เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
พบรักที่คาเฟ่แสง อักษร
แล้วเราก็หากันเจอ
  • ตอนที่ 4 แล้วเราก็หากันเจอ

    ลิต้า หญิงสาวที่ก่อนหน้านี้ ทำงานเป็นพนักงานประจำออฟฟิศ เธอทำงานแบบอุทิศทั้งชีวิตและจิตวิญญาณให้กับองค์กร เธอเป็นหญิงสาวสวย อ่อนโยน จิตใจดี ทำงานเก่ง และบ้าพลัง 

    จนวันหนึ่งที่ร่างกายของเธอประท้วงด้วยอาการป่วย แบบไม่มีสาเหตุ ทำให้เธอต้องหยุดงาน และในที่สุดเธอก็ลาออกจากงานประจำ 

    เพื่อมาเป็นบล็อกเกอร์สาวเจ้าเสน่ห์ ที่มีชีวิตอิสระ เป็นเจ้านายของตัวเอง มีแค่โทรศัพท์มือถือ และโน๊ตบุ๊ค เธอก็สามารถทำงานได้แล้ว เธอทำงานได้ในทุกที่ ทุกเวลา 

    ความสุขของเธอ คือการได้มานั่งสูดดมกลิ่นกาแฟในคาเฟ่ เสพบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ฟังเพลงเพราะ ๆ สบาย ๆ พร้อมกับเขียนบทความ แต่งนิยาย ถ่ายรูปทุกสิ่งที่เธอพบเจอ 
    ลิต้าสามารถเขียนให้ทุกสิ่งที่เธอถ่ายรูปมาให้มีคุณค่า และสร้างมูลค่าเหมือนมันมีชีวิต มีจิตวิญญาณ 

    เธอเขียนมันออกมาจากหัวใจ จากความรักที่เธอมีให้ในทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ และนั่นทำให้งานเขียนของเธอสามารถเข้าไปอยู่ในใจแฟนคลับได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลาย ๆ ครั้งที่เธอได้รับข้อความมาบอกว่า เหมือนบทความนี้ ลิต้าเขียนมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ คือมันโดนใจ เข้าถึงใจคนอ่าน
    หรือบางคนก็ถามเธอว่า "คุณรู้เรื่องราวของฉันได้อย่างไร ฉันไม่เคยบอกใครเลยนะ 
    ลิต้าเชื่อในพลังความรักที่บริสุทธิ์ คือพลังงานความรักที่ยิ่งใหญ่ และทุกคนสามารถสัมผัสได้เพียงแค่วางใจ

    เธอไม่เคยรู้เรื่องของใครหรอก ขนาดข่าว หรือละครเธอก็ยังไม่ค่อยมีเวลาดูเลย แล้วจะเอาเวลาที่ไหน ไปส่องชีวิตคนอื่น

    ลิต้าเขียนบทความต่าง ๆ ไปตามความรู้สึกที่เธอสัมผัสได้ในตอนนั้น ๆ เธออยากเขียนอะไรก็เขียนไป แค่เขียนออกมาจากหัวใจที่มีความสุข แค่นั้นเอง และเธอก็มีความสุขกับการได้เขียน

    ตอนนี้ลิต้าเป็นที่รู้จักในนามของ บล็อกเกอร์สาวเจ้าเสน่ห์ 
    มีบริษัทต่าง ๆ ติดต่อมาเพื่อให้เธอเขียนบทความถึงสินค้าและบริการของพวกเขาอย่างมากมาย 
    อย่างงานนี้ที่ลิต้าต้องเดินทางไปที่ประเทศเกาหลี เพื่อดูงานโรงพยาบาลศัลยกรรมที่โด่งดังที่สุด แล้วเขียนและถ่ายทอดมาเป็นบทความรีวิวลงในบล็อกของเธอ 
    ตอนนี้งานสำเร็จเสร็จลุล่วงแล้ว ก็ได้เวลากลับมานั่งเขียนบทความ ดื่มด่ำกับบรรยากาศในคาเฟ่ที่แสนคุ้นเคย 

    ลิต้ามีความรู้สึกผูกพันธุ์กับคาเฟ่แห่งนี้อย่างประหลาด เธอมาเป็นลูกค้าประจำ ตั้งแต่เจ้าของคนเดิม และพอรู้ว่าเขาต้องส่งต่อกิจการเพื่อย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศ เธอก็ใจหายอยู่เหมือนกัน ไม่อยากให้ร้านปิดตัวลงเลย 
    เจ้าของเก่าบอกกับเธอว่า จะมีคนมาดูแลกิจการที่คาเฟ่ต่อ ไม่ต้องห่วง

    ลิต้า : ต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศถาวรเลยเหรอคะคุณไมเคิล คุณมิ้นต์ น่าเสียดายจังเลยนะคะ ลิต้าไม่อยากให้ร้านนี้ปิดเลย

    ไมเคิล : ทีแรกก็คิดว่าคงต้องปิดครับ แต่โชคดีมีคนสนใจมาเซ้งร้านต่อ 

    มิ้นต์ : มิ้นต์ก็ไม่อยากปิดเหมือนกันค่ะ ไม่คิดว่าจะโชคดีหาคนมาเซ้งต่อได้เร็วขนาดนี้ 

    ลิต้า : ถือเป็นโชคดีของลิต้าด้วยนะคะ จะได้ไม่ต้องย้ายไปหาร้านประจำที่อื่น ลิต้ารู้สึกรักที่แห่งนี้จังเลยค่ะ

    ไมเคิล : คุณลิต้าพร้อมจะรับร้านไว้ดูแลเมื่อไหร่ บอกผมนะครับ เจ้าของคนใหม่ เขาขอลองกิจการดูก่อน ว่ากันไปปีต่อปีครับ

    ลิต้า : คุณไมเคิล คุณมิ้นต์สัญญากับลิต้าแล้วนะคะ 
    ถ้าลิต้าพร้อม ห้ามกลับคำนะ
    มิ้นต์ : ยินดีที่สุดค่ะ เวลากลับมาเมืองไทย มิ้นต์จะได้มาเยี่ยมคุณลิต้าด้วย

    ลิต้านั่งคิดถึงคู่สามีภรรยาที่แสนจะใจดี ไมเคิล กับมิ้นต์ เจ้าของคาเฟ่คนก่อน ที่มักจะมานั่งคุยเป็นเพื่อนเวลาเธอมาที่คาเฟ่คนเดียว แล้วยิ้มให้กับคำสัญญานั้น เธอมองไปรอบ ๆ ร้าน แล้วพูดกับลมกับแล้งว่า "สักวันนะ เธอเป็นของฉันแน่นอน"


    วันนี้เธอนั่งที่โต๊ะประจำ พร้อมกาแฟดำ น้ำเปล่า และอาหารอีกหลายอย่าง 
    เธอตักอาหารใส่ปาก พร้อมหลับตาพริ้ม รับรสสัมผัสจากอาหารจานโปรด 

    ลิต้า : คิดถึงจังเลย 

    พอลมตาขึ้นเธอแทบสำลัก เมื่อชายหนุ่มที่เคยทำเธออกหักเพราะหลงคิดว่า เขาเป็นรักแรกพบในครั้งนั้น ยืนยิ้มให้เธออยู่อีกฝั่งของโต๊ะ 

    ลิต้า : ตาบ้า มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี้ย แล้วยังจะมายืนยิ้มแบบนั้นให้อีก คุณมีเมียแล้วนะ อย่ายิ้มแบบนี้สิ 

    ลิต้าคิดในใจ แต่ทำไม่ใจมันเต้นแรง หน้าแดงอีกแล้ว 

    มาคัส : สวัสดีครับ 

    เขายังคงสุภาพอ่อนโยนเหมือนเดิม

    ลิต้า : สวัสดีค่ะ มาขอเก้าอี้เหรอคะ 

    มาคัส : คือ เอ่อ ไม่ใช่ครับ 

    เขาพูดตะกุกตะกัก รวบรวมความกล้า ความคิดถึงทั้งหมดที่มีเพื่อมาขอทำความรู้จักกับลิต้า ยิ่งตอนที่บอยบอกว่า ลิต้ารู้สึกอกหักตั้งแต่ครั้งนั้น ก็ยิ่งมีกำลังใจ ดีใจที่เขาและเธอใจตรงกัน 
    ทั้งเขินอาย และรู้สึกผิด ที่ทำให้เธอเสียใจ มาคัสคิดว่าเขาจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจอีกเด็ดขาด
    มาคัส : เอ่อ ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ

    ลิต้า : จะดีเหรอคะ แล้วภรรยาคุณละคะ 

    มาคัสขยับเก้าอี้นั่งโดยไม่รอคำเชิญจากลิต้า

    มาคัส : คือ เอ่อ ก่อนอื่นผมต้องขอโทษเรื่องในวันนั้นก่อนนะครับ คือผมเขินอาย เลยพูดอะไรออกไปแบบนั้น อาจทำให้คุณไม่สบายใจ

    ลิต้า : ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ลิต้าไม่ได้ถือสาอะไร คุณไม่ต้องขอโทษก็ได้ค่ะ ว่าแต่ภรรยาคุณ คลอดลูกหรือยังคะ 

    มาคัส : เอ่อ ผมโสดครับ และก็ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ ผมชื่อมาคัส ทำงานที่คาเฟแห่งนี้ครับ 

    ลิต้า : อ้าวแล้วที่บอกว่า ภรรยาให้มาขอเก้าอี้ละคะ

    ลิต้ายังจำภาพนั้นได้ติดตา

    มาคัส : เป็นพี่สาวครับ เป็นภรรยาของหุ้นส่วนร้าน และก็เป็นญาติกันครับ

    มาคัสรีบบอกอย่างละเอียด เพราะไม่อยากให้ลิต้าเข้าใจผิดอีกแล้ว 

    ลิต้า : อ๋อค่ะ เอ่อ คือ

    ตอนนี้เธอพอจะเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ก็ยิ่งทำให้เธอหน้าแดง ใจเต้นแรงแทบทะลุอก ทั้งดีใจ ทั้งเขินอาย 

    มาคัส : ผมเพิ่งมารับช่วงดูแลกิจการร้านนี้ต่อจากคุณไมเคิล อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก ผมหวังว่าคุณจะให้โอกาสผมสักครั้งนะครับ

    ลิต้า : อ๋อ คุณนี่เอง ที่ไมเคิลกับคุณมิ้นต์บอกว่าจะมีคนมารับช่วงกิจการต่อ 
    ลิต้าค่ะ ชื่อลิต้านะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

    ลิต้ายิ้มให้มาคัสด้วยรอยยิ้มทั้งหมดของหัวใจ 

    เขายิ้มสบตาเธอเหมือนว่าในโลกนี้มีกันอยู่แค่สองคน 

    โลกหมุนรอบตัวคนกำลังตกหลุมรักแล้วค่ะทุกคน 

    .. ยินดีกับความรักที่สดใส..

    จบแล้วจ้า….

    ผู้แต่ง แสงอักษร

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in