1990 - สร้างจากนิยายของ STEPHEN KING - 2017
เรื่องย่อ (ภาคเด็ก)
เรื่องราวของเด็ก 7 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเดอร์รี่ พวกเขาเป็นเด็กที่ต่างมีปัญหาส่วนตัวในแบบของตัวเองและตั้งชื่อแก๊งว่าพวกเด็กขี้แพ้ The Loser Club และปิดเทอมเดือนตุลานั้นเอง it ก็กลับมาไล่ล่าฆ่าเด็กในเมืองเป็นอาหารอีกครั้งและเป้าหมายของ it ในครั้งนี้ก็คือแก๊ง The Loser Club
เรื่องย่อ (ภาคผู้ใหญ่)
หลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายในตอนเด็ก It ได้กลับมาอีกครั้งและครั้งนี้มันไม่ได้มาเพื่อล่าเหยื่อเป็นอาหารแต่มันมาเพื่อล้างแค้น The Loser Club ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว และพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องฆ่ามันให้สิ้นซาก
It หรือชื่อจริง Pennywise มันคือพลังงานชั่วร้ายที่มาจากนอกโลก มันไม่มีรูปร่างที่แน่นอน มันสามารถเปลี่ยนรูปร่างไปได้เรื่อยๆตามแต่ความกลัวของคนๆนั้น และสามารถครอบงำจิตใจให้คนๆนั้นทำตามที่ตัวเองคิด เช่น เข้าสิงจิตใจให้ Henry วิกลจริตฆ่าพ่อตัวเองและไล่ล่า the loser club
มันจะออกมาล่าเหยือทุก 27 ปี มันไม่ได้กินเลือดเนื้อเป็นอาหารแต่มันกินความกลัวของเหยือตะหากฉะนั้นมันจึงชอบหลอกหลอนมากกว่าจะจู่โจมให้ตาย โดยส่วนใหญ่แล้วมันมักมาด้วยรูปลักษณ์ของตัวตลกเพราะผู้คนจำนวนมากกลัวตัวตลกนั้นเอง T H E D A N C I N G C R O W N . . .
ประเด็นที่ต้องการนำเสนอ
ก็อย่างที่พอจะรู้กันหากพิจารณาเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว อาจพูดได้ว่ามันคือการชนะความกลัวหรือการเปลี่ยนผ่านวัยเด็กไปสู่วัยอื่นๆ ซึ่งมันเจ็บปวดและไม่ได้น่าอภิรมย์เท่าไรเมื่อย้อนนึกถึง
แต่ๆ ถ้าพูดแค่นี้มันจะสั้นและง่ายไปละสิ ดังนั้นผู้เขียนจะมาลงลึกในมุมอื่นๆของเรื่องที่น่าสนใจ หลังจากชมภาพยนตร์จบ ลองสังเกตดู ผู้ใหญ่ในเมืองเดอร์รี่ ไม่มีใครสนใจไอ้เด็กพวกนี้เลย !
ไม่ว่าเด็กพวกนี้ในเรื่องจะมีปัญหาอะไร ไม่ว่าเรื่องเบเวอร์รี่โดนพ่อคุกคามหรือบิวที่พยายามจะสืบหาการตายของจอร์จจี้แต่กลับถูกพ่อแม่ห้ามไม่ให้พูดถึง มันคือการมองข้าม
ซึ่งในชีวิตจริงพวกเราต่างก็เคยถูกพ่อแม่หรือผู้อื่นมองข้าม หรือตัวเราเองนั้นละบางครั้งก็มองข้ามบางสิ่งบางอย่างไปเหมือนกัน อาจจะเพราะเรากลัวหรือมันไม่ใช่เรื่องของเราอะไรทำนองนั้น
การมองข้ามปัญหานั้นมันง่ายกว่าการแก้ไขมัน ฉะนั้นเราจึงได้เห็นข่าวมากมายของการเพิกเฉย อาทิเช่น ข่าวเด็กที่ถูกเพื่อนแกล้งและกว่าจะรับรู้ปัญหาก็สายเกินไป เด็กอาจโตมากลายเป็นคนโรคจิตหรือแย่สุดก็เสียชีวิตเลย หรือในภาพยนตร์ที่สุดท้าย Stanley ก็ฆ่าตัวตายเพราะไม่อาจต่อสู้กับความกลัวได้ หากพ่อแม่หรือสังคมใส่ใจปัญหานี้สักนิดเรื่องพวกนี้คงไม่เกิดหรอก
หรือแท้จริงแล้วการมองข้ามปัญหาของพวกเรานั้นมาจากรากที่ผิดปกติ เช่นในภาพยนตร์ มีอยู่ซีนหนึ่งที่เพนนีไวส์ได้บอกตัวละครในเรื่องว่ามันได้เข้ามาสิงสู่เมือง จำแลงเป็นบุคคลสำคัญในเดอร์รี่ ผ่านยุคสมัยต่างๆมากมายหรือก่อนจะมีเมืองเดอร์รี่ด้วยซ้ำ ไม่ว่าเหตุการณ์ ยุคไล่ล่าคนผิวสี หรือ การฆาตกรรมผู้คนต่างๆในเมือง ล้วนแต่เป็นฝีมือหรือเป็นการปลูกฝังค่านิยมผิดๆและเชื่อมโยงจิตใจเข้ากับผู้คนของเมืองได้อย่างแยบยล ทำให้ชาวเมืองเดอร์รี่ให้เพิกเฉยต่อปัญหาต่างๆหรือมองสิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูก
การปลูกฝังสิ่งผิดๆนั้นในชีวิตจริงมีทุกยุคสมัย เช่น สมัยก่อนเรามองคนผิวสีไม่ทัดเทียมเท่ากับคนผิวขาวเพียงเพราะเราไม่เข้าใจธรรมชาติของพวกเขา หรือ การเหยียด LGBT ว่าเป็นพวกบาป เพราะผิดคำสอนทางศาสนา หรือแม้แต่ปัจจุบันที่เราเหยียดคนจนว่าเป็นพวก ตลาดล่าง เพราะเราไม่เข้าใจความเลือมล้ำในสังคมที่ทำให้พวกเขาต้องเป็นแบบนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากการปลูกฝังหรือรับค่านิยมมาอย่างผิดๆ
ท้ายสุดแล้วเราจงเปิดรับและเรียนรู้ด้วยตนเองดีกว่า ว่าสิ่งใดผิดหรือถูก อย่าให้ค่านิยมหรือการปลูกฝังจากสังคม ครอบครัวหรือโรงเรียนกระทั่งศาสนามาตัดสินใจเรื่องนั้นๆแทนเรา สุดท้ายแล้วการเข้าใจสิ่งนั้นและเปิดรับอย่างไร้อคติจะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาพวกนั้นได้อย่างถาวร ความจริงและความกล้าหาญจะทำร้าย pennywise จากใจเราทุกคน
B Y E ....
#มัจฉา ธรรมมะดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in