เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ชั้นหนังสือของปุ๊กโกะจังuminaka16
บันทึกเดินงานมหกรรมนิยายนานาชาติ ครั้งที่ 2 @สามย่าน มิตรทาวน์
  • เล่าแบบรวบรัด (แล้วเหรอ ?) รูปบรรยากาศไม่มีเลยเพราะทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิว...



    งานมหกรรมนิยายนานาชาติ ครั้งที่ 2
    วันที่ 23 Oct. - 1 Nov. 2020
    สถานที่ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5

    งานมหกรรมหนังสือเพิ่งจบไป งานมหกรรมนิยายก็มาจ่อคิวทันที ถ้าถามว่าสองงานนี้ต่างกันยังไงก็ตอบได้แค่ว่าผู้จัดคนละเจ้าก็เท่านั้นแหล่ะ แล้วก็งานนี้เน้นสำนักพิมพ์ที่ขายนิยาย การ์ตูน เป็นหลัก แต่ก็มีพวกหนังสือ Non-Fiction หลงมาบ้างนิดหน่อย

    ครั้งที่แล้วเราก็ไปเดินมา ครั้งนั้นเหมือนจะไม่ได้อะไรกลับบ้านเลยเพราะว่าบ้านเราอยู่ชายขอบกรุงเทพฯ แต่งานจัดกลางเมือง เราเดินทางลำบาก ไม่สะดวกจะแบก งานนี้ก็เช่นกัน ก็เลยไปแบบไม่ได้คิดจะซื้ออะไรจริงจัง แม้จะแอบอยากได้โปรการ์ดใสของแจ่มใสที่แจกแค่ในงานนี้เท่านั้นก็ตาม (ยอด 1,500 บาท)

    งานนี้ไปเดินกับน้องสาวในกลุ่มกองดองฯ กว่าจะไปถึงงานก็บ่ายสาม! เพราะมัวแต่เถลไถลอยู่แถวพระรามเก้า งานครั้งแรกจะจัดรูทให้เดินไปตามทางที่กำหนด ทำให้ลำบากนิดหน่อยเวลาจะย้อนกลับไปหยิบหนังสือในบูทที่เดินผ่านมาแล้ว งานนี้เลยจัดเป็นลานกว้าง ๆ ไปเลย มีแค่ทางเข้าที่บังคับเดินในช่องแคบ ๆ แต่ชอบการตกแต่งนะ ใช้กระดาษมาตัดเป็นใบไม้ตกแต่งเป็นป่าดงดิบ สวยเลยแหล่ะ และแน่นอนว่าไม่มีรูปนะคะ เพราะไม่ได้คิดจะรีวิวเลย และก็มีจุด Check Point ให้ทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วก็ Stamp ใน Passport ถ้าทำได้ครบก็เอาของที่ระลึกไปซึ่งคือพัดพลาสติกลายปกหนังสือค่ะ มีให้เลือกหลายลาย

    จุด Check Point  มีทั้งหมด 8 จุด เป็นธีมนิยายแต่ละเรื่องค่ะ ลองไล่ดูนะเท่าที่จำได้

    Check Point 1 - ผนังนิยายไม่รู้จบ ช่วยกันแต่งนิยายคนละคำสองคำไปเรื่อย ๆ อันนี้สนุกดี พอมาอ่านต่อ ๆ กันแล้วอย่างฮา เรื่องราวพลิกผันวันละ 18 ตลบ หักมุมมาก ขอบอก!

    Credit: 3 รูปต่อไปนี้มาจาก Official Page International Novel Festival ค่ะ
    ตอนจะต้องเขียนต่อก็คือกุมขมับ = =' เนื้อเรื่องมันพลิกผันเหลือเกิน
    แต่สุดท้ายก็ได้ออกมาแบบนี้
    แล้วก็จบลงอย่าง Happy (?) ข้อความของเราอยู่ในหน้านี้แหล่ะ ให้เดาว่าคือตรงไหน

    Check Point 2 - แอบเนียนเป็นนักเรียนห่วย ให้พยายามทำข้อสอบให้ได้คะแนนน้อยที่สุด ซึ่งอัจฉริยะอย่างเราไม่พลาด 0 คะแนน เย่!
    0 คะแนน!! นี่ปุ๊กโกะหรือโนบิตะ!

    Check Point 3 - ไขสมบัติมังกรอำพราง ให้ล้วงกุญแจในกล่องมาไขหีบสมบัติ ไขออกก็เอาของพรีเมียมในนั้นไป แต่เราและน้องไขไม่ได้ทั้งคู่เลยไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร แต่ถ้าให้เดาน่าจะเป็นแฟ้มใสพรีเมียมที่เหลือจากงานครั้งที่แล้วเพราะเห็นบางคนเดินถืออยู่

    Check Point 4 - ซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ให้พับนกกระเรียนกระดาษคนละตัว

    Check Point 5 - ต้นส้มแสนรัก ให้เขียนความทุกข์ลงในกระดาษแล้วไปขยำทิ้งใต้ต้นส้ม

    Check Point 6 - You are my Glory ให้ถ่ายรูปกับฉากหลังแสนอลังการแล้วโพสต์ลง Social ซึ่งเราสองคนถ่ายจริงแต่ไม่โพสต์ แต่แอบเนียนไปขอ Stamp คือเขินเพราะแต่ละคนแสนจะเยิน 555

    คิดเห็นตรงกันว่าไม่ให้ใครดูจะดีกว่า XD


    Check Point 7 - มากกว่ารัก ให้เขียนฉายาของตัวเองจากวันเกิด เบอร์โทร เลขท้ายบัตรประชาชน
    ข้าคือแม่ครัวงามสุดในยุทธภพแห่งหัวมังกรน้ำแดง!

    Check Point 8 - อันนี้เขาให้โชว์ใบเสร็จซื้อหนังสือ แต่เอาเข้าจริงไม่ต้องทำอะไรเลย รับของพรีเมียมโลด
    พัดดีมีประโยชน์ ใช้พัดตอนร้อน หรือจะเอาไว้ปิดบังใบหน้าเวลาเขินอายก็ได้

    จริง ๆ แล้ว ไอเดีย Stamp Rally อันนี้ดีเลยแหล่ะ ถึงแม้ว่ากิจกรรมมันจะขำ ๆ ไม่มีอะไร แต่ก็ทำให้คนที่มาชมงานมีนู่นนี่ทำแล้วก็ได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้าน มีความทรงจำให้นึกถึง ดีกว่ามาซื้อหนังสืออย่างเดียว ซึ่งทีมงานเค้าก็พยายามคิดกิจกรรมให้เข้ากับหนังสือแต่ละโซนแล้ว ที่เราชอบที่สุดในปีนี้คือบูทต้นส้มแสนรัก เพราะว่ากองกระดาษที่ขยำ ๆ แล้วโยนใต้ต้นส้ม (ต้นส้มก็กระดาษเช่นกัน) พอเยอะ ๆ แล้วมันสวยดี เหมือนเป็นโอริกามิเลย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา

    ส่วนหนังสือที่ซื้อในงานนี้ ก็ลังเลมากระหว่างซื้อแจ่มใส 1,500 ไปเลยเพื่อเอาการ์ดใส หรือไม่ซื้อเลย ที่ไม่ค่อยอยากซื้อเพราะว่าถ้าไปสอยในช้อปปี้แล้วกดโค้ดได้มันคุ้มกว่าถูกกว่า แล้วก็ถ้าซื้อที่นี่เราต้องแบกหนังสือกลับบ้านไกลมาก หลายต่อ แล้วคือก็แก่แล้ว หลังก็ไม่ค่อยจะดี 5555 รู้สึกทรมานสังขารเกินไป แต่ถ้าซื้อที่นี่ก็จะขอใบกำกับภาษีไปลดหย่อนได้ แต่ Shopee ไม่ได้เพราะซื้อร้านย่อย ๆ ก็ลังเลอยู่นานเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ตัดใจไม่ซื้อเยอะเพราะเรื่องสังขารนี่แหล่ะค่ะ ฮาาา ก็เลยได้ คู่กิเลนค้ำบัลลังก์ เล่ม 3 มาแค่เล่มเดียว เพราะซื้อในงานมันแถมโปสการ์ดของนักวาดที่เราชอบล่ะเธอ

    เล่ม 1 กับ 2 ยังไม่มีเลย แต่ซื้อเล่ม 3 มาก่อน 555555 เรื่องนี้ของคนแต่งรัชศกฯ นะ แต่ไม่มีทั้งนางเอกและนายเอก

    แล้วก็ที่ตั้งใจไปงานนี้เพราะว่ามีพรายกระซิบ (?) บอกว่า Turing Code เล่ม 2 ที่แก้ที่แปลผิดสามารถไปเปลี่ยนได้แล้วก็เลยเอาทั้ง Turing Code และ พันสารท เล่ม 4 ไปเปลี่ยนทีเดียวเลย ทีนี้ก็เหลือแค่รอพันสารท เล่ม 3 พิมพ์ใหม่ ค่อยหาโอกาสไปเปลี่ยน
    สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนหนังสือเหมือนกัน ไปเปลี่ยนได้ที่เคาน์เตอร์ออกใบกำกับภาษีนะคะ เค้าจะกองหนังสืออยู่หลังเคาน์เตอร์นั่นแหล่ะ ไม่ต้อง-งง

    ส่วนน้องสาวของเรานั้นสอยหนังสือไปเกือบ 3,000 เพราะจะเอากระเป๋าผ้า เราเอายอดคู่กิเลนฯ ให้ไปด้วยก็เกิน 3,000 พอดี ได้ทั้งกระเป๋าผ้า การ์ดใส แล้วก็ปฏิทินแจ่มใสมา 2 อัน น้องก็เลยให้เรามาอันนึง
    กลับบ้านค่อยมาแกะดู ไม่ได้ใช้กระดาษอาร์ตมันล่ะ ดีมากเลย ชอบกระดาษแบบนี้ ปฏิทินมี 6 ลายนะคะ เป็นแนวจีนทุกแนวของแจ่มใสเลย

    นอกจากนี้ก็มีซุ้มกิจกรรมร้อยสร้อยคล้อง Mask ซึ่งถ้าว่างก็นั่งร้อยตรงนั้นได้ มีลูกปัดและเส้นเอ็นให้ฟรี แต่เนื่องจากเวลาไม่พอก็เลยเอาที่เค้าร้อยเสร็จแล้วมาเลยค่ะ เอามาใช้คู่กับ Mask มากกว่ารัก ที่ได้มาจากงานหนังสือ
    สวยมั้ยล่ะ สวยอยู่นะ

    ไปถึงงานบ่ายสาม ออกจากงานเกือบ 2 ทุ่ม ไม่อยากจะเชื่อเลย แบกหนังสือสามเล่มกลับบ้าน ปวดไหล่จัง (คือมันปวดตั้งแต่ก่อนไปงานแล้วไง)

    ของฟรีแบบรวม ๆ - ส้มจี๊ด ได้มาจาก Check Point ต้นส้มแสนรัก - ช้อกโกแลตเหรียญทอง ได้มาจาก Check Point ไขสมบัติมังกรอำพราง โปสการ์ดหนึ่งคำมั่นได้จากลงทะเบียนเข้างาน ส่วนโปสการ์ดต้นส้มได้จากการลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าค่ะ มีคูปองส่วนลดร้านนายอินทร์ 100 บาทด้วย

    ส่วนเรื่องของ Rose + อรุณ ที่ออกงานนี้ ก็สั่งพรี Shopee ล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้ง คุณผู้ช่วยสถาปนิก 1, สัตบุรุษผู้แช่มช้อย 2 แล้วก็ You are my Glory 

    ใครมีเวลาก็แวะไปเดินได้นะคะ คนไม่เยอะเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นวันหยุด ไปเดินเล่นทำกิจกรรมเพลิน ๆ ดี เอาจริงโปรโมชั่นเยอะ และ 4 เล่มลด 20% ก็ไม่แย่นะคะ แต่เสียตรงมันต้องแบกนี่แหละ แต่จะส่ง Kerry ก็มีบริการในงานเลยค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in