เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
พี่คะ หนูอยากเป็นแอร์BENJA’S
สมัครแอร์สามสายสุดโหดแห่งปี 2016 - SWISS (1)
  • สวัสดี สวัสดี สวัสดี! (ใส่สปิริตเนตรนารีสามัญชุดเขียวเข้าไปด้วย)

    และแล้ววววก็กลับมาพบกันอีกครั้งกับเบญจาคนเดิม แชร์เรื่องแอร์เหมือนเดิมๆ ที่ไม่เดิมคือเพิ่มสายการบิน ปี 2016 นี้ถือเป็นปีแห่งการเดินสายสมัครแอร์สมัครจนเหนื่อย จนเพื่อนถามว่า มึงกลับมาสิงโปไหม!? เลยตอบกลับเพื่อนไปด้วยความมั่นหน้าว่า ไม่!! ......

    ไม่รู้ววววอะ.. ขอเวลาคิดก่อนนะ…  

    บางคนอาจคิดว่าโอ้ยยย มีประสบการณ์แล้ว เป็นแอร์สายการบินห้าดาวมาตั้งสองปีสมัครแอร์ใหม่อีกครั้งคงสบายๆแล้วสิ ตอบตรงนี้เลยค่ะว่า ม่ายจริงงงงงงข่า

    ด้วยความที่สนามไทยแม่มขึ้นชื่อลือชาในวงการนานาชาติว่าสมัครยากสมัครเย็น สมัครแต่ละครั้งคนเป็นพัน มันจึงไม่ง่ายเลยแม่ขาเด็กๆเดี๋ยวนี้หน้าตาสวยน่ารัก พูดภาษาอังกฤษเก่ง มีความสามารถเยอะแยะแถมลูกเรือเก่ามีประสบการณ์ก็มาก เพราะฉะนั้นจะสมัครแต่ละทีต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ พร้อมระดับแข่งโอลิมปิก

    อันนี้ไม่ได้เวอร์ พูดจริงเปอร์เซ็นต์การรับแต่ละทีโดยเฉพาะสายการบินใหญ่ๆอย่าง สิงคโปร์ เอมิเรตส์ กาต้าร์ถ้าให้คำนวณจากประสบการณ์ อยู่ที่ 2% เอง(ยกตัวอย่างรอบที่สมัครเอมิเรตส์ คนที่ได้รับเชิญบวกที่มาวอคอินเสี่ยงดวงยังตั้ง 1000คนเข้าไปแล้ว ไม่นับคนที่สมัครออนไลน์แต่ไม่ได้รับเชิญสรุปคนที่ผ่านรอบไฟนอลมีประมาณ 20 คนเอง)

    พอเห็นภาพไหม ใครที่ใฝ่ฝันจะทำอาชีพนี้บอกเลย ให้เตรียมใจมาเยอะๆ ท้อได้แต่อย่าถอยเพราะถนนหนทางการเป็นแอร์นั้นไม่เรียบนาจา เหมือนขับรถขึ้นเขาแต่ถนนดั้นนนเป็นลูกรังดินแดงแถมข้างทางยังมีหินตกใส่เรื่อยๆ กว่าจะถึงปลายทางคือน่วมแต่ที่ได้มาพร้อมความน่วมคือความแกร่งทั้งกายและใจ


    นี่ที่มาเขียนให้กำลังใจคนที่ท้อแท้ สอบไม่ติดสักที อยากบอกว่าอย่าเพิ่งล้มเลิกนาเว้ยยย! ไปแล้วตกรอบก็ต้องไปเพราะยังดีกว่าไม่ได้ไปเลย ก้าวช้าๆก็คืบหน้าไปได้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ก้าวเลยเราก็จะอยู่กับที่และไม่มีวันถึงจุดหมาย น่อววววว

    เข้าใจอารมณ์เวลาแบบเทใจไปแล้วอะ ต้องได้ต้องมา สรุปไม่มา เหมือนวิ่งสี่คูณร้อยเมตรตามรถสองแถวเพื่อจะมาให้ทันกำลังจะก้าวขึ้น แต่มันดันขับออกไปเฉ้ยยย ควัยยย

    แต่ก็ยึดคติที่ว่าถ้าเราไม่ล้มเลิกสมัครมันบ่อยๆ เราจะมาถึงจุดๆนึงที่เราชินสนาม อ๊ะ สายนี้เปิดเหรอ แหมมมีความสบายใจ แต่งหน้าแต่งตัวเตรียมใจไปพร้อมแต่เราจะไม่กดดันไม่ตื่นเต้น คือต้องเลิกตั้งความหวังว่าต้องได้แต่ให้ตั้งใจว่าวันนี้จะทำแต่ละรอบแต่ละด่านให้ดีที่สุด เป็นตัวเองที่สุดผ่อนคลายที่สุด แล้วเมื่อไหร่ที่เราทำได้ เลิกตั้งความหวังสูงปรี๊ดนั้นกดดันตัวเองได้เมื่อนั้นแหละ ไลฟ์จะเซอไพรส์ยูวววว สวยไปอี๊ก #เสียงสูง

    อะ ยืดยาวมาเยอะแล้ว แชร์เลยละกันประสบการณ์การสมัครสามสายสุดโหดแห่งปี 2016 ประกอบด้วย SWISS,Emirates, และ Qatar จร้า


    SWISS (รอบเดือนพฤษภาคม)

    สายนี้ไม่ได้มารับกันบ่อยๆนานทีสองปีหนจะมาสักครั้ง แถมขึ้นชื่อว่าสวิส ใครได้ยินก็ต้องร้อง ว้าวๆๆๆมีความไฮโซไฮซ้อ ผ้าพันคอสวย สายยุโรปเกร๋ๆ แจกชอคโกแลตฟรีไปอีก 


    แต่แม่เจ้าประคุณที่ต้องยกให้อยู่ในลิสต์สายโหด เพราะนางรับแค่ 3 คนจ้า มองตัวเลขแล้วตกใจแปร้บบบ มือทาบอก คุณพระ!


    ก่อนไปคือก็เตรียมใจไปพอสมควรเพราะที่จริงสวิสเขาประกาศว่าจะ Open Day แต่พอเปิดให้ลงทะเบียนสมัครออนไลน์ได้ไม่กี่วันเขาก็รีบปิด ดึงประกาศรับสมัครออกจากหน้าเว็บไปเลย คนก็โกลาหลใหญ่ เอ๊ะ จะมาไม่มาอะไรยังไง แต่สรุปคือยังมา แต่ไม่ Open Day แล้ว รับเฉพาะคนที่ได้Invite อย่างเดียว(คาดว่าทางสายการบินคงสะพรึงในจำนวนใบสมัครออนไลน์ แถมเขามารับไม่เยอะเลยเปลี่ยนใจกะทันหัน)

    เพราะฉะนั้นนี่คืออุทาหรณ์สอนใจ รีบค่ะ!ทำตัวให้พร้อม เอกสารเอย รูปเอย เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างรอบนี้มีคนส่งออนไลน์ไม่ทันเยอะมากกกกและชวดโอกาสได้ Invite ไปอย่างน่าเสียดายยย

    ขั้นตอนของ SWISS มี 6 ด่านสำคัญ ดังนี้

    1. Height Measurement

    ก่อนไปวัดส่วนสูงพวกพี่ๆแอร์สวิสเขาจะมาช่วยตรวจเอกสารก่อน คือทุกคนน่ารักมากเฟรนลี่มากจนอยากไปบินด้วย ถ้าเอกสารส่วนไหนไม่ครบ เขาก็ยังใจดีให้เวลาไปเอา แล้วมาส่งภายในวันนั้นนี่ก็ขาดพาสปอร์ตเพราะในเมลเขาแจ้งว่าเอาแค่สำเนา ไปๆมาๆเขาจะดูตัวจริงงานเข้าเลยต้องให้ที่บ้านเอามาให้

    ตอนวัดส่วนสูงจะเป็นกรรมการมาจากสวิสให้เข้าไปต่อแถวเข้าฉากกั้นวัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนักด้วยมั้ง จำไม่ได้ละ เป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวนิสัยหลงๆลืมๆเนี่ย ถถถถถถ แต่ก็ไม่มีอะไรมากด่านนี้ ถ้าสูงผ่านเอื้อมแตะถึงก็ไปต่อ

    จริงๆรอบนี้คนมา walk-in ก็ได้รับการพิจารณานะคือเขาอนุโลมให้ น่าจะมีทั้งหมดรวมทั้ง Invite และwalk-in ประมาณ 500 คนขึ้นไม่แน่ใจจำนวนชัดๆ (แค่นี่อัตราการรับรอบนี้ก็แค่ 0.6% แล้วจ้ะโหดไปไหนนน)

    2. Mini Interview

    พอวัดส่วนสูงเสร็จปุปเขาก็จะให้มาต่อคิวไปสัมภาษณ์กะกรรมการฝรั่งต่อ มีกรรมการประมาณ 3 คน นั่งคนละโต๊ะ สัมภาษณ์แบบ one-on-one แล้วแต่ดวงว่าจะได้คนไหนสัมภาษณ์ไม่นาน คนละประมาณ 5 นาทีเอง รู้ผลเลยถ้าผ่านกรรมการจะให้ป้ายห้อยคอมีหมายเลขมาให้

    ของเราได้กรรมการผู้หญิงชาวยุโรปถามประมาณสามสี่คำถามว่า ทำไมถึงอยากเป็นแอร์ ทำไมถึงออกจากสิงคโปร์แอร์ไลนส์ และคิดว่าสายการบินเอเชียกับสายการบินยุโรปต่างกันอย่างไร 

    เราตอบไปว่าสายการบินยุโรปมีความโดดเด่นตรงที่เขาค่อนข้างเปิดกว้างและเปิดรับไอเดียใหม่ๆ การทำงานมีความรีแลกซ์ซึ่งส่งผลดีต่อบรรยากาศในการทำงานเพราะสมาชิกทุกคนสามารถแสดงความเห็นและเสนอความคิดได้อย่างเต็มที่ มีพื้นที่ มีการ leave room for creativity มากๆ ในขณะเดียวกันสายการบินเอเชียก็มีความโดดเด่นในเรื่องของการบริการที่ตรงสแตนดาร์ดเป๊ะ แต่ในเรื่องของการนำเสนอไอเดียใหม่ๆอาจจะยังจำกัดอยู่บ้าง เพราะเรื่องวัฒนธรรมในการเคารพ seniority อาจจะทำให้สมาชิกไม่กล้าแสดงความเห็นหรือเลือกที่จะเก็บไอเดียดีๆไว้กับตัวเพราะเกรงจะเป็นการก้าวก่าย

    คิดว่าน่าจะตอบตรงกับที่กรรมการต้องการได้ยินพอดี เพราะกรรมการบอกว่า ใช่เลย ที่ยูตอบมาตรงเผง เลยรอดมาได้ ได้ป้ายหมายเลข 1 มาประดับ

    3. English Test

    จากรอบ MiniInterview มีผู้เหลือรอดมาสอบภาษาปะกิดแค่ 26โคนนนนนน (เอ้อออ คิดดู ตัดโหดแค่ไหนจาก 500 กว่าคน) ระหว่างรอกรรมการพี่ๆแอร์สวิสก็ชวนคุยสนุกสนาน ลดบรรยากาศตึงเครียดกันไป มีเปิด Presentation ของบริษัทให้ดูเล็กๆ แล้วก็เริ่มทำข้อสอบ

    ข้อสอบภาษาอังกฤษไม่ยากค่ะเป็นเลือกตอบหมดเลย ประมาณ 60-100 ข้อ มั้ง… (Range จำนวนข้อมึงกว้างมาก 55555 ลืมอะ ทำไงได้!) ให้เลือกตอบข้อที่ถูกที่สุด ความยากจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนข้อ แรกๆก็จะง่ายหน่อย เติม v ให้ถูกช่อง เติม -s, -es หลังๆก็มีพวก tense พวกคำศัพท์นานา จะมีบางข้อที่ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเราต้องเขียนคำตอบลงไปเอง ส่วนใหญ่เป็นแกรมม่าแบบเบสิค ไม่ยากค่ะ มีคนไม่ผ่านแค่คนเดียว

    4. Swimming Test

    รอบนี่คือรอบที่หวั่นสุดก่อนมาพอรู้ว่าต้องมีสอบว่ายน้ำ นี่ไปฝึกว่ายมาหลายอาทิตย์ติดคือเป็นคนว่ายน้ำเป็นแต่ว่ายนานๆไม่ได้ ไม่ค่อยออกกำลังกาย จะแบบเหนื่อยง่ายไอเราพอรู้ว่ามีสอบก็กลัวเขาจะให้ว่าย 25เมตรยาวๆห้ามหยุด เกรงจะหมดลมก่อน เลยไปฝึกปรือมาพอสมควร

    หลังจากฝึกอยู่หลายสัปดาห์ นอกจากจะว่ายได้เก่งขึ้นแล้วตัวยังส้มคลอรีนขึ้นด้วยข่ะ ไม่เคยหน้าส้มขนาดนี้มาก่อน ถ่ายรูปกับเพื่อนออกมานี่ตกใจ ทำไมดูหมองเหมือนโฆษณาซิตร้าขนาดนี้คะ ถามแม่ แม่บอก เออ ดูแทนดีฝรั่งคงชอบ (เหลอออแม่ นี่ไม่แทนแล้วว นี่ส้มมมมม)

    แต่พอไปสอบจริง โอ้ยยยจึ๋งมากก ว่ายสระโรงแรมเล็กๆคิ้วๆ จ้วงห้าทีถึง คือแค่ว่ายให้กรรมการรู้ว่า เออว่ายน้ำเป็น ตกไปไม่ตาย เคร ขึ้นมาได้ (เอาจริง อีตอนเปลี่ยนชุดลงน้ำกะตอนขึ้นมาแต่งหน้าทำผมใหม่ยังนานกว่าอีก)

    รอบนี้ก็ผ่านกันทุกคน 25 ชีวิต
    สำหรับคนที่สงสัยเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมตอนสอบว่ายน้ำ เขาให้เวลาเปลี่ยนชุดนานอยู่ค่ะ ส่วนใหญ่ก็ใส่ชุดวันพีซแบบสุภาพๆกันไม่มีชุดประดาน้ำแขนยาวขายาวนะเท่าที่เห็น (นี่เกือบเอาไปแล้ววว) ใส่หมวกได้ใส่แว่นว่ายน้ำได้ ทุกคนลงน้ำกันทั้งหน้าเต็มๆนั้นแหละ พอขึ้นมาก็ค่อยเช็ดให้แห้งผมใครเปียกมากอาจจะแกะทำใหม่แต่พี่ๆเขากระซิบว่ากรรมการไม่ได้ซีเรียสแล้วเรื่องกรูมมิ่ง ไม่ต้องกังวล

    5. Group Discussion

    ตกม้าตายกันด่านนี้แหละจ้าโดยรอบนี้จะแบ่งคนเป็น 4 กรุป กรุปละประมาณ 6 คน ให้จับคู่กันก่อนเลยตอนแรก แล้วสุ่มเลือกคำศัพท์ภาษาปะกิดมา 4 คำ จากนั้นก็ให้คุยกันสองคน เลือกมา 2 คำจาก 4 คำ แล้วอธิบายว่าคำที่เลือกสำคัญต่อการเป็นลูกเรืออย่างไร จำคำไม่ได้แต่จำได้ว่าได้คำศัพท์ยากอยู่ แบบนึกคำแปลชัดๆไม่ออก ละไม่รู้จะโยงยังไงให้มันสวยงาม ตอนพรีเซนต์ก็เลยแบบติดๆขัดๆ

    จากนั้นก็มารวมกลุ่ม 6 คน มีรูปภาพแอร์ในสถานการณ์ต่างๆบนเครื่องวางกองอยู่บนโต๊ะให้แต่ละคนเลือกว่าภาพไหนที่เราอยากเป็นมากที่สุด เพราะอะไรมีแบบภาพเสิร์ฟอาหารยิ้มแย้ม ภาพพูดคุยกะผู้โดย ภาพถ่ายกะเพื่อนร่วมงาน พูดทีละคนจากนั้นก็ให้ดูรูปเดิมอีก แต่คราวนี้ให้คุยกันว่าคิดว่าภาพไหนสถานการณ์ไหนที่จะสามารถสร้างความประทับใจให้ผู้โดยสารหรือสื่อถึงการบริการอันดีเลิศได้ เพราะอะไร

    ด่านนี้คือทำได้ไม่ดีรู้ตัวเลย ตั้งแต่การโยงคำศัพท์ที่ไม่ค่อยลื่น แล้วยังตอนทำกลุ่มรวม ด้วยความที่สมัครสวิสที่แรกหลังออกจากสิงคโปร์ ตอนตอบคำถามเลยยังโฟกัสไปที่การทำงานมากกว่าการบริการซึ่งมาคิดๆดูก็ว่าผิดมากๆสำหรับการสัมภาษณ์งานเพราะตอนคัดคนเค้าคงไม่ได้มาสนใจเรื่องทัศนคติในการทำงานของเราเท่าไหร่ เขาคงอยากให้เราแสดงทัศนคติด้านการบริการให้เห็นเด่นชัดกว่า

    6. Final Interview

    ไม่แน่ใจว่าถามอะไรยังไงเพราะไปไม่ถึงค่ะลูกขาาา

    จำได้ว่าตอนไม่ผ่านสวิสนอยไปเป็นอาทิตย์เหมือนกันเพราะแบบตอนนั้นหวังมาก คิดแต่ว่า ต้องทำได้ๆๆๆ เหมือนเป็นความหวังเดียวที่จะฉุดฉันขึ้นมาจากหลุมดำอันเวิ้งว้างไม่มีที่สิ้นสุดนี้แต่สุดท้ายหวังนั้นก็หลุดลอยไป...

    เอออ ทำนองนั้นแหละ เฮิร์ทไปพักนึง มีความท้อไปสามวันนั่งเลียแผลใจ ไล่พิน Quote ใน Pinterest ปลอบใจตัวเองเบาๆ 55555555

    แต่พอทำใจได้ เจ้ก็ลุกขึ้นสู้ค่ะ! ต้องขอบคุณความเจ็บแล้วไม่จำของตัวเอง และความไม่ยอมแพ้ทำให้โชคชะตาพาให้มาเจอเอมิเรตส์และกาต้าร์ และครานี้สวรรค์ก็ไม่ทำร้ายเจ้ค่ะ


    เรื่องราวเป็นอย่างไรกับการสมัครแอร์หมวกแดง และ แอร์ชุดแดงเบอกันดี สองสายหินขวัญใจสาวไทยคลิ้ก next สิจ้ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in