ได้การ์ตูนชุดนี้มาจากร้าน Animate เพราะที่ร้านกำลังจัดนิทรรศการโปรโมตผลงานเรื่องนี้อยู่ มีโปรโมชันและของพรีเมียมขายด้วย ก็เลยโดนตกเพราะภาพวาดที่จัดแสดงอยู่นั่นแหละ
ในซีรีส์ ยังมีเรื่อง ละมุนรักสัตว์อสูร อีก เป็นภาคลูก (Spin off ?) แต่เพิ่งออกมาเล่มเดียวก็เลยเก็บไว้ก่อน ยังไม่อ่าน เพราะแต่ละเล่มมันช่างทิ้งช่วงห่างกันเหลือเกิน T v T
ก่อนจะรีวิว อยากจะกรีดร้องก่อนว่า เราพลาดการ์ตูนชุดนี้ไปตั้งนานได้ยังไง? อาจเป็นเพราะตอนน้้นยังใสๆ ยังรับไม่ได้กับการที่พระเอกจะเป็นสัตว์ป่าละมั้ง หรือว่าเป็นที่ราคาเล่มละ 180 เอาเป็นว่าถึงจะได้ยินใครกรีดร้องคร่ำครวญเราก็ยังทำเมินมาได้เรื่อยๆ จนกระทั่ง...งานนิทรรศการที่ร้านอนิเมทนั่นแหละ คือเค้าทำดีอยู่นะ มีเอาต้นฉบับ (มั้ง) มาปรินท์ใหญ่ๆ ให้ดู แล้วโดนลายเส้นตก อ่านเนื้อเรื่องแล้วก็โดนตกซ้ำสอง แล้วลายเส้นจิบิมันก็น่ารักมากอีก บวกกับโปรโมชันซ้ำซ้อนก็เลยโดนตกมาทีเดียวทั้งเซ็ตเลย พอได้มาอ่านแล้วก็ได้แต่กรีดร้องว่า นี่มันแนวของเราเลยนี่นาาาาา
จริงๆ แล้วในตอนแรก เรื่องนี้ถูกเขียนออกมาเป็นเล่มเดียวจบ ก็คือเรื่อง บ่วงรักสัตว์อสูร นั่นเอง โดยในเรื่องจะมีคู่รองที่ถูกกล่าวถึงนิดหน่อย แล้วปรากฏว่าคู่รองนี้ดันได้รับความนิยมจากนักอ่านมาก ก็เลยเกิดเป็นเรื่องของคู่รองขึ้นมา แล้วเรื่องของคู่รองนี้ดันยาวไปหลายเล่มเลย แถมยังมีภาคลูกงอกออกมาอีก จะเรียกว่า spin off of spin off อีกทีได้หรือไม่?
ในเรื่อง บ่วงรัก และ เสี้ยวรัก จะมีช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกันอยู่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ่วงรักก็จะถูกเล่าซ้ำในมุมมองของคู่รองในเรื่องเสี้ยวรักอีกที เพราะฉะนั้นอ่านตามลำดับไปน่าจะดีที่สุดค่ะ
บ่วงรักสัตว์อสูร (เล่มเดียวจบ)
** Spoil เล็กน้อยถึงปานกลาง **
เรื่องนี้เป็นแนว Omegaverse ที่ล้ำไปอีก เพราะเป็นโลกที่สัตว์ต่างๆ มีรูปร่างเหมือนคน (ยืน 2 ขา) และสามารถผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ โดยมนุษย์โอเมก้าจะสามารถมีความสัมพันธ์กับมนุษย์หรือสัตว์ (ในเรื่องเรียกรวมๆ ว่าอมนุษย์) ก็ได้ โดยที่อมนุษย์นั้นจะมีทายาทได้ยากก็เลยมักจะมีความสัมพันธ์กับโอเมก้า-มนุษย์เยอะๆ เข้าไว้ ส่วนมนุษย์โอเมก้าก็เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำของสังคม มักถูกใช้เป็นเครื่องมือผลิตลูก หางานดีๆ ทำก็ยากเพราะไม่ได้เรียนหนังสือ ทำงานใช้แรงงานก็ไม่ได้เพราะร่างกายไม่แข็งแรง และยังมีช่วงติดสัดทุกเดือน ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่โอเมก้าต้องเก็บตัวเพราะจะปล่อยฟีโรโมนออกมาดึงดูดอัลฟ่าแบบไม่เลือกหน้า ก็เลยใช้ชีิวิตได้ลำบากมาก
นายเอกของเรื่องนี้ คือ ไค เป็นเด็กโอเมก้าที่เกิดมาในตระกูลเบต้า พ่อแม่ไม่สะดวกจะเปิดเผยกับสังคมเพราะจะเสียชื่อเสียงเลยเอามาขายให้กับตระกูลซิกฟรีด ซึ่งเป็นตระกูลอมนุษย์ชนชั้นสูง (หมาป่า) ลูอาร์ท หนึ่งในผู้นำตระกูลคนปัจจุบันได้ตกลงรับเลี้ยงเอาไว้ ไคเข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์โดยที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโอเมก้าเลย ตอนแรกที่เจอลูอาร์ทก็หวาดกลัว แต่เพราะว่าลูอาร์ทใจดีมาก ไคก็เลยติดลูอาร์ทหนึบ เป็นครั้งแรกที่ไครู้สึกว่าได้รับความรักจากใครสักคน
ไคเติบโตขึ้นพร้อมกับค่อยๆ รับรู้ความจริงเกี่ยวกับโอเมก้าและอัลฟ่า ไคเริ่มรู้ว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไร แต่ฤดูผสมพันธุ์ก็ไม่มาถึงเสียที ฝ่ายลูอาร์ทเองก็พยายามจะที่ยืดเวลาที่ไคจะเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ไปเท่าที่ทำได้
เนื่องจากเป็นการ์ตูนเล่มเดียวจบ เรื่องราวก็จะรวบรัดๆ หน่อย โฟกัสอยู่ที่พระเอกนายเอกซะมาก มีช่วงดราม่าหน่วงๆ นิดนึงแล้วก็จบแบบหวานชื่น เนื่องจากพระเอกนายเอกเรื่องนี้เค้ารักกันมานานแล้วก็เลยไม่มีอะไรให้ลุ้นมาก สำหรับสายดราม่าต้องมาอ่านเรื่องที่สองค่ะ
เสี้ยวรักสัตว์อสูร เล่ม 1 - 4 (ไม่แน่ใจว่าจบรึยัง)
** Spoil เล็กน้อยถึงปานกลาง **
เรื่องที่สองนี่บอกเลยว่าสายดราม่าต้องชอบ ด้วยพล็อตที่เป็นแนวคนสองคนถูกจับมาผูกพันกันแบบไม่เต็มใจและไม่ได้ตั้งใจ ต่างคนต่างต้องการจะปฏิเสธความสัมพันธ์นี้แต่ก็ไม่สามารถทำได้
ดาร์ต เด็กโอเมก้ากำพร้า ถูกรับเลี้ยงอยู่ในโบสถ์แห่งหนึ่ง พร้อมกับ เบลล่า น้องสาว และเด็กโอเมก้าคนอื่นๆ ดาร์ตมีชีวิตที่ลำบาก หาเงินด้วยการขายตัวแต่ก็ได้เงินเพียงนิดหน่อย จำเป็นต้องเอาเงินนั้นไปซื้อยาระงับอาการติดสัดแต่ก็ซื้อได้แต่ยาถูกๆ คุณภาพต่ำ ดาร์ตมีความหวังที่จะหาเงินเพื่อพาน้องสาวหนีออกไปจากโบสถ์ไปใช้ชีวิตอิสระกันสองคน
วันหนึ่งขณะที่ดาร์ตออกไปหางานทำ ก็พบกับชายคนหนึ่งชักชวนไปทำงานด้วย โดยพาไปที่ชั้นใต้ดินของอาคารแห่งหนึ่ง ที่นั่นคือแหล่งค้าขายโอเมก้า (ค้ามนุษย์) ให้กับอมนุษย์อัลฟ่าที่ต้องการมีทายาท ในขณะที่ดาร์ตกำลังตกใจอยู่นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ทางการบุกเข้ามากวาดล้าง นั่นเป็นครั้งแรกที่ดาร์ตได้พบกับ จูดาห์ อมนุษย์หมาป่าแห่งตระกูลซิกฟรีด จูดาห์จะปล่อยดาร์ตไปแต่ดาร์ตก็ดันมาเกิดอาการติดสัดขึ้นมาพอดี จูดาห์ไม่สามารถทนกลิ่นฟีโรโมนที่เข้มข้นขนาดนั้นได้จึงทำให้ควบคุมสติไม่อยู่ สุดท้ายทั้งสองคนก็มีความสัมพันธ์กันโดยจูดาห์เผลอกัดคอดาร์ตไป นั่นคือการผูกพันธะระหว่างอัลฟ่าและโอเมก้ากลายเป็น [คู่] กัน
เมื่อดาร์ตตื่นขึ้นมาอีกครั้ง จูดาห์ไม่อยู่แล้ว ดาร์ตจึงกลับไปที่โบสถ์ แต่ก็เจอบาทหลวง (แพะ) เข้ามาคุกคาม จูดาห์มาช่วยไว้อีกครั้งและพาดาร์ตไปที่คฤหาสน์เพื่อไปให้ผู้ใหญ่ในตระกูลช่วยหาวิธียกเลิกความพันธะนี้ แต่ข่าวร้ายก็คือดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ใช่แค่ [คู่] ธรรมดา แต่เป็น [คู่แห่งจิตวิญญาณ] เป็นคู่ที่วิญญาณทั้งสองดวงเรียกร้องหากัน ถึงใจจะอยากปฏิเสธ หรือไม่ได้รักกัน ก็ไม่สามารถแยกจากกันได้ (เพราะจิตวิญญาณเรียกร้อง) หลักฐานก็คือ เมื่อดาร์ตถูกคนอื่นที่ไม่ใช่จูดาห์แตะต้อง ร่างกายจะเกิดการต่อต้านรุนแรงทำให้อาเจียน
ขณะที่ดาร์ตกำลังงุนงงกับเรื่องต่างๆ ที่เข้ามาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จูดาห์กลับปฏิเสธชัดเจนว่าเขา "ไม่ต้องการคู่" ดาร์ตเลยมีน้ำโหเพราะในมุมมองของเขา จูดาห์ต่างหากที่เป็นคนมากัดเขา ทำให้เขาต้องมาถูกผูกอยู่กับพันธะบ้าๆ นี่ แต่เนื่องจากจูดาห์เองเมื่อเจอคู่แล้วก็ไม่สามารถไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นได้อีกเช่นเดียวกัน ดังนั้น ดาร์ตจึงถูกบังคับให้อยู่ในคฤหาสน์ซิกฟรีดเมื่อมีทายาทให้กับจูดาห์
ดาร์ตคิดว่าถ้าตัวเองถูกจับขังไว้แบบนี้ก็คือกลายเป็นโอเมก้าที่ต้อยต่ำ ถูกกระทำตามใจ ไม่มีอิสระใด ก็เลยได้แต่ใช้วิธีเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับจูดาห์ ให้เขาจ่ายเงิน "ซื้อ" ดาร์ตเพื่อมีสัมพันธ์ด้วย อย่างน้อยก็จะได้รู้สึกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกัน มีความเท่าเทียม ไม่ได้ถูกบังคับเป็นเครื่องมือผลิตลูก
จากนั้นทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยที่ปราศจากความรัก บรรยากาศโดยรวมตลอด 4 เล่มก็คือหน่วงค่ะ สงสารดาร์ตมาก ชีวิตน่าสงสารสุดๆ ชีวิตเป็นผู้ถูกกระทำมาตลอด ถึงย้ายมาอยู่ในคฤหาสน์แล้วชีวิตจะสุขสบายขึ้นแต่ก็ไม่มีความสุขเลย นอกจากจากไม่มีใครดีด้วยอย่างจริงใจแล้ว ยังถูกพวกโอเมก้าชั้นสูงที่อยู่ร่วมคฤหาสน์ดูถูกต่างๆ นานา จูดาห์เองก็ไม่ได้มาปกป้องอะไรมากมาย แล้วที่น่าสงสารยิ่งกว่าก็คือดาร์ตเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองตั้งครรภ์ไม่ได้เพราะกินยาราคาถูกมานานเกินไปเลยเกิดผลข้างเคียง ทำให้ดาร์ตซึ่งถูกรับมาอยู่ในคฤหาสน์เพื่อผลิตทายาทเกิดความกลัวว่าถ้าความแตกว่าตัวเองมีลูกไม่ได้จะถูกขับไล่ หมดประโยชน์และไม่มีใครต้องการอีก และเรื่องยิ่งมาหน่วงเข้าไปอีกเมื่อในตอนนั้น ดาร์ตเกิดรู้สึกตัวขึ้นมาว่าไม่สามารถแยกจากจูดาห์ได้แล้ว
ส่วนจูดาห์เองก็เป็นคนที่มีปมในใจเช่นกัน เคยได้รับความเจ็บปวดมาก่อน และมีความยึดติดกับเรื่องนั้นจนปิดใจ ไม่คิดว่าตัวเองจะทำให้ใครมีความสุขได้อีก ทั้งจูดาห์กับดาร์ตก็เลยเอาแต่หนีไม่เผชิญหน้ากับความจริงกันทั้งคู่ จนกระทั่งมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้จูดาห์ได้รู้ใจตัวเองและไม่คิดจะหนีอีก หลังจากนั้นก็เป็นพาร์ทของการเปิดใจกันและกันค่ะ (หวาน)
เรื่องนี้จริงๆ แล้วน่ารักนะ เล่ม 1 กับ 2 ต้นๆ ดาร์ตจะยังเป็นเด็กหนุ่ม แต่หลังจากนั้นจะโตขึ้นเป็นชายหนุ่มเต็มตัว เราชอบดาร์ตตอนเด็กมาก มีความโวยวาย มีความใสซื่อ และเขินอายแบบเด็กๆ ชอบเวลาสองคนทะเลาะกัน มันน่ารัก มันฮา แล้วจิบิหมาป่าก็คือน่าเอ็นดูมาก นุ่มฟู (อยากกอด) แต่พอเป็นภาพปกติก็ดูน่าเกรงขาม สรุปก็คือ โดนหมาป่าตกค่ะ ไม่อยากเชื่อว่าเราจะชอบมากๆ แล้วตอนฉากหน่วงก็เจ็บที่ใจไปหมด อ่านแล้วน้ำตาจะไหลเลย (อินแหละ) งานภาพก็สวยมากค่ะ
จบเล่ม 4 นี่ก็ไม่รู้ว่าจบหรือยัง เพราะก็ไม่ได้มีคำว่าเล่มจบบอกไว้ แต่ด้วยเนื้อเรื่องมันก็ดูเคลียร์ปมทุกอย่างหมดแล้ว อ่านข้อความจากผู้เขียนก็บอกว่าเรื่องราวนี้มาถึงจุดสิ้นสุดหนึ่ง (แปลว่าจบหรือไม่จบ?) แล้วก็มีภาคลูกออกมาแล้วด้วย สรุปว่ามันอะไรยังไง เอาเป็นว่าก็รอไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเล่มใหม่ออกก็รู้เอง (เอางั้นเลยนะ)
ใครชอบแนว Omegaverse อยู่แล้ว ก็อย่าพลาดนะคะ งานดีเลยแหละ เราเองไม่ได้อ่านการ์ตูนมานานมากแล้ว เจอเรื่องนี้เข้าไปติดงอมแงม ความรู้สึกเหมือนอ่านนิยายค่ะ พล็อตดี ภาพก็สวย
แถม!! รูปภาพจากงานนิทรรศการที่ร้าน Animate
ป้ายเรียกแขก จริงๆ เราโดนตกด้วยเจ้าตัวเล็กสองตัวนั้นนะ
โปสเตอร์หน้าปกขยายใหญ่ อยากได้จัง
สองเล่มใหม่ล่าสุด ซื้อที่นี่ได้โปสการ์ดแก๊กประจำเล่ม กับโปสพิเศษเมื่อซื้อคู่สองเล่ม เหมือนซื้อกับ สนพ.
เรื่องของเด็กๆ เนี่ยมันน้วย มันนัวเนีย โดนตก!!
สแตนดี้ค่ะ อยากได้ แต่ก็แพงมว้ากกก T v T
อันนี้โปสการ์ดสุ่มเฉพาะในงาน ยอด 600 ได้ 1 ใบ นี่โดนไป 1,200 - -"
ส่วนอันนี้พวงกุญแจ น่าร้ากกก แล้วก็ซื้อเพื่อให้ยอดครบ 1,200 ด้วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in