เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โตเกียวเที่ยวแรกในแบบของเราSor Winchester
008 : Jiyugaoka ซากุระครั้งแรก และแมวในสวน Ueno
  • หลังจากที่ฟาดปูเค็มและขนมหวานไปแล้ว  เราก็พร้อมจะเดินทางไปยัง Jiyugaoka กันต่อ

    เรากับพี่เดินกลับไปยังสถานี Shinagawa แล้วนั่ง Keihin-Tohoku Line ไปลงสถานี Oimachi  พอถึงแล้วก็แปะบัตรกวิ้นเดินออกไปนอกสถานีเพื่อเปลี่ยนไปนั่ง Tokyu Oimachi Line ซึ่งสถานี  Oimachi เป็นต้นสายพอดี

    ระหว่างทางเจอตู้ที่มียาคูลท์ด้วย  เลยกดมาลอง 2 ขวด 90 เยน (ควักเหรียญ 10 เยนทั้งหมดที่มีออกมาหยอด)  อืม  อร่อยดี  เหมือนบ้านเราเป๊ะ  55555  


    ว่าแต่ Jiyugaoka มีอะไร ? 

    ถ้าพิมพ์คำว่า Jiyugaoka ใน google เราจะเจอพ่วงต่อด้วยคำว่า Sweet Forest ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวบรวมร้านเค้กน่ารัก ๆ ไว้หลายร้าน (ราคาก็เช่นกัน)  เมื่อค้นข้อมูลไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอว่าย่านนี้จะเป็นย่านที่มีแต่ร้านรวงน่ารัก ๆ มีของชิค ๆ เก๋ ๆ ขนมน่ากินเต็มไปหมด  

    และก่อนจะมาเที่ยวเพื่อนเราก็เคยบอกว่า "เธอต้องชอบย่านนี้แน่ ๆ"

    ความคาดหวังสูงปรี๊ดเลยทีเดียว

    แต่สิ่งที่ทำให้เราอยากมา Jiyugaoka คือร้าน Popeye Camera เป็นร้านอัดรูปที่ขายกล้องและของกระจุกกระจิกเกี่ยวกับการถ่ายภาพเต็มไปหมด  และนอกจากนี้เรายังอยากไปกินข้าวห่อไข่ร้าน Rakeru อีกด้วย


    ตอนที่ไปถึง  ท้องยังอิ่มมาก  เลยไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี (พออิ่มแล้วก็ขี้เกียจอีก) เลยเดินดูหน้าสถานีก่อนจะได้ยินเสียงแก๊ง ๆ เป็นสัญญาณบอกว่ารถไฟกำลังจะผ่านมาแล้วนะ  เราเลยบอกพี่ว่าขอวิ่งไปดูแป๊บนึง


    เวลาเห็นแผงกัั้นรถไฟลงมาชอบวิ่งไปดู  ไม่รู้เป็นอะไร  แค่รู้สึกว่าชอบตอนเวลารถไฟวิ่งผ่านถนนแบบนี้  ทั้ง ๆ ที่ปกติเวลารถไฟผ่านตรงยมราชนี่บ่นแล้วบ่นอีก 55555555 


    พอใจกับรถไฟแล้ว  พี่เราก็บอกว่าไปห้าง Peacock กันหน่อย  ตรงนั้นเคยเป็นโรงเรียนโทโมเอ (โรงเรียนที่โต๊ะโตะจังเคยเรียน) แต่ว่าโรงเรียนถูกไฟไหม้ไปเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนี้เลยกลายเป็นห้างฯ แทน

    ว่าแล้วก็เดินไปตามพิกัดที่หามา  ยืนมองดูข้างนอกอย่างเดียว  ไม่ได้เข้าไป

    หลังจากนั้นก็เดิินเล่น  ทอดน่องไปเรื่อย  ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะทอดน่องหรอก  แต่ร่างกายมันเพลีย ๆ สะสมมาหลายวันเลยเดินกันได้ช้า 55555  

    ร้านน่ารัก ๆ เต็มไปหมด  เดิน ๆ สักพักก็เริ่มขี้เกียจ  เลยไปหาร้านป๊อบอายดีกว่า  
    ภายในร้านมีของกระจุกกระจิกเต็มไปหมด  แต่ราคาไม่ค่อยกระจุกกระจิก  เราเลยได้แต่มอง  ทั้งที่ก่อนจะมาตั้งใจจะซื้อ Camera Strap แท้ ๆ (เรามันปอดแหกเอง)
    เดินออกมาจากร้านก็เดินไปหาร้านข้าวห่อไข่ต่อ  ปรากฏว่าเดินไปถึงหน้าร้านแล้วยังไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด  เอายังไงดี  ถ้าจะรอจนหิวก็คงไม่ไหว  เลยตัดใจ  ถ่ายรูปหน้าร้านแล้วเดินเล่นต่ออีกสักพัก

    หลังจากนั้นก็เดินวนไปวนมาแล้วกลับมานั่งหน้าสถานี  ความจริงแล้ว Jiyugaoka มันก็เป็นสถานที่ที่ดีนะ  เป็นไปตามที่คาดหวัง  แต่เราไม่ตื่นเต้นกับมันเท่าที่ควรเท่าไหร่  อาจเป็นเพราะว่าเราใช้ความตื่นเต้นไปกับ Komachi-Dori แล้วมั้ง  พอมาที่นี่เลยรู้สึก  อ๋อ...  มันก็เป็นอย่างที่คิดเลย  บวกกับร่างกายทีี่อ่อนล้าด้วย  เลยรู้สึกเอื่อยเฉื่อยเป็นสล็อธเมื่อย

    แผนต่อไปของเราก็คือนั่งรถไฟไป Akihabara เพื่อหาของเล่นอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับ Neko Atsume เพราะเสียเงินให้ตู้คีบไปเยอะแล้วยังไม่ได้อะไรมาเลยสักอย่าง  พวกเราคิดว่าอากิบะน่าจะตอบโจทย์  อย่างน้อยมันคงจะมีกาจาปองให้หมุนบ้าง....

    พอถึงสถานี  เราเดินออกมาเจอ AKB48 Cafe  และเจอคนเหมือนกำลังถ่ายรายการอะไรสักอย่างกันอยู่


    เดินออกมาอีกฝั่ง  เอ๊ะ...  อะไรเหลือง ๆ อีกแล้ววะ  คุ้นจัง
    มองซ้ายมองขวา  ไปไหนก่อนดี  ไม่คิดว่าจะมาเลยไม่ได้เตรียมตัว

    เดิน ๆ มั่วเข้ามาตึกนึง  มารู้ทีหลังว่าที่นี่คือ Radio Kaikan  เจอแกงกะหรี่วันพีซ


    และแล้วก็เจออออออออออออออออออออออออออออออออออ


    หยอดไปได้นิดนึง  เหรียญหมด  เลยเดินไปถามพนักงาน  เขาพาเดินมาตรงตู้แลกเหรียญ โอ้โห  ทำไมมันช่างสะดวกต่อการเสียเงินเช่นนี้นะ

    หลังจากนั้นก็แวะไปซื้อคุกกี้ Pablo เป็นของฝากชาวไทย  มันอร่อยมากอ่ะ  อร่อยจนอยากจะรณรงค์ให้คนเลิกซื้อกล้วยโตเกียวกันได้แล้ว  พอซื้อเสร็จเราก็นั่งรถไฟกลับมายังสถานี Ueno เห็นแสงยังมีอยู่  เราเลยออกไปเดินเล่นในสวน  เพราะเห็นจาก twitter ว่าซากุระเริ่มบานแล้วบางต้น

    เดิน ๆ มาเจอเจ้าต้นนี้ก่อน  เอ๊ะ... ไม่เหมือนที่คิดนะ  เดินไปอ่านป้าย  มันเขียนว่า kanhizakura

    ถ่ายเสร็จก็คิดในใจ  อืม...  แค่นี้เองเหรอวะ  เลยเดินไปนั่งตรงลานกว้าง ๆ  มองดูพ่อแม่ที่พาลูกเล็ก ๆ มาหัดเดิน  ดูเด็ก ๆ เล่นวิ่งไล่จับ  ดูวัยรุ่นพยายามจะถ่ายคลิปอะไรสักอย่าง  ดูคู่รักนั่งงุ้งงิ้งกัน  


    ภาพช่วงนี้เอาฟูเจียนมาถ่าย  แทบจะไม่โฟกัสเลย  แต่ขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์  555555

    ระหว่างนั้นก็หันไปเห็นคุณลุงคนนึงเดินลากหมาชิบะที่กำลังพยายามไล่งับหางตัวเอง  มันดูคลั่งมากจนป้าสองคนต้องหยุดถามว่ามันเป็นอะไร ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ลุงแกเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร  ป้าสองคนนั้นก็เดินจากไป  ส่วนคนแถวนั้นก็ทั้งมองทั้งถ่าย  สงสัยมากว่ามันเป็นอะไร  รวมทั้งเราด้วย  5555
    นั่งจนเบื่อก็ลุกเดินไปทางสวนสัตว์ที่ปิดทำการแล้ว  เลยแวะถ่ายตู้ไปรษณีย์แพนด้ามา
    หลังจากนั้นก็เดินไปเรื่อย ๆ  เจอซากุระบานแล้ว  ต้นนี้น่าจะเป็นสายพันธุ์ซึ่งเป็นที่นิยม  แต่ถ่ายออกมาได้ไม่สวยเท่าไหร่เพราะแสงเริ่มหมดแล้ว
    ระหว่างที่กำลังตื่นเต้นกับซากุระครั้งแรกนั้น  เราก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่กับพื้น  ใช้เลนส์ 70-200 เกรดโปรกำลังส่องอะไรบางอย่างอยู่  เราเข้าใจว่าเขาคงกำลังถ่ายซากุระที่ร่วงบนพื้นมั้ง  ปรากฏว่าไม่ใช่...  แต่เห็นเป็นก้อนขาว ๆ ดำ ๆ กำลังขยับ

    เฮ้ย !  แมว !

    อยู่มา 5 วันเพิ่งจะเห็นแมวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก  ซึ่งการถ่ายภาพแมวญี่ปุ่นนี้ก็เป็น 1 ในลิสต์ที่เราต้องทำให้ได้ในทริปนี้  ไชโย! 
    ตอนแรกมันเดินหนี  แล้วก็หันมาทำหน้าแบบนี้แหละ  ก่อนจะนั่งให้คนถ่าย  (อิแมวนี่...)

    สักพักก็มีลุงคนนึงเดินมานั่งพร้อมถุงพลาสติกสีขาว  เจ้าแมวตัวนี้ก็เดินไปหาด้วยท่าทางสนิทสนม  พอเห็นสิ่งที่ลุงล้วงออกมาเท่านั้นแหละ  อ๋อ....  อิแมวเห็นแก่กิน  555555
    ยืนมองอยู่สักพักจนพอใจ  รู้สึกประสบความสำเร็จมาก ๆ ยิ่งกว่าได้เจอซากุระและฟูจิซังซะอีก  พอหันไปอีกด้านก็เห็น...  เฮ้ย !  3 ตัว !  นอนขดกันเป็นก้อนอยู่ใต้ต้นไม้
    ฟินมาก  พูดจริง ๆ  555555555555555555555555555555555555555555

    พอแสงเริ่มหมดจริง ๆ อากาศก็เริ่มเย็นลง  เรากับพี่เลยเดินไปทางตลาดเพื่อซื้อกระเป๋า anello และไปดูรองเท้า  พี่เรายังไม่ได้รองเท้าเลยสักคู่เลยเริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้ว  ต้องได้สิ  ต้องได้  เดิน ๆ มาทางพิกัดร้านที่จะซื้อกระเป๋าก็เจอ Shoe Plaza ท่าทางจะมีรองเท้าเยอะดี  ซึ่งก็เยอะจริง ๆ และที่สำคัญมีไซส์พี่เรา (เท้าเล็กมาก)
    พอซื้อเสร็จก็เดินมาฝั่งตรงข้าม  นั่นก็คือร้าน Magazines ตอนแรกก็ตกใจว่าทำไมไม่เห็นมีกระเป๋าอยู่หน้าร้านแบบใน IG วะ  แต่เราก็ลองเดินเข้าไป  ปรากฏว่าร้านมันเป็นรูปตัว L มีทางเข้าออก 2 ด้าน  ฝั่งที่มีกระเป๋าคือฝั่งที่เป็นหน้าร้านมี 2 ห้องติดกัน
    ความจริงของในร้านน่าสนใจหลายอย่าง  แต่เราขี้เกียจดูแล้ว  บอกพนักงานว่าจะเอากระเป๋าใบนี้ ๆ สรุปได้มา 3 ใบ  ขึ้นไปจ่ายเงินที่ชั้น 2  พอเสร็จแล้วก็เดินมาซื้อสตรอเบอร์รี่กิน  อืม... เฉย ๆ อ่ะ  ของที่ซื้อจากลอว์สันอร่อยกว่านะ 
    แล้วเราก็เดินผ่านร้านที่มีซูชิธรรมดา ๆ ขาย  ในร้านมีปิ้งย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย  มีซาลารีมังกินข้าวกันอยู่  ตอนนั้นไม่หิวเท่าไหร่แต่คิดว่าเดี๋ยวคงหิว  และเห็นคนไม่เยอะเลยสั่งอะไรมากินสักหน่อย
    พอเดินออกมาจากร้านก็เจอเกมเซ็นเตอร์  เห็นตู้ Neko Atsume เลยเอาสักหน่อย  รอบสุดท้ายก่อนกลับ แน่นอนว่าไม่ได้ 5555555555555555555555555


    โอเค  เราเสียเงินกันจนพอใจแล้ว  กลับห้องไปเก็บสัมภาระเพื่อเตรียมตัวกลับประเทศกันเถอะ

    - จบวันที่ 5 -

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in