สวัสดีค่ะ พบกันอีกแล้วกับความเวิ่นเว้อ
วันนี้วันที่ 14 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 = คะแนนแกทแพทเด็ก60รอบแรกออกแล้วค่ะ!!
ซึ่งเราก็ได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ไปค่อนข้างเยอะ แต่เนื่องจากแพทญี่ปุ่นเราใช้เวลาอ่านเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น เลยสามารถปลอบใจตัวเองได้บ้างว่า เอาน่า อย่างน้อยคะแนนก็ไม่เลวเกว
แต่แกทอิ้งนี่ช้ำใจมากเลยทีเดียวค่ะ
disclaimer: บล็อกนี้เป็นบล็อกถูกรีเควสมานะคะ ไม่มีเจตนาใดๆแฝงไว้นะคะ งือ
อย่างที่เห็นว่าคะแนนแกทเราได้ค่อนข้างดีอยู่แต่เพราะตอนแรกหวังไว้ซะสูง พอคะแนนจริงออกมา
เลยถึงกับซึม
แต่พอมาดูในด้านของแพทบ้าง พูดตรงๆว่าช็อกมากค่ะ เราคาดเอาไว้ว่าขอ250ก็ยังดี แต่นี่ไม่ถึง
เกณฑ์คะแนนที่ประมาณไว้อย่างต่ำเลยด้วยซ้ำ วันนี้ก็เลยเป็นวันที่ซึมหนักมากค่ะ ฮา
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราสามารถฮึดอ่านแพทญี่ปุ่นภายในเดือนเดียวแล้วได้เกิน200มาได้ก็เหมือนจะเป็นอะไรที่ว้าวซ่ามาก วันนี้เลยจะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ก่อนอื่นเลย เราอยู่สายศิลป์-คำนวณค่ะ โง่เลขมาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเข้าทำไม แต่มีใจรักภาษาญี่ปุ่นมากค่ะ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวมันก็สายไปซะแล้ว
เราไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นจริงๆจังๆเลย ดูอนิเมะอย่างเดียวเลยค่ะ บวกกับที่รร.มีคลาสสอนญี่ปุ่นตอนปิดเทอม ได้เคยไปลองนั่งเรียนเลยมีพื้นฐานอยู่บ้าง แต่ตอนที่จับหนังสืออ่านจริงๆจังๆครั้งแรกก็ตอน
จะสอบN4ค่ะ ซึ่งไม่ผ่าน
หลังจากเหตุการณ์นั้นทำเอาเราระแวงในความสามารถภาษาญี่ปุ่นเราทันที เพราะเมื่อก่อนเราคิดว่า เห้ย ใช้ได้นี่หว่า มาตลอด แต่มันกลับไม่ใช่ แต่แบบนี้แล้วมันก็เป็นแรงขับเคลื่อนให้เราตั้งใจเรียนเข้าไว้มากๆดีนะคะ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ช่วงเดือนตุลาเป็นเดือนก่อนสอบแกทแพท ปิดเทอมอยู่พอดี เราเลยเอาทั้งเดือนนั้นทุ่มให้แพท
ลูกเดียวเลยค่ะ เนื่องจากแกทเราดูเหมือนจะโอเคแล้ว
สิ่งที่เราทำคือ
1. จัดตารางเวลาอ่านหนังสือ ค่ะ
การทำตารางให้เป็นระเบียบจะช่วยให้วันๆนึงของเราไม่สูญเปล่า ไม่ใช่แค่เวลาอ่านหนังสือนะคะ
แต่รวมไปถึงเวลานอน เวลาพัก เวลากินข้าวด้วย
เช่น:
07:00-08:00 ตื่น+อาหารเช้า
08:00-10:00 อ่านญี่ปุ่น
10:00-10:30 พัก
10:30-12:00 อ่านญี่ปุ่น
12:00-13:00 อาหารกลางวัน
13:00-16:00 ทำแพท
16:00-16:30 พัก
16:30-18:30 อ่านญี่ปุ่น
18:30-19:00 พัก
19:00-20:00 อาหารเย็น
20:00-22:00 อ่านญี่ปุ่น
22:00-22:30 พัก
22:30-0:30 อ่านญี่ปุ่น
0:30-07:00 นอน
แล้วเราก็ต้องพยายามอย่างมากที่สุดเพื่อที่จะทำตามตารางให้ได้ค่ะ แน่นอนมันจะมีวันที่เหนื่อยมากๆจนทำตามไม่ไหวแต่เพราะว่าตารางมันอัดแน่นมากๆอยู่แล้วพอมีวันที่เหลาะแหละมันเลยยังพอรับได้ค่ะ
พอถึงวันใกล้จะสอบแกทแล้วเราก็แบ่งช่วงอ่านญี่ปุ่นไปไล่ทำข้อสอบเก่าๆของแกทบ้าง
(ส่วนหนังสือที่เราใช้อ่านนั้นก็พวกหนังสือเตรียมสอบN4ค่ะ มีอะไรเพิ่มเติมก็ถามเน็ต)
2.หาผู้รู้ไว้ข้างกาย
ถ้ามีเพื่อนเก่งญี่ปุ่นเอาไว้จะมีประโยชน์มากๆค่ะ เวลาเราอ่านหนังสือมาทั้งวัน แน่ล่ะที่เราจะมีคำถาม
ให้จดคำถามเอาไว้แล้วค่อยไล่ถามทีเดียวตอนหมดวันค่ะ หรือถ้าไม่มี หาติวเตอร์เอาไว้ก็จะช่วยได้มากค่ะ เราก็เรียนกับพี่คนนึงในช่วงเดือนตุลาสุดโหดที่ผ่านมา เวลาได้คุยเรื่องที่เราหมกมุ่นอยู่นานๆกับ
คนอื่น โดยส่วนตัวแล้วเราว่ามันจะทำให้เราจำได้ดีและไวขึ้นมากเลยค่ะ
จบแล้วค่ะกับสองวิธีพิชิตแพทในเดือนเดียว! แต่บล็อกยังไม่จบนะ คำตอบก็คืออ่านค่ะ อ่านมันอย่างเดียว อ่านให้เยอะที่สุด
แล้วก็ทิปเล็กๆเวลาเราอ่านเราจะแยกประเภทแกรมม่าเอาไว้ในกระดาษแยกค่ะ เพราะภาษาญี่ปุ่นจะมีแกรมม่าที่ความหมายคล้ายๆกันเยอะมากๆ ทางที่ดีก็คือจับกลุ่มมันเอาไว้ แล้วค่อยๆแยกทีละตัว พยายามเข้าใจมันว่าตัวไหนสื่อถึงอะไร ใช้ยังไง แล้วมันจะจำได้แม่นเองค่ะ
ที่สำคัญก็คืออย่าลืมใช้ด้วย จำไปต้องนำไปใช้
วิธีของเราคือดูเมะค่ะ หลังจากอ่านจบสี่ทุ่มเราก็นั่งดูเมะดูซีรีย์ญี่ปุ่นไป เทตารางตอนเที่ยงคืน
แล้วจะพบว่าคำที่เรานั่งๆท่องมาทั้งวันจะเจอในเมะอย่างน้อยก็สองสามคำ และข้อดีคือเราจะสามารถจำคำนั้นๆอยู่ในฉากหนังที่เราดูได้ รับรองว่าจะไม่ลืมเลยค่ะ
เดือนตุลาทั้งเดือนเราดูเมะจบไปห้าเรื่องรวด ไม่เสียดายเลยค่ะ เพิ่มสกิลหลายๆอย่างมามากๆ
โดยเฉพาะการเชื่อมประโยค การใช้แกรมม่าหลายอย่างๆ ถ้าเรานั่งจมอยู่กับหนังสือ อยู่กับความคิด
ตัวเองอย่างเดียว ระวังจะตีความอะไรๆผิดไปนะคะ
แล้วก็โดยเฉพาะความเครียด ถ้าเราทำตามตารางเป๊ะๆแล้วไม่ทำอะไรเลย วันๆอยู่แต่กับหนังสือ
เราคงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
ที่ช่วยได้สุดๆเลยคือคำศัพท์ค่ะ ถึงจะไม่เจอในแพทก็เถอะ แต่พอเจอศัพท์ในเพลงแล้วจะจำไม่ลืมเลยค่ะ
ทั้งทำนอง ทั้งความหมาย ทั้งเวลาที่นั่งจมไปกับประโยคๆเดียว ทำให้คำที่เราเจอนั้นฝังหัวติดแน่นไปโดยปริยายเลยค่ะ
ยิบย่อยต่างๆนานาที่เราทำอีกก็พวก ทวิตเป็นภาษญี่ปุ่นบ้าง ฝึกนำมาใช้บ้าง เขียนไดอารี่เก็บไว้ในโน้ต
หรือหัดแต่งประโยคจากคำ/จากแกรมม่าที่ไม่เข้าใจหรือจำไม่ได้บ้าง
อ่านบล็อกผู้ชาย อ่านทวิตคนญี่ปุ่น หรืออื่นๆที่มีภาษาญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง
ทำทั้งหมดนี้แล้ว ก็แทบจะอ้วกออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยค่ะ วางใจได้เลย
(เทคนิคกับภาษาญี่ปุ่นของเรารวมๆไปก็คล้ายๆกับภาษาอังกฤษ
หรือก็คือจำไปแล้วฝึกใช้นั่นเองค่ะ)
ทั้งนี้ทั้งนั้นการอ่านรวดเดียวในเดือนเดียวเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างมากๆ
ถ้ามีเวลาก็ควรเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ ไม่งั้นมันจะเหนื๊อยเหนื่อย
สุดท้ายแล้วก็ขอให้ทุกคนติดคณะที่ฝันกันนะคะ がんば!
เนื้อหาของบล็อกก็ช่วยได้มากเลยค่ะกับคนที่สงสัยมากว่าผู้คนที่ศึกษาภาษากันโดยใช้เวลาไม่กี่เดือนเนี่ย เขาทำกันได้ยังไง แล้วก็ได้รู้ว่า คำว่าหนึ่งเดือนที่เรารู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ คนที่ทำได้ต้องเก่งอยู่แล้วแน่ๆ
แท้ที่จริง ก่อนจะเป็นเซียนก็ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างตั้งใจและมีวินัยในตัวเองอย่างมาก
ขอแสดงความนับถือในความอึด ถึก ทนและความใจสู้ ไม่ย่อท้อจริงๆ ค่ะ
*ขอมาร์กไว้ว่าการฝึกฝนกับสื่ออื่นๆ นอกจากจมอยู่กับหนังสืออย่างเดียวช่วยพัฒนาทักษะได้โขเลย
สุดท้ายเลยก็ขอบคุณสำหรับคำอวยพรและขอให้ติดคณะที่หวังเช่นกันนะคะ