เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
พี่คะ หนูอยากเป็นแอร์BENJA’S
สมัครแอร์สามสายสุดโหดแห่งปี 2016 - Emirates (2)
  • Emirates (รอบเดือนมิถุนายน//สามวันจบ)

    สาม! สอง! หนึ่ง!

    ปังงงงงงงงงง!

    ไปค่ะ! ต่อกันกับการสมัครแอร์เอมิเรตส์ที่โหดทรหดยิ่งกว่าการประลองเวทย์ไตรภาคี การแข่งขันที่โบซ์บาตงยังต้องหนาว เดิร์มสแตรงค์ต้องยกธงขาว และฮอกวอตส์ต้องร้องขอชีวิต (เดี๋ยวๆๆ สมัครเป็นแอร์หรือผู้เสพความตาย?)

    ก่อนหน้าจะอกหักจากสวิส ได้ร่อนใบสมัครออนไลน์เอมิเรตส์ไป ไม่คิดเลยว่าเขาจะให้ Invitation เพราะลองส่งออนไลน์ทีไรก็เงียบหายแถมไม่กล้าหวังมากเพราะเคยไป walk-in ตอนที่เขามา Open Day ที่ไทยเมื่อต้นปีที่แล้วหลังจากหายไปนานมากกก รอบนั้นคนถล่มโรงแรมแตกไปเลยจ้า มากันหลายพันคน เลยมีความรู้สึกว่า โอ้ยยย ยากก ไม่ติดหรอกแถมเราก็ไม่น่าใช่สเปคเขา ไม่มั่น ฟันไม่สวย หน้าหมวย งี้

    แต่พอตอนได้เมล Invite มา ก็มีความใจชื้น เออ เว้ยย ลองดูไม่เสียหาย ก่อนไปก็เตรียมตัวไปพอสมควร ตอนหลังมาคิดเปรียบเทียบดูกับตอนที่เราเตรียมตัวไปสวิสต่างกันเยอะมาก

    ตอนไปสวิสนี่เตรียมตั้งแต่ฝึกว่ายน้ำจำข้อมูลบริษัทเขาไปอย่างแน่น ใครเป็นใคร ผู้บริหารโน่นนี่อ่านข่าวอัพเดตของสายการบินตลอดๆ เตรียมคำถามคำตอบที่คิดว่าจะโดนตอนสัมภาษณ์ซื้อชุดซื้ออุปกรณ์แต่งหน้าทำผมนานาใหม่หมด คือเรียกว่าเก็บทุกเม็ด

    ส่วนตอนไปเอมิเรตส์ ด้วยความที่เราไม่ได้กดดันว่าต้องได้(เพราะคิดว่าคงไม่ได้แน่ๆ) วันจริงก็เลยแค่ เอ้า! ทำเต็มที่ ทำปัจจุบันให้ดี อย่าเพิ่งไปคิดสเตปถัดไป เอาสเตปนี้ให้รอดก่อน ปรากฏว่ามันเวิร์คแหะค่อยๆทำค่อยๆแกะไปทีละด่าน จนผ่านมาด่านสุดท้ายแบบไม่สติแตกก่อน


    ขั้นตอน Emirates มี 6 ด่านสำคัญ ฉะนี้

    1. CV Drop-off

    รอบนี้แบ่งเป็น 2 ช่วง เช้ากับบ่าย (รวมกันน่าจะประมาณ 1000 คนได้)เราได้รอบบ่าย มีกรรมการทั้งหมด 4 คน อยู่ประจำโต๊ะคนละตัวให้นั่งรอในห้องประชุมใหญ่แล้วลุกไปหากรรมการทีละคน นั่งโซนใกล้ใครก็ไปหาคนนั้นใช้เวลาคนละไม่เกิน 1 นาที

    เป็นอะไรที่ไวมากไปถึงจะให้ลงชื่อและจดหมายเลขประจำตัวไว้ โดยเลขนี้จะเอาไว้ประกาศผลคนที่ผ่านต่อไปเดินไปถึงโต๊ะปุ๊ป กรรมการก็ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วิเดียว ทักเราก่อนเลยจ้า คำถามที่รวบรวมจากเพื่อนๆก็มีทั่วไปเลยมีคำถามจากเรซูเม่บ้างประปราย ตัวอย่างเช่น เป็นไงบ้าง ทำอะไรอยู่ทำไมอยากเป็นแอร์ ทำไมออกจากที่เก่า

    จริงๆรอบนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะล้วนๆ ต้องตอบให้เร็วเอาแต่ใจความสำคัญ อยากนำเสนออะไรให้รีบนำเสนอ พยายามโยงจุดเด่นที่เราอยากขายมาพูด โอกาสมาถึงแล้ว ขายตัวววค่ะ (แต่อย่ายัดเยียดมากเกินไป ให้โยงแบบสวยๆไหลๆ เช่นเขาถามว่าทำอะไรอยู่ แทนที่จะตอบแค่เรื่องงานแล้วจบ ก็พยายามพูดคุยต่อว่าฉันทำอันนี้อยู่นะซึ่งฉันชอบมากเพราะมันทำให้ฉัน...) 

    บางคนพูดๆอยู่กรรมการอาจตัดจบ แต่ไม่ต้องกังวล เขาแค่มีเวลาน้อยพยายามยิ้มให้เยอะๆ ตอบคำถามอย่างมีสติ คุยกับกรรมการบ้างก็ได้ เช่น ถามว่าเขาเป็นอย่างไรหรือ ถ้าวันที่ไปเป็นช่วงเทศกาล ก็กล่าวคำอวยพรเขาก็ดี อย่าง HappyValentine’s Day อย่างนี้  

    ทำตัวให้เฟรนลี่น่าคุยด้วยค่ะ ไม่ควรไปถึงก็ยืนนิ่งๆรอกรรมการถาม ไม่ยิ้ม ไม่ทักทายถ้าเกิดบังเอิญวันนั้นกรรมการใส่ชุดสวย ต่างหูน่ารัก ชมได้เลย ไม่มีปัญหาบอกไปเลยว่า ชอบต่างหูคุณจัง เสื้อสีสวยนะคะ แต่ชมอย่างจริงใจเบาๆพอมากไปกรรมการก็จับได้ว่าเราเฟค 55555

    ควรใส่ใจเรื่องการแต่งตัวและระวังบุคลิกภาพด้วยค่ะ กรรมการสแกนตั้งแต่เราเดินไปหาเขาที่โต๊ะเลยนะคะตอนเราหันหลังกลับเขาก็มองตามค่ะ เพราะฉะนั้น แต่งตัวให้ดู professionalไม่จำเป็นต้องใส่สูทนะ เดรสสวยๆสักตัวก็ได้หรือจะเสื้อที่ดูสมาร์ทๆกับกระโปรงทรงสอบเอวสูงก็โอเคแต่อย่าใส่กระโปรงสั้นเหนือเขา และเสื้อคว้านลึกเห็นร่องออกพอ

    แล้วก็ใส่ถุงน่องเถอะค่ะดูสุภาพกว่า ส้นสูงก็ควรดูที่ไม่หวือหวาเกินไป สูงพอประมาณ เราใส่ส้นสูงดำแต่มีดีเทลที่ด้านหลังก็ผ่านนะคะไม่จำเป็นต้องดำล้วน อื่นๆสามารดูรายละเอียดจากเอ็นทรี่เก่าได้ที่นี่จ้า


    2. Height Measurement (+ Company Introduction)

    หลังจากรอเกือบทั้งวันประมาณบ่ายแก่ๆกรรมการจะมาติดหมายเลขคนที่ผ่านให้ทราบค่ะ รอบนี้จากเกือบ 1000คน ตัดเหลือแค่ประมาณ 200 คนเพื่อไปทำ Assessment ต่อในวันถัดไปจ้า

    หลังจากทราบผลกรรมการจะให้ไปรวมตัวในห้องประชุม เขาจะแนะนำตัวพร้อมเปิดพรีเซนต์เทชั่นของบริษัทให้ดู แจกแจงเรื่องรายได้ ที่พักชีวิตความเป็นอยู่ แล้วก็ให้ไปวัดส่วนสูงต่อเลยข่าา

    ต่อแถวเอื้อมแตะ 212 cm ถอดสูทได้ เขย่งสุดปลายเท้า แล้วก็วัดส่วนสูงค่ะใครไม่ผ่านเขาจะบอกเลย ไม่มีแก้ตัวนะคะ จบโปรเซสสำหรับวันสำหรับวันแรกเท่านี้


    3. Group Discussion 1

    วันที่สองเขาจะแบ่งกลุ่มตามหมายเลขและนัดมาตามรอบเวลาค่ะเข้าไปทำ Group Discussion 1 ทีละกลุ่ม (ประมาณ60 คน) เข้าไปในห้องก็จะแบ่งย่อยอีกสองกลุ่มนั่งล้อมวงเนตรนารี กรรมการสองคนต่อหนึ่งวง

    จากนั้นเขาจะให้สามคนที่นั่งติดกันจับกลุ่มย่อยกันอีกให้บัตรอาชีพมาหนึ่งใบ แล้วให้คุยกันว่าอาชีพที่เราได้มาควรมีคุณสมบัติอะไรแล้วก็ให้พรีเซนต์ให้เพื่อนฟังทีละคน อาชีพก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ Astronomer,Radio Announcer, Gardener, Actor, etc.

    ระหว่างที่เราคุยกันกรรมการก็จะเดินดู เดินจด เพราะฉะนั้นต้องรู้ตัวตลอด แต่อย่ามองกรรมการให้โฟกัสอยู่ที่กลุ่มของเรา แสดงความเห็นไปตามปกติ

    กลุ่มเราได้ Astronomer (นักดาราศาสตร์) ก็คุยกันว่าคุณสมบัติที่ควรมีคือ passion ละอย่างแรก คือคงไม่มีคนปกติที่ไหนไปนั่งดูดาวเล่นๆแก้ว่างใช่ไหม คนจะทำอาชีพนี้ได้มันต้องใจรัก ต้องมีความชอบก่อน นอกจากนี้ควรมีความรอบรู้และทันโลก ต้องคอยติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว ค้นคว้าวิจัยข้อมูลเรื่องดาราศาสตร์ตลอดเวลา

    จากนั้นกรรมการก็จะให้บัตรสิ่งของมาอีกหนึ่งอย่างแล้วให้เราคิดว่าของที่ได้จะใช้กับอาชีพก่อนหน้านั้นอย่างไรให้สร้างสรรค์ที่สุด(เช่น ถ้าได้ร่มกับหมอ ห้ามบอกว่าให้หมอเอาร่มไปกางกันฝน ต้องคิดให้แหวกแนวอาจจะเอาด้ามไปใช้เป็นไม้เท้าให้คนไข้ แล้วเอาตัวร่มไปทำกระโปรง อะไรแบบนี้)ของที่ให้ก็มี พวก นาฬิกา รองเท้าแตะ ร่ม แว่นตา ทั่วๆไปเลย

    กลุ่มเราได้รองเท้าฟลิบฟลอบ อึ้งไปพักใหญ่ คิดกันอยู่นาน สุดท้ายบอกไปว่าเอาฟลิบฟลอบมาทำเป็น Telescopeแบบพกพา น้ำหนักเบา ใช้ง่าย (คืออาจฟังดูไร้สาระ แต่ตอบไปเถอะค่ะ เดาว่าความสำคัญอาจไม่ได้อยู่ที่คำตอบแต่เขาดูว่าเราจะช่วยกันคิดอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไรมากกว่า)

    รอบสิ่งของนี้พอคุยกันเสร็จกรรมการจะไม่ได้ให้พรีเซนต์ให้เพื่อนฟังทุกคน แต่จะเลือกคนใดคนหนึ่งจากสามคนมาพรีเซนต์ พอครบทุกกลุ่มก็ออกไปรอผลต่อไป วันนี้จะเหนื่อยมาก เพราะต้องทั้งทำassessment ทั้งรอเพื่อนกลุ่มอื่นเข้าไปทำ คอยลุ้นกับผล กว่าจะเสร็จแทบเป็นลม พกของกินกันไปด้วยก็ดีนาจา (หญ้าเหงือปลาก็น่าจะอยู่ท้องดี 55555555 ยังงงง ยังไม่จบกับแฮร์รี่พอตเตอร์)

    ติดประกาศหมายเลขที่ได้ไปต่อในรอบ Group Discussion 2


    4. Group Discussion 2

    จาก 200คนด่านที่แล้ว ทีนี้ตัดเหลือประมาณ 100 คนเพื่อมาทำGroup Discussion 2

    ด่านนี้จะให้เข้าไปนั่งล้อมวงวงละประมาณ 10 คน กรรมการ 1คนต่อ 1 วง จากนั้นจะให้สถานการณ์มาคุยกันสมมติว่าเราเป็นพนักงานโรงแรม แล้วระบบจองห้องพักมีปัญหา ทำให้รวนไปหมดห้องไม่พอต่อจำนวนแขกที่จะมาเข้าพัก โดยจะระบุมาอีกว่าแขกมีจำนวนเท่าไหร่ แขกแต่ละคนประกอบอาชีพอะไรให้เราช่วยกันเลือกว่าจะให้ใครพัก ไม่ให้ใครพัก

    ระหว่างที่เราคุยกันกรรมการจะไม่ยุ่ง เขาจะนั่งดูและจดอะไรไปตามปกติ ให้เราออกความเห็นโดยอิสระสนับสนุนเพื่อนเมื่อเห็นด้วย เสนอแนะเมื่อมีข้อเสนอดีๆ ไม่ควรพูดอยู่คนเดียวควรให้โอกาสเพื่อนพูดบ้าง สามัคคีคือพลัง ช่วยกันพยุงกลุ่มเราให้รอด

    เมื่อคุยกันเสร็จกรรมการก็จะเลือกคนมานำเสนอและทำ role playซึ่งกรรมการจะบอกแต่แรกว่าเขาจะเรียกใครก็ได้คนที่ถูกเขาเลือกไม่ได้หมายความว่าทำไม่ดีหรืออะไร เขาแค่เลือกที่สบายใจ (ข่าาาา)

    แล้วใครโดนข้าไงจะใครล่ะ เป็น 1 ใน 5 ผู้โชคดีรอบนี้ โดนเรียกให้มาแก้สถานการณ์อารมณ์ว่ากรรมการแสดงเป็นนักการเมืองที่ไม่พอใจ จะเข้าพักให้ได้ถึงแม้จะไม่มีห้องพักกรรมการเขาจะจี้ จะปฎิเสธทุกอย่างที่เราเสนอ ให้คงความสุขุมนุ่มลึกอย่าหวั่นแม้กรรมการจะดุมาก 55555 จงใจเย็น อย่าเหวออย่าหลุด ยิ้มสู้ ถ้อยทีถ้อยอาศัย พยายามเสนอตัวเลือกให้เขาเยอะๆ จนกว่าเขาจะพอใจและเงียบไปเอง

    คร่าวๆคือ มาถึงเราก็สวัสดีทักทายก่อนเลย กรรมการก็วีนๆมาว่าจะเข้าห้องพัก ขอกุญแจ เราก็บอกว่าต้องขออภัยพอดีตอนนี้ติดปัญหานิดหน่อยเป็นแบบนี้ๆ รบกวนคุณลูกค้านั่งพักให้หายเหนื่อยสักครู่ระหว่างที่เราจัดการปัญหา เดี๋ยวจะหาน้ำหาท่ามาเสิร์ฟให้ไปพลางๆ นางก็ไมยอม บอกไม่เอาน้ำเนิ้มอะไรทั้งนั้น จะเอากุญแจจจจ เราก็บอกว่ามันไม่มีห้องว่างจริงๆ อย่างไรเราจะจัดการจองห้องพักที่โรงแรมใกล้เคียงให้ นางไม่เอาอีก บอกว่าจะพักที่นี่ มีประชุมที่นี่ จะไม่ไปไหนทั้งนั้น เราก็ขอประทานอภัยในความไม่สะดวกจริงๆ แต่ห้องพักมันเต็ม เราจะพยายามหาทางออกให้ดีที่สุด จะจ้องห้องพักที่โรงแรมที่ใกล้ที่สุดให้ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เราจะรับผิดชอบเองเพราะมันเป็นความผิดพลาดของทางโรงแรม นางก็ยังไม่ยอมอีก บอกว่าถ้ามาประชุมไม่ทันจะทำยังไง ก็เลยบอกไปว่าเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะคร้าาา เดี๋ยวจัดรถลีมูซีนไปรับ มาทันแน่นอนน จะส่งไปรอแต่หัววัน สบายใจได้ค่ะ (ซึ่งมีรึเปล่าก็ไม่รู้ อีรถลีมูซีนเนี่ยย ถถถถถ)

    สุดท้ายก็ยอมมมม (จนได้) ถามว่าตอนทำ role play ตื่นเต้นไหม ตอบเลยตื่นเต้นมากก ในใจนี่คิดแต่ เชี่ยแล้วๆๆ เอาไงดีวะๆ มาแบบนี้จะไปไงต่อ แต่ภายนอกนี่คือต้องสงบนิ่ง

    หลังจากผ่านตรงนี้มาก็ออกมารอผลยาวๆไปอีก ระหว่างรอแต่ละด่านนี่มันกดดันจริงๆนะ มีความตึงเครียดและลุ้นเยี่ยวเหนียว


    5. English Test

    หลังจากการรอคอยอันยาวนานตอนนี้จาก 100 คน ตัดเหลือ 50 คน สำหรับพิชิตอีกหนึ่งด่านหิน คือข้อสอบภาษาปะกิด มีข้อสอบสองชุด ยาวพอสมควร โดยข้อสอบเป็นกากบาทหมดมีอ่านเรื่องจับใจความ ทดสอบแกรมม่า คำศัพท์ ยากกลางๆ

    รอบนี้ผ่านกันไป30 กว่าคน โดยท้ายๆกรรมการจะเรียกให้ไปกรอกเอกสารและชี้แจงรายละเอียดรูปถ่ายที่ต้องส่ง พร้อมนัดวันมาสัมภาษณ์เดี่ยว และ อื่นๆ


    4. Final Interview

    สัมภาษณ์เดี่ยวค่ะรอบนี้กรรมการคนเดียว ใช้เวลาประมาณ 40 – 60 นาทีต่อคนคำถามส่วนใหญ่เกี่ยวกับการทำงาน และ การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ๆ เช่นเคยเจอความกดดันที่ทำงานไหม เคยมีเรื่องยากๆที่ต้องจัดการหรือเปล่ามีการเสนอไอเดียอะไรใหม่ๆให้เพื่อนร่วมงานบ้าง ปรับตัวกับสถานที่/วัฒนธรรมใหม่ๆอย่างไร เป็นต้น

    กรรมการเขาจะถามไปพิมพ์คำตอบเราไปค่ะบางทีเขาก็ไม่มองหน้าเรา แต่หูเขาฟังและมือเขาพิมพ์ตลอดรอบนี้ต้องเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ตอบคำถามตามความเป็นจริงเพราะกรรมการจะถามลึกมาก ลงรายละเอียดสุดๆ อย่าเกร็งค่ะ ทำใจสบายๆเหมือนไปคุยกับเพื่อน เล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง แล้วมันจะดีเอง

    ก็ประมาณนี้นาจาขั้นตอนของเอมิเรตส์ เป็นการสัมภาษณ์ที่ยากและเหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยเจอมาแล้วเหนื่อยวัวตายควายล้ม กลับบ้านก็สลบทันที ปวดเมื่อยตั้งแต่หนังศีรษะยันฝ่าเท้า

    แต่ความเหนื่อยกายแค่นี้ยังเบาะๆเป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะอีการรอผลเนี่ย เหนื่อยกว่าจร้า นั่งเช็คเมลทุกวันจนเหมือนเป็นคนโรคจิต แล้วก็ไม่รู้จะเช็คทำไมวันละหลายๆรอบ

    กว่าจะทราบผลว่าได้ก็ปาเข้าไปเกือบ 3 เดือน สำหรับใครที่ยังรอผลอยู่ เกิดความวอแวนอนไม่หลับขับถ่ายไม่ออก อย่าเพิ่งเครียด มันใช้เวลานานพอสมควร เอา Time-line ข้างล่างนี้ของเราไปดูเป็นตัวอย่างได้เพื่อความตะบายไต

    • ASSESSMENT DAY        26 JUN 16
    • FINAL INTERVIEW       29 JUN 16
    • IC (STATUS)                  17 JUL 16
    • JFIP (STATUS)               15 SEP 16
    • GOLDEN CALL             20 SEP 16
    • DATE OF JOIN              25 NOV 16


    หลัง Final Interview ทางสายการบินมักจะส่งเมลแสดงความเสียใจให้คนที่ไม่ได้ก่อน ใช้เวลาประมาณ 3-4 อาทิตย์ก็หลูเลื่อง ส่วนคนที่เหลือ หลังจากนั้นสัก 1-2 อาทิตย์จึงจะส่งเมล On Hold เขาจะทยอยแจกอาทิตย์ละสามสี่คน รอกันไปยาวๆ อย่าเพิ่งสติแตกถ้าเห็นเพื่อนได้ก่อนแล้วเรายังไม่ได้ มันเป็นเรื่องปกติจ้าาา (แต่ปรากฎว่าตอนเราดันไม่ได้เมล on hold เหวย เพื่อนรอบเดียวกันได้ไปหมด มีความลุ้นระทึก) แล้วหลังจากแจก On Hold เสร็จก็อีกสักอย่างน้อยๆ 2 อาทิตย์ สเตตัสทอง JFIP (Joining Formalities in Progress) ถึงจะเริ่มปรากฎให้เห็น


    พอได้ JFIP สักหนึ่งอาทิตย์ ทีนี้ละ Golden Call ส่งตรงจากดูไบจะมาถึงตัวท่านอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว หยิบโทรศัพท์ไว้ใกล้มือ เปิดringerให้สุด แล้วนอนรอเสียงเรียกเข้าเพลินๆไปเลย (อย่านอนเพลินจนลืมรับสายล่ะ)


    จากนั้นก็จงวิ่งเข้าออกสถานที่ราชการและสถานพยาบาลรัวๆได้เลยข่าาาาา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in