปซื้อคุกกี้ Pablo เป็นของฝากชาวไทย มันอร่อยมากอ่ะ อร่อยจนอยากจะรณรงค์ให้คนเลิกซื้อกล้วยโตเกียวกันได้แล้ว พอซื้อเสร็จเราก็นั่งรถไฟกลับมายังสถานี Ueno เห็นแสงยังมีอยู่ เราเลยออกไปเดินเล่นในสวน เพราะเห็นจาก twitter ว่าซากุระเริ่มบานแล้วบางต้น
เดิน ๆ มาเจอเจ้าต้นนี้ก่อน เอ๊ะ... ไม่เหมือนที่คิดนะ เดินไปอ่านป้าย มันเขียนว่า kanhizakura
ถ่ายเสร็จก็คิดในใจ อืม... แค่นี้เองเหรอวะ เลยเดินไปนั่งตรงลานกว้าง ๆ มองดูพ่อแม่ที่พาลูกเล็ก ๆ มาหัดเดิน ดูเด็ก ๆ เล่นวิ่งไล่จับ ดูวัยรุ่นพยายามจะถ่ายคลิปอะไรสักอย่าง ดูคู่รักนั่งงุ้งงิ้งกัน
ภาพช่วงนี้เอาฟูเจียนมาถ่าย แทบจะไม่โฟกัสเลย แต่ขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์ 555555
ระหว่างนั้นก็หันไปเห็นคุณลุงคนนึงเดินลากหมาชิบะที่กำลังพยายามไล่งับหางตัวเอง มันดูคลั่งมากจนป้าสองคนต้องหยุดถามว่ามันเป็นอะไร ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ลุงแกเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร ป้าสองคนนั้นก็เดินจากไป ส่วนคนแถวนั้นก็ทั้งมองทั้งถ่าย สงสัยมากว่ามันเป็นอะไร รวมทั้งเราด้วย 5555
นั่งจนเบื่อก็ลุกเดินไปทางสวนสัตว์ที่ปิดทำการแล้ว เลยแวะถ่ายตู้ไปรษณีย์แพนด้ามา
หลังจากนั้นก็เดินไปเรื่อย ๆ เจอซากุระบานแล้ว ต้นนี้น่าจะเป็นสายพันธุ์ซึ่งเป็นที่นิยม แต่ถ่ายออกมาได้ไม่สวยเท่าไหร่เพราะแสงเริ่มหมดแล้ว
ระหว่างที่กำลังตื่นเต้นกับซากุระครั้งแรกนั้น เราก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่กับพื้น ใช้เลนส์ 70-200 เกรดโปรกำลังส่องอะไรบางอย่างอยู่ เราเข้าใจว่าเขาคงกำลังถ่ายซากุระที่ร่วงบนพื้นมั้ง ปรากฏว่าไม่ใช่... แต่เห็นเป็นก้อนขาว ๆ ดำ ๆ กำลังขยับ
เฮ้ย ! แมว !
อยู่มา 5 วันเพิ่งจะเห็นแมวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ซึ่งการถ่ายภาพแมวญี่ปุ่นนี้ก็เป็น 1 ในลิสต์ที่เราต้องทำให้ได้ในทริปนี้ ไชโย!
ตอนแรกมันเดินหนี แล้วก็หันมาทำหน้าแบบนี้แหละ ก่อนจะนั่งให้คนถ่าย (อิแมวนี่...)
สักพักก็มีลุงคนนึงเดินมานั่งพร้อมถุงพลาสติกสีขาว เจ้าแมวตัวนี้ก็เดินไปหาด้วยท่าทางสนิทสนม พอเห็นสิ่งที่ลุงล้วงออกมาเท่านั้นแหละ อ๋อ.... อิแมวเห็นแก่กิน 555555
ยืนมองอยู่สักพักจนพอใจ รู้สึกประสบความสำเร็จมาก ๆ ยิ่งกว่าได้เจอซากุระและฟูจิซังซะอีก พอหันไปอีกด้านก็เห็น... เฮ้ย ! 3 ตัว ! นอนขดกันเป็นก้อนอยู่ใต้ต้นไม้
ฟินมาก พูดจริง ๆ 555555555555555555555555555555555555555555
พอแสงเริ่มหมดจริง ๆ อากาศก็เริ่มเย็นลง เรากับพี่เลยเดินไปทางตลาดเพื่อซื้อกระเป๋า anello และไปดูรองเท้า พี่เรายังไม่ได้รองเท้าเลยสักคู่เลยเริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้ว ต้องได้สิ ต้องได้ เดิน ๆ มาทางพิกัดร้านที่จะซื้อกระเป๋าก็เจอ Shoe Plaza ท่าทางจะมีรองเท้าเยอะดี ซึ่งก็เยอะจริง ๆ และที่สำคัญมีไซส์พี่เรา (เท้าเล็กมาก)
พอซื้อเสร็จก็เดินมาฝั่งตรงข้าม นั่นก็คือร้าน Magazines ตอนแรกก็ตกใจว่าทำไมไม่เห็นมีกระเป๋าอยู่หน้าร้านแบบใน IG วะ แต่เราก็ลองเดินเข้าไป ปรากฏว่าร้านมันเป็นรูปตัว L มีทางเข้าออก 2 ด้าน ฝั่งที่มีกระเป๋าคือฝั่งที่เป็นหน้าร้านมี 2 ห้องติดกัน
ความจริงของในร้านน่าสนใจหลายอย่าง แต่เราขี้เกียจดูแล้ว บอกพนักงานว่าจะเอากระเป๋าใบนี้ ๆ สรุปได้มา 3 ใบ ขึ้นไปจ่ายเงินที่ชั้น 2 พอเสร็จแล้วก็เดินมาซื้อสตรอเบอร์รี่กิน อืม... เฉย ๆ อ่ะ ของที่ซื้อจากลอว์สันอร่อยกว่านะ
แล้วเราก็เดินผ่านร้านที่มีซูชิธรรมดา ๆ ขาย ในร้านมีปิ้งย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย มีซาลารีมังกินข้าวกันอยู่ ตอนนั้นไม่หิวเท่าไหร่แต่คิดว่าเดี๋ยวคงหิว และเห็นคนไม่เยอะเลยสั่งอะไรมากินสักหน่อย
พอเดินออกมาจากร้านก็เจอเกมเซ็นเตอร์ เห็นตู้ Neko Atsume เลยเอาสักหน่อย รอบสุดท้ายก่อนกลับ แน่นอนว่าไม่ได้ 5555555555555555555555555
โอเค เราเสียเงินกันจนพอใจแล้ว กลับห้องไปเก็บสัมภาระเพื่อเตรียมตัวกลับประเทศกันเถอะ
- จบวันที่ 5 -
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in