เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โตเกียวเที่ยวแรกในแบบของเราSor Winchester
007 : หัวลำโพงพรีเมียม และ บุฟเฟต์ปูเค็ม
  • มิชชันหลักสำหรับวันนี้คือกินปู

    ปูที่ขายาว ๆ  ตัวใหญ่ ๆ แดง ๆ ที่เห็นขายแพง ๆ ในซูเปอร์มาเก็คบ้านเราน่ะแหละ  

    อยากกินกันมากถึงขนาดจองบุฟเฟต์นานาชาติ(ที่มีปู)เอาไว้  เพราะกลัวพลาด

    แต่ก่อนหน้านั้นเราจะแวะไปที่สถานีโตเกียวเพื่อชื่นชมสถาปัตยกรรมอันแสนงดงามและแวะซื้อสินค้า OTOP อีกรอบ

    เช้าวันนั้นเราออกจากห้องกันก่อน 8 โมง  เดินต๊อก ๆ มาสถานี JR Ueno แล้วนั่ง Yamanote Line ไปสถานี Tokyo

                                               (ชั่วโมงกำลังจะเร่งด่วน  คนยังไม่เยอะมาก)


    และเนื่องจากอากาศในวันนี้อุ่นกว่า 4 วันที่ผ่านมาเราเลยเปลี่ยนเสื้อตัวนอก  และการเปลี่ยนเสื้อตัวนอกทำให้เราลืมไปว่าเราเอาบัตรกวิ้นใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวนั้น  มองหน้าพี่แล้วถามเอาไงดี  ยังต้องเดินทางอีกนิดหน่อยและซื้อของ เลยตัดสินใจซื้อใบใหม่อีกใบ

    อยู่ ๆ ก็เสียเงินเพิ่ม 500 เยน  

    เสียดายนะ  หมุนกาจาปองได้ตั้ง 2 อัน ซื้อน้ำเปล่าได้ตั้ง 5 ขวด  ซื้อขนมได้ตั้ง... ฯลฯ

    แต่เพื่อความสะดวกเราก็ยอม  และคิดว่าคงได้ใช้มันอีกแหละ


    พอซื้อเสร็จก็เห็นชาวเอเชียสองคนเดินตรงมาทางนี้  พร้อมเปิดไฮเปอร์เดียที่เป็นภาษาจีนและถามทางเป็นภาษาอังกฤษว่าจะไปสถานีนียังไง มอง ๆ ดูเขาจะไปสถานีโตเกียว  เราเลยช่วยเขาซื้อตั๋ว  แต่ตอนนั้นลืมแนะนำเขาว่าทำไมไม่ซื้อ suica card ไว้สักใบล่ะ  มันสะดวกมากเลยนะ (มานึกได้ก็ตอนสายไปแล้ว)


    พอช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เสร็จเราก็มุ่งหน้าไปสถานีโตเกียว เรามาถึงกันค่อนข้างเช้า  เพราะร้านรวงในสถานียังไม่เปิด  มีแค่บางส่วนที่ขายของฝากเปิดร้านแล้ว  เรากับพี่เดินออกจาก Yaesu Exit มันมี South , Central , North ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องออกทางไหน  เลยเลือก Central เพื่อความปลอดภัย  ปรากฏว่ามันเชื่อมถึงกัน  ออกทางไหนก็เหมือนกันให้เป็น Yaesu Exit ถ้าจะมาทางพวกร้านที่ขายสินค้าคาแรคเตอร์  

    เดิน ๆ มาก็จะเจอป้ายนี้  ข้างหน้าเป็นห้าง Daimaru 

                                                               มองต่ำลงมานิดจะเจอป้ายนี่


    พอลงมาสำรวจพวกร้านคาแรคเตอร์  ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย  เขาเปิดกัน 10 โมง เราเลยเดินอ้อมไปยังอีกด้านเพื่อไปยัง Marunouchi Exit ซึ่งเป็นทางออกที่จะพาเราไปยังด้านหน้าของสถานีโตเกียว

    พอออกมาถึงก็ผงะไปเล็กน้อยเมื่อเจอไซต์งานก่อสร้าง เฮ้ นี่มันคล้ายกับหัวลำโพงมากเลยนะเพราะตอนนี้กำลังก่อสร้างเช่นกัน เริ่มเข้าใจฝรั่งที่มาเที่ยวแถว ๆ หัวลำโพงตอนนี้แล้ว

    อนึ่ง  เราทำงานแถวหัวลำโพง  เลยตกใจมาที่เดินออกมาจากสถานีโตเกียวแล้วเจอแบบนี้ โอ้วววว ไม่นะ 5555555555555555555 เดจาวูสึส

    ย้อนแสงอีก  ไม่ศึกษาที่ทางแสงก่อนมาเลย  ชีวิตนี้คงเป็นช่างภาพไม่ได้ 555555 

    หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้ามาด้านไหน  ลองสำรวจร้านที่เปิดแล้ว  มองเห็น เอ๊ะ...  อะไรเหลือง ๆ น่ะ  ช้าก่อน  นั่นมัน...

    หลอกหลอนจริง ๆ  เราเลยลองซื้อชูครีมรูปร่างสี่เหลี่ยมลูกตั๋วมาลอง  เราว่าเฉย ๆ อ่ะ  ชีสทาร์ตอร่อยสุด
    หลังจากนั้นก็ลงมารอด้านล่างเพราะไม่รู้จะไปไหนแล้ว  แวะริลัคคุมะช้อป  ที่นี่โคกุมะจังก็ไม่มีอีกเหมือนกัน  ด้วยความโมโหเลยไประบายอารมณ์ที่นี่แทน... (คือตั้งใจจะมาอยู่แล้วด้วย)


    อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าที่นี่เหมาะกับเรามาก 555555555

    หลังจากเสียเงินจนพอใจแล้วก็ขึ้นไปบนสถานีเพื่อนั่งรถไฟไปลงสถานี Shinagawa  ขณะที่ยืนรออยู่พี่เขาก็มาพอดี  รู้สึกเหมือนได้เจอดารา 
     

    ชินคันเซนที่ไปฮอกไกโดนี่เอง  แค่เห็นก็รู้สึกถึงความแพงละ 555555  เราเห็นป้ายบอกราคาแวบ ๆ รู้สึกจะประมาณ 4x,xxx เยน  เทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ 12,000 บาท ได้มั้ง 

    กลับมานั่งรถไฟหวานเย็นของเรากันต่อ  เราไปถึงสถานี Shinagawa ตอนกี่โมงก็จำไม่ได้ น่าจะประมาณ 10 โมงครึ่งกว่า ๆ  พอลงจากสถานีก็เปิดกูเกิลแมพที่รักยิ่ง  เดินเท้าไปยัง Shinagawa Prince Hotel เพื่อไปกินขาปูที่ห้องอาหาร Luxe Dining Hapuna ของโรงแรม  พอไปถึงก็แจกพนักงานเขาก็จะให้สิ่งนี้มา  มีรายละเอียดชื่อที่เราจอง  เวลาจอง  เลขโต๊ะ  ฯลฯ


    เมื่อนาฬิกาบอกเวลาตรงกับที่จองไว้ปุ๊บ  พนักงานก็จะพาลูกค้าที่ยืนต่อแถวรอกันอยู่แล้วเข้าไปยังห้องอาหาร  แต่ละกลุ่มก็จะมีพนักงานพาไปยังโต๊ะ  มีถามด้วยว่าเคยมากินไหม  เป็นครั้งแรกหรือเปล่า  แล้วก็จะแนะนำว่าอะไรอยู่ตรงไหน  เครื่องดื่มอยู่ทางนี้  อาหารญี่ปุ่นอยู่ทางนั้น  อาหารฝรั่งอยู่ทางโน้น  บลา ๆ   พนักงานสุภาพและน่ารักมาก ๆ  และเขาก็เดินไปทุกโต๊ะเพื่อเอาผ้าคลุมกระเป๋าของลูกค้าไว้  ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไม  แต่พอกินปูไปถึงได้รู้ว่า  อ๋อ...  มันกระเด็นจนเลอะเทอะงี้  การมีผ้าคลุมไว้ทำให้ชีวิตดีขึ้นประมาณนึง

    และพอพนักงานแนะนำเสร็จเราก็เดินไปเอาปูเป็นอย่างแรก  ขาใหญ่ประมาณที่คิด  แต่ดูผอม ๆ ไปหน่อย  ปูอาจจะไดเอท  แต่พอกินเข้าไปแล้ว  เค็มว่ะ...  ปูทะเลนี่นะ  คงเค็ม (ไม่ใช่!!)  ตอนแรกคิดว่าจะเค็มแค่ตัวนี้  พอถามพี่เรา  พี่ก็บอกว่าเค็ม  ไปเอามาใหม่ก็ยังเค็มอยู่  กิน ๆ ไปได้สักพักก็รู้สึกไม่โอเคละ  ต้องไปหาอย่างอื่นมากินตัดรสหน่อย

    ก็ยาวนะ  เกือบ ๆ เท่าแขน  

    เราลองเดินไปหาอย่างอื่นมากิน  เจอสิ่งนี้  ป้ายเขียนว่า Chirashi-Zushi อร่อยมาก ชอบ  กินไป 2 ถ้วย

    เท่าที่ลองสังเกตคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไปต่อแถวอาหารประเภทอาหารฝรั่ง  เราเลยไปลองหยิบขนมปังมากิน  ก็อร่อยดี  พอมาลองพวกของหวาน  เราชอบ mille feuille มาก  คิดว่าอร่อยสุดในบรรดาขนมที่มี


    สรุป : บุฟเฟต์นานาชาติ (ที่มีขาปู) ราคา 3800 เยน  เราว่าไม่คุ้มเงินเท่าไหร่อ่ะ  ค่อนข้างผิดหวัง  คิดว่าเอาเงินไปกินเนื้อย่างดี ๆ ยังคุ้มกว่า  ที่มากินเพราะตัดสินใจเชื่อรีวิวจากเว็บดังแห่งหนึ่งในประเทศแถบอาเซียน  แต่พอลองแล้วเราก็ตระหนักได้ว่า  ลิ้นคนเรานั้นคงไม่เหมือนกัน  เพราะฉะนั้น...  เราคงจะไม่เชื่อรีวิวอาหารจากเว็บนั้นอีกแล้ว ขอลองด้วยตัวเองหรือไม่ก็สรรหาเองดีกว่า  5555555





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in