เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โตเกียวเที่ยวแรกในแบบของเราSor Winchester
009 : เขาว่ากันว่าแมวญี่ปุ่นหยิ่ง
  • เผลอแป๊บเดียวก็ถึงวันเดินทางกลับแล้ว ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ

    วันนี้ไฟลท์กลับของเราคือ18.20 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น  ถึงสุวรรณภูมิก็ประมาณ23.35 น.  ทำให้เช้านี้ยังมีเวลาเดินเล่น+ช้อปปิ้งกันอีกหน่อย  เรากับพี่เลยออกจากห้องพักกันตอนเช้า ซื้อข้าวปั้นและน้ำดื่มกะว่าจะไปนั่งกินมื้อเช้ากันในสวนอุเอโนะ  ชมซากุระ และถ่ายรูปแมว

    เป็นกิจกรรมที่ดีจริงๆ

     เมื่อได้อาหารเช้าจากลอว์สันเพื่อนรักแล้ว  เราก็เดินลากเท้าไปยังสวนอุเอโนะ  เช้านี้อากาศไม่หนาวมากเกินไป แต่ก็ยังหนาวสำหรับมนุษย์เมืองร้อนอย่างเราอยู่ดี  แต่... ถ้าเทียบกับเช้าวันที่ไปเฝ้าฟูจิซังนั้น วันนี้อากาศอุ่นไปเลย

     

    ปากทางเข้าสวนมีซากุระบานอยู่2 ต้น ซ้าย-ขวา  และเรารู้มาว่าเจ้า 2ต้นนี้มันบานก่อนต้นอื่นในสวนนะ  แหม  รู้งานจริง ๆ 

    นอกจากซากุระที่บานอยู่2 ต้นแล้วก็ยังมีโฮมเลสนอนเฝ้าอยู่ คงกลัวต้นซากุระหาย

     

    พอเดินเข้าไปในสวนแล้วก็ปักหลักบนม้านั่ง  กินข้าวปั้นไปชมซากุระไป  เออ... เพลินดีเหมือนกันนะ  ช่วงฟูลบลูมมันคงสวยมากๆ แน่เลย 

    กินเสร็จก็มาเดินส่องแมว  เจ้าดำนี่เพิ่งเจอกันวันนี้

    ไอ้ 3 ตัวเมื่อวานมันยังนอนกันอยู่ที่เดิม เฮ้ย !  ไม่ขยับกันเลยเหรอ  จำศีลหรือไง

    เดินมาอีกทาง  เฮ้ยยยยยยย ใหญ่มาก  นี่หมีหรือแมว /meแกล้งตาย

    ดูจากลักษณะท่าทางแล้วเจ้าถิ่นแน่ๆ  คุมที่นี่แน่นอน  มีบาดแผลจากการปกป้องถิ่นตัวเองเป็นเครื่องยืนยัน

    พอเดินย้อนกลับมาทางเดิน  อ้าว 1 ใน 3 แก๊งก้อนลุกออกมาอาบแดด  เลียเนื้อเลียตัว  อ้วนปุ๊กเหมือนที่เคยเห็นในการ์ตูนเลย ฮือออออ

    พักสายตาจากการส่องแมว  แหงนขึ้นชมซากุระหน่อย

    เราหันไปมองอีกด้าน  อ้าว เจ้าหนวดที่เจอเมื่อวานนี่นา  อยู่ๆ มันก็ลงไปนอนกลิ้งกับพื้น  ผึ่งพุง  โอ๊ยยยย อ้วนมาก  คุณป้าคนนึงก็เดินเข้าไปเล่นกับมัน 

    สักพักมันก็เดินมาทางพวกเราแล้วนอนให้ลูบเนื้อลูบตัว  โอ๊ยยยย ไหนเขาว่าแมวญี่ปุ่นหยิ่งไง  เจ้านี่เป็นข้อยกเว้นสินะ

    (ภาพนี้ถ่ายด้วยเลนส์18mm ใกล้มาก  ไม่มีการซูมแต่อย่างใด  เชื่องจริง ๆ)


    พอเราไป  ก็มีลุงคนนึงเดินเข้าไปเล่นกับมันต่อ  เอ็งนี่มัน superstar แห่งสวนอุเอโนะสินะ

    สรุปเจอแมวทั้งหมด 5 ตัว

    หลังจากนั้นเรากับพี่ก็กลับโรงแรม  เตรียมตัวเช็กเอาท์  ขากลับเห็นคนกำลังเดินทางไปทำงานพอดี

     ป้ายนี่....

    ความโรงแรมรับฝากกระเป๋าด้วยนะ  แต่เรากับพี่ขี้เกียจเดินย้อนกลับมาแล้ว  เลยเอากระเป๋าไปฝากที่ล็อกเกอร์หยอดเหรียญตรงสถานี  หลังจากนั้นก็มองหน้ากัน  ไม่รู้จะไปไหน ของก็ซื้อครบแล้วล่ะ  ของฝากอื่น ๆค่อยไปหาซื้อเอาที่สนามบิน เลยคิดว่าลองนั่งรถไฟไป Asakusa หน่อยละกัน ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไปดูแลนมาร์คหน่อยซิ

    ขึ้นมาจากสถานีแล้วก็ลองเดินไปมั่วๆ   อ้าว นี่มันตึกอึกับโตเกียวสกายทรี ถ่ายไว้หน่อยดีกว่า  อ้าว (อีกรอบ)ย้อนแสง…

    มีคนมายืนดูอยู่ประมาณนึง(มีนกบินผ่านด้วย)  อ้าว  เจอป้ายโอคาดะอีกแล้ว  ถ่ายซะหน่อย 555555

     หลังจากนั้นก็เดินแบบมั่วๆ  เดินอ้อมด้วย ความจริงถ้าขึ้นจากสถานีเลี้ยวขวาเดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็ถึงเลย  แต่เราดันข้ามถนน  คิดซะว่ามาเดินเล่นละกัน  แวะเซเว่น เจอสตาร์บัคซากุระ  ลองซื้อมากินดูมีเนื้อสตรอเบอร์รี่ผสมด้วย  อร่อยดีนะ

    ไอติมนี่ก็อร่อย  ชอบมากอ่ะ

    พอเดินออกมาจากเซเว่นก็เจอวัดโคมแดง  โอ้โห คนเยอะมาก  ยืนถ่ายจากฝั่งนี้แล้วก็เดินจากไป 

    เท่าที่เดินสำรวจย่านนี้  ให้ความรู้สึกเหมือนเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์  นักท่องเที่ยวจีนเยอะมาก เดินเข้าร้านขายยาไปพร้อมทัวร์จีนลงเขาทักทายเราเป็นภาษาจีนเลย  โอ้ว อิเอะ ๆ  ไทยจินเดส 

      

    เสร็จแล้วก็ไม่รู้จะไปไหนต่อดี  เลยบอกพี่ว่ากลับกันดีกว่า  เราไปกินโซบะหยอดเหรียญที่สถานี  ออกมากินไอติมกูลิโกะ  ขนาดเขาว่าของญี่ปุ่นอร่อยกว่าที่ไทยยังรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ว้าวเท่าไหร่นะ  หรือเพราะอย่างอื่นที่กินมาอร่อยกว่า 

      พออิ่มท้องแล้วก็ลากกระเป๋าไปสถานี Keisei Ueno เพื่อเดินทางไป Narita ขากลับรู้สึกหวิวๆ มาก  เชื่อว่าทุกคนคงเป็นแบบนี้แหละ  (แค่คิดถึงกองงานที่รออยู่ก็สยองแล้ว)  ระหว่างทางพี่เราหลับ  ส่วนเรานั่งมองข้างทาง เหมือนอยากจะใช้สายตาบันทึกภาพเอาไว้ให้ได้มากที่สุด  รถไฟวิ่งออกนอกเมือง  บ้านเรือนก็เริ่มบางตาลงเรื่อย ๆ  เราชอบจังหวะที่รถไฟผ่านแม่น้ำ และชอบที่สุดตอนที่รถไฟผ่านโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง  ดูเหมือนจะเป็นวันจบการศึกษาพอดี  เราเห็นเด็ก ๆกระโดดถ่ายรูปกันในสนามฟุตบอล มองดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ มันทำให้เรานึกถึงที่เคยอ่านเจอจากไหนสักแห่ง เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นเชื่อว่าซากุระบานเป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ผลิ  ซึ่งเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้นใหม่  โรงเรียนแห่งใหม่  มหาวิทยาลัยใหม่  ที่ทำงานใหม่ และอะไรอีกมากมาย

    ส่วนเราน่ะเหรอ  เหมือนเดิมแหละ  กลับไปทำงานที่เดิม  แต่ที่เพิ่มเติมน่าจะเป็นปริมาณ

     แต่การท่องเที่ยวครั้งนี้นอกจากจะเปิดหูเปิดตาแล้วยังทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน  เพื่อที่จะได้หาเงินมาเที่ยวอีก  เราต้องได้เจอกันอีกนะ

    (ขอให้มีโอกาสได้ใช้suica card อีก2 ใบด้วยเหอะ  ไม่รู้จะเอาไปใช้ทำไรจริง ๆ)

     

    พอเช็กอินเสร็จแล้วก็เดินเล่น  เจอเจ้าสองตัวนี้ใส่ชุดโคกุมะจัง  แล้วมีแค่สองตัวจริง ๆ  ไม่มีอย่างอื่นเลย  โคกุมะจังโซลเอาท์จริง ๆ ด้วย  ฮือออ

    แล้วพี่เราก็แวะABC Mart ได้รองเท้ามาอีกคู่  สมใจอยาก

    เจอAnello ที่สนามบิน  ราคาเท่าข้างนอก  แต่แบบและสีน้อยมาก  มีแค่นี้

    เสร็จแล้วก็เข้าไปด้านใน  ผ่านตม. และศุลกากร  ตม.เคาน์เตอร์ 6 เทอร์มินัล 1 หน้าตาดี  จัดว่าหล่อเลย รู้สึกอยากมีปัญหา (แต่อย่าดีกว่า) พอเดินมานั่งตรงเกท55 ได้สักพัก กะจะขอสักงีบก็ได้ยินเสียงประกาศให้ย้ายไปเกท 58A อ้าว อยู่ตรงไหนวะ  เดินตามป้ายไปสิ  โอ้โห ไกลมาก  นี่มันเป็นส่วนต่อขยายนี่นา  เหม็นใหม่สุด ๆ  แต่ห้องน้ำสะอ๊าดสะอาด  ชอบ

     แล้วเราก็มากดตู้นี่เป็นตู้สุดท้ายก่อนกลับ  กดชามาขวดนึง ชาคิรินเคยเข้ามาขายในไทยอยู่สักพักนึงนะ แต่เลิกไปแล้ว  ไม่รู้ทำไม  เราว่ามันอร่อยออก  อร่อยกว่าเจ้าอื่นอีก  ตอนมีที่ไทยเรากินบ่อยมากเลย  เสียดายจัง

    เก้าอี้ที่ท่าทางสบาย  มีคนหลับด้วย ส่วนฝรั่งข้างหลังนั่นตั้งวงเล่นไพ่(ที่ไม่ใช่การพนัน) 555555555

    ยืนมองดูเครื่องบิน  อืม เราต้องกลับแล้วจริง ๆ สินะ บ๊ายบาย  แล้วเจอกันใหม่ 

     

    またね ~

     

     

     

     

     

     

     

     

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in