คุณเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะอยู่อย่างนี้ได้นานแค่ไหน
หลายวันแล้ว ไม่สิ อาจจะต้องนับด้วยหลักเดือน คุณสัมผัสถึงความเหน็ดเหนื่อยได้มากเกินปกติ โหยหาอดีตที่เคยเฟื่องฟู
คุณเคยลืมตาตื่นมาพร้อมกับความคิดเรื่องงาน มันเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกับชีวิต เป็นแสงแดดที่สดใส จะว่ายังงี้ก็ได้—การทำงานทำให้คุณมีตัวตน มีความสำคัญมากอย่างไม่เคยเป็น คุณยอมแบกอะไรหลายสิ่งหลายอย่างก็เพื่อทำให้ตัวเองดูมีคุณค่า ความเป็นวัยรุ่นของคุณเต็มไปด้วยพลังงานและคุณพร้อมจะใช้มัน คุณวางเงินตราเอาไว้เป็นเบอร์รองตามประสาเด็กเจนวายที่คุณขอแค่เพียงมีตัวตนขึ้นมาบ้าง ก็นับว่าเป็นค่าตอบแทนที่คุ้มค่ามากพอ
แต่ตอนนี้คุณสงสัยว่า มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว และความรู้สึกเหล่านั้นมันหายไปไหน เหมือนผืนดินที่เคยชุ่มชื้นที่ตอนนี้กลับแห้งแล้งเกรอะกรังอย่างไม่ทันสังเกต
เป็นช่วงชีวิตที่คุณตั้งคำถาม ตามหาความยุติธรรม ทำไมคุณจะต้องทำงานหนักหนาขนาดนี้ เวียนถามอยู่ในห้วงความคิดทุกห้านาที คุณรู้สึกตัวว่าถอนหายใจบ่อยขึ้น ถ้าประโยค "ถอนหายใจหนึ่งครั้งทำให้อายุลดลงหนึ่งปี" เป็นจริง คุณคิดว่าไม่เกินห้าปีคุณน่าจะเสียชีวิต
ไม่ใช่เรื่องเล่น เพราะเท่าที่สังเกต คุณก็เริ่มวิตกกับสุขภาพร่างกายของตัวเอง จากที่เคยเชื่อมั่นว่าตัวเองแข็งแรง เป็นถึงอดีตนักกีฬา แต่ก็เป็นคุณเองที่เพิ่งถูกหามเข้าโรงพยาบาล และยังป่วยไข้รัวเป็นว่าเล่น คุณนอนดึกจนเป็นกิจวัตร อาหารการกินก็ไม่ได้นับว่าดี แถมความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวก็ยังไม่เป็นระเบียบ เหมือนโต๊ะรกๆ ที่แค่มองก็รู้สึกปวดหัว ยังไม่ต้องลงมือทำอะไรคุณก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว
นี่เองที่ทำให้คุณรู้สึกอยากจะหยุด พร้อมกับตั้งคำถามซ้ำๆ ว่าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ได้นานแค่ไหน?
แต่เวลาที่คุณถามตัวเอง คุณก็มีความรู้สึกที่ซ้อนขึ้นอยู่ในห้วงลึกของจิตใจว่านี่เป็นช่วงที่คุณเริ่มรู้สึกมีคุณค่า
คุณในวันนี้ ทำงานจนเป็นปกติ ไม่มีอะไรเกินคาดหากคุณจะทำให้เยอะยิ่งขึ้น เหมือนนกที่ตื่นเช้าเพื่อหาอาหาร ออกหาเศษหญ้ามาทำรัง และกลับรังในช่วงค่ำ มองไปข้างหน้าเพื่อการขยับขยายมุ่งหน้าขยายพันธุ์เพื่อให้วงศ์ของตัวเองยังยั่งยืนต่อไป
ใช่สิ คุณเป็นนก คุณต้องบิน ไม่มีใครชมนกหรอกที่มันบินได้ ไม่ต่างกับปลาที่ไม่เคยมีใครปรบมือให้เวลามันว่ายน้ำ
สิ่งที่จะทำให้คุณแตกต่างได้ในเวลานี้อาจต้องเป็นนก...ที่หยุดบิน
เป็นความคิดที่ตื้นเขินจนน่าขัน! แถมมันยังชวนให้คุณเริ่มตรวจสอบตัวเอง ก่อนจะพบว่านี่เป็นทัศนคติอันคับแคบจากความขี้เกียจตัวเป็นขนของตัวเอง
คุณรู้สึกแย่กว่าเดิม เมื่อพบว่าตลอดเวลาที่คิดว่าจะหยุด คุณละลายเวลาไปกับการคิดถึงความพินพังในสิ่งที่สร้างขึ้นจินตนาการว่ามันจะถล่มลงมาแบบไหน คุณคิดถึงสปีชตอนที่ยุติหน้าที่ของตัวเองนึกถึงสีหน้าของผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายที่ต้องทำหน้าเหวอและพร้อมจะลาออกตามคุณมาจนหมด และใครจะมาเป็นคนที่พิทักษ์มันได้ หากไม่ใช่คุณ!
คุณตบหน้าตัวเองด้วยสมองส่วนศีลธรรมนี่ มันไม่ใช่สิ่งที่โปรเฟสชันแนลควรจะทำ!
คุณส่ายหน้าให้กับความอ่อนหัดของตัวเอง สูดหายใจเข้าเต็มปอด คลายมันออกเชื่องช้าคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเดินห่างออกไปและควรตอ้งรีบเดินกลับเข้ามาสู่ทางเดินสายเดิมทางที่เป็นอุดมคติ เป็นในสิ่งที่คุณอยากจะเป็น คุณอยากเป็นมืออาชีพ
เหตุการณ์เลวร้ายกว่านั้น เพราะคุณเริ่มตระหนักได้แล้วว่าคุณยังไม่ใช่มืออาชีพเลย ไม่เคยใช่ คุณเพียงแค่คล้ายจะเป็นมืออาชีพเท่านั้น คุณมีเพียงเปลือก เหมือนกับไผ่ที่ลู่ลมโยกซ้ายขวา ถามหาราคาก็ไม่มีใครยกมือประมูล
และตอนนี้เองที่คุณเริ่มถามตัวเองอีกครั้งว่า ตัวเองจะใช้ชีวิตอย่างนี้ไปได้นานแค่ไหน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in